คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563
ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 20
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,135 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 20)
-มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,987 ราย (95.28%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านในวันนี้)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2853470561445164

สรุปสถานะของแต่ละประเทศตามระยะของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
จากข้อมูลการติดเชื้อ ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2563
1. ประเทศที่ยังอยู่ในระยะการระบาด กราฟยังชัน ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของการระบาดหรือกำลังอยู่ในระยะของการระบาดสูงสุด ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ลาตินอเมริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง เช่น บราซิล เม็กซิโก ชิลี เปรู แอฟริกาใต้ รัสเซีย อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน และอาจจะรวมถึงอิหร่าน และอินโดนีเซีย
2. ประเทศที่ยังใช้แนวทางปล่อยให้คนติดเชื้อจำนวนมาก เช่น สวีเดน
3. ประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ แต่ยังไม่พ้นระยะการระบาด เช่น ฟิลิปปินส์ สเปน ตุรกี อิตาลี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร มาเลเซีย
4. ประเทศที่พ้นการระบาดรอบที่หนึ่งแล้ว เช่น จีน ไทย เยอรมัน สโลวีเนีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ไอซ์แลนด์
5. ประเทศที่เกิดการติดเชื้อในระยะที่สองแต่ยังควบคุมได้ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์
6. ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่ไม่เกิดการระบาดใหญ่ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน เวียตนาม ลาว
ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดี และผ่านพ้นการระบาดในรอบที่หนึ่งแล้ว โดยไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศติดต่อกันมากกว่าสองสัปดาห์แล้ว โดยได้มีมาตรการในการผ่อนคลายแล้ว 3 ระยะ และจะเริ่มมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ซึ่งจะต้องดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระบาดรอบที่สอง
ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2853297258129161

ขอบคุณ ทุกความร่วมมือ
ติดเชื้อในประเทศ เป็น 0 ติดต่อกัน 20 วัน
แต่ยังต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/153101619641504

นายกฯ ขอบคุณคนไทยทุกคนร่วมต่อสู้ไวรัสโควิด-19 จนประเทศ "ฟื้นตัวดีสุด" ติดอันดับ 2 ของโลก
ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุด ติดอันดับ1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ได้จัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ดีที่สุด
ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่1 ของเอเชีย และอันดับที่ 2 ของโลก การจัดอันดับจาก 184 ประเทศ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้คะแนนทั้งหมด 83.32 คะแนน จากทั้งหมด 100 คะแนน ส่วนอันดับ 1 เป็นของประเทศออสเตรเลียได้ 86.34 คะแนน
ผลจากการจัดอันดับข้างต้น นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นตัวอย่างประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ทำให้ประเทศไทยได้คะแนนอันดับ 2 จากการการฟื้นตัวดีที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
GCI อธิบายว่าการจัดอันดับนี้ ให้น้ำหนักร้อยละ 70 กับการขับเคลื่อน และการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน โดยพิจารณาจาก จำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ต่อประชากร, อัตราการหายป่วยต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ, จำนวนการทดสอบหาเชื้อ ต่อผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน,จำนวนการตรวจสอบหาเชื้อต่อประชากรทั้งประเทศ ส่วนอีกร้อยละ 30 พิจารณาจากข้อมูลทางสถิติ ที่เก็บรวบรวมมาจากดัชนีความมั่นคงทางด้านสุขภาพโลก (GHS) ที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/153109092974090

