เราทำงานร้านอาหารค่ะ ต้องพบปะผู้คนมากมาย เราป้องกันตัวเองพอสมควร เพราะเรามีโรคประจำตัวหลายโรค จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เราป้องกันตัวเองโดยการใส่หน้ากากอนามัย ไม่คุยซึ่งๆหน้า ถ้าจำเป็นต้องเผชิญหน้า เราจะกลั้นหายใจ หันข้างคุย เว้นระยะห่าง เราฉีดวัคซีนตั้งแต่ต้นปีค่ะ
เมื่อสามอาทิตย์เศษที่ผ่านมาเรารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ไอแห้งๆ แต่ก็ยังไปทำงานไหว เข้าอาทิตย์ที่สองลุกไม่ขึ้นเลย นอนซมทั้งวัน เข้าวันที่สามเราไปตรวจโควิด และวันที่ 4 เราเข้าไปทำงานครึ่งวัน เพราะรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว และเพราะไม่คิดว่าตัวเองเป็นโควิด วันที่ 5 ผลออกมาว่าเราเป็นโควิด เราเลยหยุดงานต่อ แต่อาการเราก็ดีขึ้นเรื่อย เราหยุดงานต่ออีก 3 วันและกลับเข้าไปทำงาน เพราะไม่รู้สึกว่าป่วยแล้ว (หมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องกลับเข้าไปตรวจอีกรอบ)
ตอนแรกเราคิดว่า พนักงานคนอื่นๆจะติดเชื้อจากเรา โดยเฉพาะแฟนเรา เข้ามาจับหน้าผากเราทุกวัน กินอาหารเหลือของเรา นั่งรถคันเดียวกัน ไกล้ชิดกันมาก แต่แปลกที่ไม่มีใครติดเชื้อจากเราเลย แต่หลังจากที่เรากลับเข้ามาทำงานได้ 1 อาทิตย์ ก็มีพนักงานอีกคนเป็นโควิดเหมือนกัน แต่เราคิดว่าเค้าไม่น่าจะติดมาจากเรา เพราะเราแทบจะไม่ได้พูดคุยหรือเข้าไกล้กันเลย
เราลองเอามาคิดๆดูนะคะ เรามีคนที่รู้จักหลายคนเป็นโควิด มีทั้งป่วยอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล (กลุ่มนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีน) ป่วยแบบไม่หนัก กินยาแก้ไข้ธรรมดา นอนพักผ่อนและอาการหายไปในไม่ช้า (ฉีดวัคซีนแล้ว) อีกกลุ่มคือยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่อายุยังน้อย กลุ่มนี้เหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา และกลุ่มที่เสียชีวิตจากโควิด กลุ่มนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนและอยู่ในกลุ่มคนชราค่ะ
ตอนนี้เราหายจากโรคแล้ว ตอนที่หายใหม่ๆเรายังหายใจได้ไม่ทั่วท้องนะคะ หายใจยาวๆไม่ได้ แต่เราก็ฝึกหายใจเข้าออกทุกวันค่ะ เข้าอาทิตย์ที่ 3 ตอนนี้หายใจเป็นปกติแล้วค่ะ
ตอนแรกเราเคยคิดนะว่า ถ้าเราเป็นโควิด เราต้องตายแน่ๆเลย เพราะเป็นหลายโรค แปลกใจที่ตัวเองไมได้เป็นอะไรมาก นอนซมจริงๆอยู่แค่สองวัน วันแรกเราไม่ได้กินยาลดไข้ด้วยซ้ำ และเราก็เคยคิดว่ามันระบาดง่าย แต่คนไกล้ชิดเราหลายคนกลับไม่เป็นอะไร หรือว่าจะเป็นเพราะว่าเราฉีดวัคซีนแล้ว คนที่ทำงานก็ฉีดแล้วทุกคน
เราคิดว่าโควิดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตราบใดที่เราป้องกันตัวเองในระดับพื้นฐานทั่วไป สิ่งที่น่ากลัวกว่าโควิดก็คือเศรษฐกิจที่พังยับเยิน เราไม่รู้ว่าจะมีวันที่เราจะกลับไปใช้ชิวิตเหมือนได้ไหม หรือว่าเราจะต้องอยู่กับมันแบบนี้ตลอดไป ส่วนตัวเราก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจการค่ะ ไม่หวังว่ามันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
และตอนนี้มุมมองชีวิตเราไม่เหมือนเดิม เราทำอะไรช้าลง ไม่เร่งรีบเหมือนก่อน ไม่เคยดื่มกาแฟช้าขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ค่อยๆจิบ เราหันมาทำอาหารกินเองมากขึ้น ค่อยๆปรุง เลือกวัตถุดิบที่ดี ยังกินอาหารนอกบ้านบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ใช้วลาส่วนมากอยู่กับตัวเองมากขึ้น พูดจาดีๆกับคนรอบๆตัว ปัญหาใหญ่ก็เล็กลง ส่วนปัญหาเล็กๆมันก็เป็นเรื่องจิ๊ดเดียว อาจจะเพราะเรารู้สึกเหมือนเกิดใหม่มั๊งคะ เคยคิดว่าถ้าเป็นโควิดต้องตายเเน่ๆ กลัวขึ้นสมอง พอรอดมาได้เลยเหมือนเกิดใหม่เลยค่ะ เอาใจช่วยคนอื่นๆนะคะ
