ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 9,445 ราย เสียชีวิต 84 คน หายป่วย 11,452 ราย
https://www.thansettakij.com/breakingnews/499387
ยอดโควิดวันนี้ 12 ต.ค.64 ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9,445 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 คน หายป่วย 11,452 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,701,501 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 1,368 ราย
ยอดโควิดวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 9,445 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,244 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 201 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,701,501 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 ราย หายป่วย 11,452 ราย กำลังรักษา 108,174 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,576,929 ราย
เวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.จะมีการรายงานสถานการณ์ในประเทศไทย ถึงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
DDC Covid-19 Interactive Dashboard กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 อัพเดทวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 07.30 น. จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,445 ราย สะสม(ตั้งแต่ปี 63) 1,730,364 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 84 ราย เสียชีวิตสะสม 17,835 ราย รักษาหาย 11,452 ราย กำลังรักษา 108,174 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 2,954 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 660 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 1,368 ราย สะสม 215,082 ราย
** ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) : ไม่นับยอดรวมกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
*** ข้อมูลจำนวนการตรวจหาเชื้อ : แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่มีการคีย์เข้าระบบของทางกระทรวงฯ เท่านั้น
ยอดโควิดทั่วโลก 12 ต.ค.64 เวลา 07.10 น. Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่ 238,971,006 ราย เพิ่มขึ้น 295,895 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก รวมอยู่ที่ 4,872,082 ราย เพิ่มขึ้น 4,416 ราย หายป่วยสะสม 216,214,846 ราย เพิ่มขึ้น 367,823 ราย
5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด
อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 45,276,564 ราย(+34,966)
อันดับ 2 อินเดีย 33,984,479 ราย(+13,186)
อันดับ 3 บราซิล 21,582,738 ราย(+6,918)
อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 8,193,769 ราย(40,224)
อันดับ 5 รัสเซีย 7,804,774 ราย(+29,409)
‘หมอธีระ’ถามเปิดประเทศจะเกิดอะไรตามมา ยังได้วัคซีนครบโด๊สส่วนน้อย-ติดเชื้อหลักหมื่น
https://www.dailynews.co.th/news/365557/
"หมอธีระ" ตั้งคำถามชวนคิด จะเกิดอะไรตามมา? หากเปิดประเทศขณะที่ระบบตรวจมีศักยภาพจำกัด ประชาชนส่วนน้อยได้รับวัคซีนครบโด๊ส ติดเชื้อหลักหมื่นรายวัน
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
ที่อื่นเค้าเปิดเมื่อพร้อม
ทั้งเรื่อง…
ระบบตรวจคัดกรองพร้อม มีศักยภาพตรวจได้มาก
ประชากรส่วนใหญ่ได้วัคซีนครบสองโดส
ระบบตรวจสอบ ติดตามตัว ที่มีประสิทธิภาพ
และสถานการณ์ระบาดไม่รุนแรง คุมได้ดี
แม้กระนั้น หลายประเทศเปิดแล้วเค้าก็เจอผลกระทบตามมาชัดเจน
คำถามที่ควรคิดคือ หากเปิดขณะที่ระบบตรวจก็มีศักยภาพจำกัด ประชาชนในประเทศก็ยังได้รับวัคซีนครบโดสเป็นส่วนน้อย รวมถึงสถานการณ์ก็หลักหมื่นต่อวัน
จะเกิดอะไรตามมา?
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223247315443665
‘เมียนมา’ ออกประกาศระงับนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลชั่วคราว ลดการใช้เงินตราต่างประเทศ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6671398
นาย
ธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับแจ้งจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้งว่า กรมการค้า กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ได้ออกประกาศเรื่องระงับการอนุญาตเปิดศูนย์ขายรถยนต์ใหม่ รวมทั้งระงับการออกใบอนุญาตนำเข้าและการอนุญาตนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป
เนื่องจากเมียนมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศและส่งผล กระทบต่อการส่งออกสินค้า
โดยการออกประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้เงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าสินค้ารถยนต์ ซึ่งสินค้ารถยนต์ ภายใต้ประกาศฯ มีดังนี้
1. กรณีการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วและการนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคล
2. กรณีการนำเข้าจากศูนย์การขายรถยนต์และโชว์รูมรถยนต์ 3. กรณีที่มีการนำเข้ารายบุคคลที่ออกใบอนุญาตการนำเข้ารถยนต์ไว้กับข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือน ดีเด่น ทหารและตำรวจที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
นาย
ธัชชญาน์พล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนม.ค. – ส.ค. 2564 ไทยส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปเมียนมามูลค่า 1,991.13 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกทางชายแดนมูลค่า 1,500.34 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 75.35%
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของไทยไปเมียนมาสูงเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดย สปป.ลาว เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีมูลค่าสูงสุดคือ 3,093.31 ล้านบาท ในขณะที่กัมพูชาเป็นอันดับที่ 2 มีมูลค่า 2,433.71 ล้านบาท และมาเลเซียเป็นอันดับที่ 4 มีมูลค่า 1,880.77 ล้านบาท
“ผลกระทบต่อไทยคือ ไม่สามารถส่งออกรถยนต์ไปเมียนมาได้เป็นการชั่วคราว ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ค่าเงินจ๊าดของประเทศเมียนมา มีเสถียรภาพมากขึ้น และปัญหาความตึงเครียดด้านทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง เมียนมา น่าจะผ่อนคลายให้สามารถกลับมานำเข้ารถยนต์ได้อีกครั้ง” นาย
ธัชชญาน์พล กล่าว