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิดเป็นอันดับ 2 ของโลก จาก 184 ประเทศทั่วโลก”
กระทรวงสาธารณสุขขอบคุณทุกพลังความร่วม ขอให้ให้ร่วมเดินหน้า รักษาระดับการดำเนินการตามมาตรการ > 90% ให้พร้อมผ่อนคลายทุกมาตรการ และพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
วันที่ 11 มิถุนายน องค์กร Global COVID-19 หรือ (GCI) พัฒนาโดย PEMADU Assciates โดยความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม (MOSTI) ประเทศมาเลเซีย และ กลุ่ม sunway ซึ่งได้ใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ได้จัดคะแนนดัชนีและจัดอันดับ 184 ประเทศว่าแต่ละประเทศได้รับมือกับโรคระบาด COVID-19 ได้ดีมากน้อยเพียงใด
คะแนน 70% คิดมาจาก 2 ส่วน ได้แก่
1.กรณีที่ได้รับการยืนยันต่อประชากร โดยพารามิเตอร์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเทียบกับขนาดของแต่ละประเทศในการคำนวนค่าคะแนน
2.สัดส่วนการเสียชีวิตตามสัดส่วนเนื่องจาก COVID-19 โดยพารามิเตอร์นี้จะพิจารณาถึงอัตราการตายอย่างคร่าวๆของแต่ละประเทศและพิจารณาขนาดของประชากรแล้วเปรียบเทียบกับอัตราการตายเนื่องจาก COVID-19 นับตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วยรายแรกในประเทศ โดยค่านี้จะให้ภาพสะท้อนที่แท้จริงว่าอัตราการเสียชีวิตได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ของแต่ละประเทศได้อย่างแม่นจำ
คะแนนอีก 30% ประกอบด้วยคะแนนคงที่ที่ได้มาจากดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพโลก (GHS) ซึ่งริเริ่มโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิ้นส์ซึ่งได้รับทุนจากมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ GHS ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อประเมินความพร้อมของประเทศในการรับมือและรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดย GCI ได้จัดอันดับประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิด-19 (Ranking of Countries by Recovery Index) จากทั้งหมด 184 ประเทศ ปรากฏว่า
ประเทศไทยได้อยู่อันดับที่ 2 รองจากประเทศ ออสเตรเลีย โดยประเทศ 20 อันดับแรกมีดังต่อไปนี้
1.ออสเตรเลีย
2.ไทย
3.เดนมาร์ก
4.ฮ่องกง
5.ไต้หวัน
6.นิวซีแลนด์
7.เกาหลีใต้
8.ลิโทเนีย
9.ไอซ์แลนด์
10.สโลวาเนีย
11.ลัตเวีย
12.สวิซเซอร์แลด์
13.เวียดนาม
14.มาเลเซีย
15.นอร์เวย์
16.สโลวาเกีย
17.เยอรมัน
18.ออสเตรีย
19.ลักต์แซมเบิก
20.ฟินแลนด์
- 20 อันดับแรกมีประเทศในเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย,ฮ่องกง,ไต้หวัน,เกาหลีใต้,เวียดนาม และ มาเลเซีย โดยประเทศไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย
ข้อมูลอ้างอิง : https://covid19.pemandu.org/?fbclid=IwAR2f9-Nj-0oZp5ZvuDdiFXe1nmO-bOlhVju-Ilj66innaR4ShwREc9GJ_IU
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/152791649672501




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563
ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 20
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,135 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 20)
-มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,987 ราย (95.28%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านในวันนี้)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2853470561445164

สรุปสถานะของแต่ละประเทศตามระยะของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
จากข้อมูลการติดเชื้อ ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2563
1. ประเทศที่ยังอยู่ในระยะการระบาด กราฟยังชัน ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของการระบาดหรือกำลังอยู่ในระยะของการระบาดสูงสุด ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ลาตินอเมริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง เช่น บราซิล เม็กซิโก ชิลี เปรู แอฟริกาใต้ รัสเซีย อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน และอาจจะรวมถึงอิหร่าน และอินโดนีเซีย
2. ประเทศที่ยังใช้แนวทางปล่อยให้คนติดเชื้อจำนวนมาก เช่น สวีเดน
3. ประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ แต่ยังไม่พ้นระยะการระบาด เช่น ฟิลิปปินส์ สเปน ตุรกี อิตาลี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร มาเลเซีย
4. ประเทศที่พ้นการระบาดรอบที่หนึ่งแล้ว เช่น จีน ไทย เยอรมัน สโลวีเนีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ไอซ์แลนด์
5. ประเทศที่เกิดการติดเชื้อในระยะที่สองแต่ยังควบคุมได้ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์
6. ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่ไม่เกิดการระบาดใหญ่ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน เวียตนาม ลาว
ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดี และผ่านพ้นการระบาดในรอบที่หนึ่งแล้ว โดยไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศติดต่อกันมากกว่าสองสัปดาห์แล้ว โดยได้มีมาตรการในการผ่อนคลายแล้ว 3 ระยะ และจะเริ่มมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ซึ่งจะต้องดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระบาดรอบที่สอง
ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2853297258129161