กลุ่มเสี่ยงสารพัดโรคอย่างเรา ทำไมถึงไม่ตายเพราะโควิด
เมื่อสามอาทิตย์เศษที่ผ่านมาเรารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ไอแห้งๆ แต่ก็ยังไปทำงานไหว เข้าอาทิตย์ที่สองลุกไม่ขึ้นเลย นอนซมทั้งวัน เข้าวันที่สามเราไปตรวจโควิด และวันที่ 4 เราเข้าไปทำงานครึ่งวัน เพราะรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว และเพราะไม่คิดว่าตัวเองเป็นโควิด วันที่ 5 ผลออกมาว่าเราเป็นโควิด เราเลยหยุดงานต่อ แต่อาการเราก็ดีขึ้นเรื่อย เราหยุดงานต่ออีก 3 วันและกลับเข้าไปทำงาน เพราะไม่รู้สึกว่าป่วยแล้ว (หมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องกลับเข้าไปตรวจอีกรอบ)
ตอนแรกเราคิดว่า พนักงานคนอื่นๆจะติดเชื้อจากเรา โดยเฉพาะแฟนเรา เข้ามาจับหน้าผากเราทุกวัน กินอาหารเหลือของเรา นั่งรถคันเดียวกัน ไกล้ชิดกันมาก แต่แปลกที่ไม่มีใครติดเชื้อจากเราเลย แต่หลังจากที่เรากลับเข้ามาทำงานได้ 1 อาทิตย์ ก็มีพนักงานอีกคนเป็นโควิดเหมือนกัน แต่เราคิดว่าเค้าไม่น่าจะติดมาจากเรา เพราะเราแทบจะไม่ได้พูดคุยหรือเข้าไกล้กันเลย
เราลองเอามาคิดๆดูนะคะ เรามีคนที่รู้จักหลายคนเป็นโควิด มีทั้งป่วยอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล (กลุ่มนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีน) ป่วยแบบไม่หนัก กินยาแก้ไข้ธรรมดา นอนพักผ่อนและอาการหายไปในไม่ช้า (ฉีดวัคซีนแล้ว) อีกกลุ่มคือยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่อายุยังน้อย กลุ่มนี้เหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา และกลุ่มที่เสียชีวิตจากโควิด กลุ่มนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนและอยู่ในกลุ่มคนชราค่ะ
ตอนนี้เราหายจากโรคแล้ว ตอนที่หายใหม่ๆเรายังหายใจได้ไม่ทั่วท้องนะคะ หายใจยาวๆไม่ได้ แต่เราก็ฝึกหายใจเข้าออกทุกวันค่ะ เข้าอาทิตย์ที่ 3 ตอนนี้หายใจเป็นปกติแล้วค่ะ
ตอนแรกเราเคยคิดนะว่า ถ้าเราเป็นโควิด เราต้องตายแน่ๆเลย เพราะเป็นหลายโรค แปลกใจที่ตัวเองไมได้เป็นอะไรมาก นอนซมจริงๆอยู่แค่สองวัน วันแรกเราไม่ได้กินยาลดไข้ด้วยซ้ำ และเราก็เคยคิดว่ามันระบาดง่าย แต่คนไกล้ชิดเราหลายคนกลับไม่เป็นอะไร หรือว่าจะเป็นเพราะว่าเราฉีดวัคซีนแล้ว คนที่ทำงานก็ฉีดแล้วทุกคน
เราคิดว่าโควิดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตราบใดที่เราป้องกันตัวเองในระดับพื้นฐานทั่วไป สิ่งที่น่ากลัวกว่าโควิดก็คือเศรษฐกิจที่พังยับเยิน เราไม่รู้ว่าจะมีวันที่เราจะกลับไปใช้ชิวิตเหมือนได้ไหม หรือว่าเราจะต้องอยู่กับมันแบบนี้ตลอดไป ส่วนตัวเราก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจการค่ะ ไม่หวังว่ามันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
และตอนนี้มุมมองชีวิตเราไม่เหมือนเดิม เราทำอะไรช้าลง ไม่เร่งรีบเหมือนก่อน ไม่เคยดื่มกาแฟช้าขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ค่อยๆจิบ เราหันมาทำอาหารกินเองมากขึ้น ค่อยๆปรุง เลือกวัตถุดิบที่ดี ยังกินอาหารนอกบ้านบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ใช้วลาส่วนมากอยู่กับตัวเองมากขึ้น พูดจาดีๆกับคนรอบๆตัว ปัญหาใหญ่ก็เล็กลง ส่วนปัญหาเล็กๆมันก็เป็นเรื่องจิ๊ดเดียว อาจจะเพราะเรารู้สึกเหมือนเกิดใหม่มั๊งคะ เคยคิดว่าถ้าเป็นโควิดต้องตายเเน่ๆ กลัวขึ้นสมอง พอรอดมาได้เลยเหมือนเกิดใหม่เลยค่ะ เอาใจช่วยคนอื่นๆนะคะ