JJNY : ติดเชื้อ 9,445 เสียชีวิต84│‘หมอธีระ’ถามเปิดประเทศ│เมียนมาระงับนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว│เตือนพายุ‘คมปาซุ’
https://www.thansettakij.com/breakingnews/499387
ยอดโควิดวันนี้ 12 ต.ค.64 ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9,445 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 คน หายป่วย 11,452 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,701,501 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 1,368 ราย
ยอดโควิดวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 9,445 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,244 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 201 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,701,501 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 ราย หายป่วย 11,452 ราย กำลังรักษา 108,174 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,576,929 ราย
เวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.จะมีการรายงานสถานการณ์ในประเทศไทย ถึงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
DDC Covid-19 Interactive Dashboard กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 อัพเดทวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 07.30 น. จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,445 ราย สะสม(ตั้งแต่ปี 63) 1,730,364 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 84 ราย เสียชีวิตสะสม 17,835 ราย รักษาหาย 11,452 ราย กำลังรักษา 108,174 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 2,954 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 660 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 1,368 ราย สะสม 215,082 ราย
** ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) : ไม่นับยอดรวมกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
*** ข้อมูลจำนวนการตรวจหาเชื้อ : แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่มีการคีย์เข้าระบบของทางกระทรวงฯ เท่านั้น
ยอดโควิดทั่วโลก 12 ต.ค.64 เวลา 07.10 น. Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่ 238,971,006 ราย เพิ่มขึ้น 295,895 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก รวมอยู่ที่ 4,872,082 ราย เพิ่มขึ้น 4,416 ราย หายป่วยสะสม 216,214,846 ราย เพิ่มขึ้น 367,823 ราย
5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด
อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 45,276,564 ราย(+34,966)
อันดับ 2 อินเดีย 33,984,479 ราย(+13,186)
อันดับ 3 บราซิล 21,582,738 ราย(+6,918)
อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 8,193,769 ราย(40,224)
อันดับ 5 รัสเซีย 7,804,774 ราย(+29,409)
‘หมอธีระ’ถามเปิดประเทศจะเกิดอะไรตามมา ยังได้วัคซีนครบโด๊สส่วนน้อย-ติดเชื้อหลักหมื่น
https://www.dailynews.co.th/news/365557/
"หมอธีระ" ตั้งคำถามชวนคิด จะเกิดอะไรตามมา? หากเปิดประเทศขณะที่ระบบตรวจมีศักยภาพจำกัด ประชาชนส่วนน้อยได้รับวัคซีนครบโด๊ส ติดเชื้อหลักหมื่นรายวัน
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
ที่อื่นเค้าเปิดเมื่อพร้อม
ทั้งเรื่อง…
ระบบตรวจคัดกรองพร้อม มีศักยภาพตรวจได้มาก
ประชากรส่วนใหญ่ได้วัคซีนครบสองโดส
ระบบตรวจสอบ ติดตามตัว ที่มีประสิทธิภาพ
และสถานการณ์ระบาดไม่รุนแรง คุมได้ดี
แม้กระนั้น หลายประเทศเปิดแล้วเค้าก็เจอผลกระทบตามมาชัดเจน
คำถามที่ควรคิดคือ หากเปิดขณะที่ระบบตรวจก็มีศักยภาพจำกัด ประชาชนในประเทศก็ยังได้รับวัคซีนครบโดสเป็นส่วนน้อย รวมถึงสถานการณ์ก็หลักหมื่นต่อวัน
จะเกิดอะไรตามมา?
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223247315443665
‘เมียนมา’ ออกประกาศระงับนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลชั่วคราว ลดการใช้เงินตราต่างประเทศ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6671398
นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับแจ้งจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้งว่า กรมการค้า กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ได้ออกประกาศเรื่องระงับการอนุญาตเปิดศูนย์ขายรถยนต์ใหม่ รวมทั้งระงับการออกใบอนุญาตนำเข้าและการอนุญาตนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป
เนื่องจากเมียนมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศและส่งผล กระทบต่อการส่งออกสินค้า
โดยการออกประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้เงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าสินค้ารถยนต์ ซึ่งสินค้ารถยนต์ ภายใต้ประกาศฯ มีดังนี้
1. กรณีการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วและการนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคล
2. กรณีการนำเข้าจากศูนย์การขายรถยนต์และโชว์รูมรถยนต์ 3. กรณีที่มีการนำเข้ารายบุคคลที่ออกใบอนุญาตการนำเข้ารถยนต์ไว้กับข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือน ดีเด่น ทหารและตำรวจที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
นายธัชชญาน์พล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนม.ค. – ส.ค. 2564 ไทยส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปเมียนมามูลค่า 1,991.13 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกทางชายแดนมูลค่า 1,500.34 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 75.35%
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของไทยไปเมียนมาสูงเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดย สปป.ลาว เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีมูลค่าสูงสุดคือ 3,093.31 ล้านบาท ในขณะที่กัมพูชาเป็นอันดับที่ 2 มีมูลค่า 2,433.71 ล้านบาท และมาเลเซียเป็นอันดับที่ 4 มีมูลค่า 1,880.77 ล้านบาท
“ผลกระทบต่อไทยคือ ไม่สามารถส่งออกรถยนต์ไปเมียนมาได้เป็นการชั่วคราว ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ค่าเงินจ๊าดของประเทศเมียนมา มีเสถียรภาพมากขึ้น และปัญหาความตึงเครียดด้านทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง เมียนมา น่าจะผ่อนคลายให้สามารถกลับมานำเข้ารถยนต์ได้อีกครั้ง” นายธัชชญาน์พล กล่าว