ขอบคุณ ทุกความร่วมมือ
ติดเชื้อในประเทศ เป็น 0 ติดต่อกัน 20 วัน
แต่ยังต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/153101619641504

นายกฯ ขอบคุณคนไทยทุกคนร่วมต่อสู้ไวรัสโควิด-19 จนประเทศ "ฟื้นตัวดีสุด" ติดอันดับ 2 ของโลก
ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุด ติดอันดับ1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ได้จัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ดีที่สุด
ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่1 ของเอเชีย และอันดับที่ 2 ของโลก การจัดอันดับจาก 184 ประเทศ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้คะแนนทั้งหมด 83.32 คะแนน จากทั้งหมด 100 คะแนน ส่วนอันดับ 1 เป็นของประเทศออสเตรเลียได้ 86.34 คะแนน
ผลจากการจัดอันดับข้างต้น นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นตัวอย่างประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ทำให้ประเทศไทยได้คะแนนอันดับ 2 จากการการฟื้นตัวดีที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
GCI อธิบายว่าการจัดอันดับนี้ ให้น้ำหนักร้อยละ 70 กับการขับเคลื่อน และการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน โดยพิจารณาจาก จำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ต่อประชากร, อัตราการหายป่วยต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ, จำนวนการทดสอบหาเชื้อ ต่อผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน,จำนวนการตรวจสอบหาเชื้อต่อประชากรทั้งประเทศ ส่วนอีกร้อยละ 30 พิจารณาจากข้อมูลทางสถิติ ที่เก็บรวบรวมมาจากดัชนีความมั่นคงทางด้านสุขภาพโลก (GHS) ที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/153109092974090

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิดเป็นอันดับ 2 ของโลก จาก 184 ประเทศทั่วโลก”
กระทรวงสาธารณสุขขอบคุณทุกพลังความร่วม ขอให้ให้ร่วมเดินหน้า รักษาระดับการดำเนินการตามมาตรการ > 90% ให้พร้อมผ่อนคลายทุกมาตรการ และพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
วันที่ 11 มิถุนายน องค์กร Global COVID-19 หรือ (GCI) พัฒนาโดย PEMADU Assciates โดยความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม (MOSTI) ประเทศมาเลเซีย และ กลุ่ม sunway ซึ่งได้ใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ได้จัดคะแนนดัชนีและจัดอันดับ 184 ประเทศว่าแต่ละประเทศได้รับมือกับโรคระบาด COVID-19 ได้ดีมากน้อยเพียงใด
คะแนน 70% คิดมาจาก 2 ส่วน ได้แก่
1.กรณีที่ได้รับการยืนยันต่อประชากร โดยพารามิเตอร์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเทียบกับขนาดของแต่ละประเทศในการคำนวนค่าคะแนน
2.สัดส่วนการเสียชีวิตตามสัดส่วนเนื่องจาก COVID-19 โดยพารามิเตอร์นี้จะพิจารณาถึงอัตราการตายอย่างคร่าวๆของแต่ละประเทศและพิจารณาขนาดของประชากรแล้วเปรียบเทียบกับอัตราการตายเนื่องจาก COVID-19 นับตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วยรายแรกในประเทศ โดยค่านี้จะให้ภาพสะท้อนที่แท้จริงว่าอัตราการเสียชีวิตได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ของแต่ละประเทศได้อย่างแม่นจำ
คะแนนอีก 30% ประกอบด้วยคะแนนคงที่ที่ได้มาจากดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพโลก (GHS) ซึ่งริเริ่มโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิ้นส์ซึ่งได้รับทุนจากมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ GHS ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อประเมินความพร้อมของประเทศในการรับมือและรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดย GCI ได้จัดอันดับประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิด-19 (Ranking of Countries by Recovery Index) จากทั้งหมด 184 ประเทศ ปรากฏว่า
ประเทศไทยได้อยู่อันดับที่ 2 รองจากประเทศ ออสเตรเลีย โดยประเทศ 20 อันดับแรกมีดังต่อไปนี้
1.ออสเตรเลีย
2.ไทย
3.เดนมาร์ก
4.ฮ่องกง
5.ไต้หวัน
6.นิวซีแลนด์
7.เกาหลีใต้
8.ลิโทเนีย
9.ไอซ์แลนด์
10.สโลวาเนีย
11.ลัตเวีย
12.สวิซเซอร์แลด์
13.เวียดนาม
14.มาเลเซีย
15.นอร์เวย์
16.สโลวาเกีย
17.เยอรมัน
18.ออสเตรีย
19.ลักต์แซมเบิก
20.ฟินแลนด์
- 20 อันดับแรกมีประเทศในเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย,ฮ่องกง,ไต้หวัน,เกาหลีใต้,เวียดนาม และ มาเลเซีย โดยประเทศไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย
ข้อมูลอ้างอิง : https://covid19.pemandu.org/?fbclid=IwAR2f9-Nj-0oZp5ZvuDdiFXe1nmO-bOlhVju-Ilj66innaR4ShwREc9GJ_IU
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/152791649672501
แสดงความคิดเห็น
🛍🛍/มาลาริน/ไทยติดเชื้อโควิดใหม่ 1 ราย มาจากสหรัฐ นายกฯขอบคุณคนไทยสู้จนติดอันดับโลก โพลหนุนเปิดร.ร.ไม่หนุนเปิดผับบาร์
วันอาทิตย์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.26 น.
14 มิถุนายน 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2563 โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นนักเรียนหญิงไทย อายุ 25 ปี เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,135 ราย หายป่วยสะสม 2,987 ราย อยู่ระหว่างรักษา 90 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมยังคงที่ 58 ราย
ทั้งนี้ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน-13 มิถุนายน 2563 พบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 198 ราย รักษาหายแล้ว 108 ราย ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 7,860,752 ราย เสียชีวิตสะสม 432,200 ราย
ทั้งนี้ ในวันที่ 14 มิ.ย. จะมีคนไทยเดินทางกลับจากบาห์เรน 159 ราย เนเธอร์แลนด์ 89 ราย ออสเตรเลีย 148 ราย เกาหลีใต้ 100 ราย และฟิลิปปินส์ 200 ราย
และวันที่ 15 มิ.ย. จากอินเดีย 195 ราย สหราชอาณาจักร 250 ราย และสิงคโปร์ 30 ราย
https://www.naewna.com/local/499128
นายกฯขอบคุณคนไทยร่วมต่อสู้ไวรัสโควิดฟื้นตัวติดอันดับโลก
นายกฯขอบคุณคนไทยทุกคน ร่วมต่อสู้ไวรัสโควิด-19 จนประเทศ"ฟื้นตัวดีสุด"ติดอันดับ 2 ของโลก
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุด ติดอันดับ 1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยสมาคม PEMANDU ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาเลเซีย (MOSTI) และกลุ่มบริษัทซันเวย์ ดำเนินการจัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ดีที่สุด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลจากการจัดอันดับข้างต้น นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นตัวอย่างประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ทำให้ประเทศไทยได้คะแนนอันดับ 2 จากการการฟื้นตัวดีที่สุด
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลทราบดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ทุกฝ่ายก็ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดีที่จะให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้
ทั้งนี้ GCI อธิบายว่าการจัดอันดับนี้ ให้น้ำหนักร้อยละ 70 กับการขับเคลื่อน และการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน โดยพิจารณาจาก จำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ต่อประชากร, อัตราการหายป่วยต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ, จำนวนการทดสอบหาเชื้อ ต่อผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน,จำนวนการตรวจสอบหาเชื้อต่อประชากรทั้งประเทศ
ส่วนอีกร้อยละ 30 พิจารณาจากข้อมูลทางสถิติ ที่เก็บรวบรวมมาจากดัชนีความมั่นคงทางด้านสุขภาพโลก (GHS) ที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์
https://www.innnews.co.th/politics/news_698898/
https://www.thansettakij.com/content/438330
ข่าวดีที่ไทยไม่ติดเชื้อโควิดในประเทศมีมาทุกวันค่ะ
แต่คนไทยยังกลัวโควิดอยู่ จึงต้องใส่ใจ 6 มาตรการ นี้ไว้นะคะ
ช่วยกันปราบโควิดค่ะ....