สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่แยกทางกันตอนเราอยู่ม.ปลาย ก่อนหน้านั้นปกติเราจะอาศัยอยู่กับแม่เป็นหลักอยู่แล้ว เพราะพ่อไปทำงานต่างจังหวัด กลับบ้านเดือนละ 2-3 วันเท่านั้น เราเลยจะมีความผูกพันธ์กับแม่มากกว่า ตอนที่พ่อแม่หย่ากันไม่มีใครบอกเราเลยว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าจู่ๆพ่อก็หายออกไปจากบ้านแล้วไม่ติดต่อมาอีกเลยเกือบ 2 ปี เราเองตอนนั้นก็ไม่กล้าถามแม่ตรงๆ ช่วงนั้นเราเครียดมากแอบร้องไห้ทุกวัน ที่เราเครียดคือเราไม่ได้เสียใจที่พ่อแม่หย่ากันนะคะ แต่เครียดเพราะพ่อเราทั้งคนหายไปเลยเป็นปีๆ แล้วพ่อก็เพิ่งติดต่อมาตอนเราเรียนมหาลัยค่ะ จนตอนนี้เราเรียนจบมหาลัยแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่พ่อคุณแม่หย่ากันจวบจนถึงปัจจุบัน เราน่าจะได้เจอคุณพ่อประมาณ 4 ครั้งได้ (โดย 2 ปีล่าสุดยังไม่ได้เจอเลยค่ะ เพราะมีโควิด)
จุดประสงค์ของเราในการมาตั้งกระทู้คือต้องการมาระบายและหาวิธีแก้ไขความรู้สึกของตนเองค่ะ เนื่องจากเรารู้สึกไม่ผูกพันธ์กับพ่อเลย เพราะ 85% ในชีวิตคือแม่เลี้ยงมา นอกจากนี้พ่อยังเป็นคนหัวโบราณสไตล์ baby boomer ตั้งแต่สมัยที่เรายังเด็กแล้ว เช่น เวลาเราทำอะไรแล้วท่านคิดว่าเราทำผิดท่านก็จะดุเรายาวมากๆ พอเราแย้งว่าเราไม่ผิดท่านก็จะบอกว่าห้ามเถียงผู้ใหญ่ ต่อให้ไม่ได้ผิดก็ฟังเอาไว้ ซึ่งหลายๆอย่างมันไม่ make sense มากๆ กับแม่ก็ทำค่ะ เพราะแม่อายุน้อยกว่าคุณพ่อค่อนข้างเยอะ ทุกครั้งที่เขาสองคนทะเลาะกัน คุณพ่อก็ค่อนข้างจะรุนแรง (ไม่เคยทำร้ายร่างกาย แต่จะทำลายข้าวของ ใช้คำพูดรุนแรง) สรุปก็คือท่านเป็นคนค่อนข้าง toxic สำหรับเรา แล้วการที่ท่านทั้งสองทะเลาะกันต่อหน้าเราตั้งแต่เด็กมันก็ค่อนข้างจะฝังใจมาก แม้ต่อมาหลังจากท่านหย่ากับแม่แล้ว เรากับพ่อจะคุยกันดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้คุยถูกคอเพราะทัศนคคติไม่ตรงกันเลย แล้วก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่ทำให้เรารู้สึกสะกิดใจกับพ่อด้วยค่ะ เช่น ตั้งแต่พวกท่านหย่ากันมาเกือบ 7 ปี พ่อแทบไม่เคยส่งเสียเราเลย ค่ากินอยู่ ค่าเทอม แม่เป็นคนออกหมด จะมีออกให้ก็คือค่าโน้ตบุ๊ค หมื่นกว่าๆ กับโอนเงินมาให้ใช้จ่ายรวมๆแล้วทั้งหมดประมาณ 40,000 บาท ซึ่งเราแอบรู้สึกว่าท่านน่าจะออกตัวรับผิดชอบมากกว่านี้ (เงินจำนวนแค่นี้ยังจ่ายค่าเทอมเทอมเดียวไม่ได้เลย) อีกเรื่องคือเหมือนพ่อน่าจะเคยนอกใจแม่ด้วยค่ะ (ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตอนเด็กๆเคยเจอแชทที่ท่านคุยกับผญ.วัยมหาลัย แต่พ่อปฎิเสธว่าไม่เคยนอกใจ)
ปัญหาของเราคือ
เราแทบไม่อยากติดต่อ พูดคุยหรือไปเจอกับพ่อเลยค่ะ มัน awkward แล้วก็เจ็บปวดมากๆ (เป็นความรู้สึกที่ปนเปกันระหว่างความเป็นห่วงในฐานะลูกกับความรู้สึกผิดเพราะไม่ได้ผูกพันธ์และไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้) เวลาจะโทรไปหรือไลน์ไปหาเราต้องทำใจนานมากๆ พอคุยเสร็จก็จะร้องไห้เกือบทุกครั้ง ยิ่งช่วงหลังเขาชอบพูดตัดพ้อให้ฟังว่าชีวิตเขารันทดตั้งแต่เด็ก มาตอนนี้ก็ไม่เหลือใคร กิจการที่ต่างจังหวัดก็ไปได้ไม่ค่อยดี รถใกล้พังก็ไม่มีเงินซ่อม บางครั้งก็อยากติดโควิดจะได้รีบตายๆไป เราฟังแล้วยิ่งเครียดมากๆ แต่ตัวเราเองก็ทำอะไรไม่ได้เยอะเพราะยังไม่มีรายได้ จะให้เราไปอยู่ต่างจังหวัดกับท่านเป็นครั้งคราวมันก็ทำใจลำบากมาก (ยอมรับว่าเราติดสบาย เพราะสภาพบ้านที่อยู่ปัจจุบันกับบ้านพ่อคือคนละอย่างเลย บวกกับความรู้สึกไม่ดีต่างๆที่อยู่ในใจและความแปลกหน้าต่อกัน จะให้ไปอยู่ด้วยกัน 2 คนมันคงไม่เวิร์ค) แต่อีกใจนึงเราก็รู้สึกว่าพ่ออายุเยอะแล้ว อาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นาน เรามีพ่อคนเดียว ต่อให้จะไม่ได้รู้สึกรัก แต่ก็อยากปฎิบัติกับท่านให้ดีที่สุด ทุกวันนี้เราทำได้มากสุดคือไลน์ไปหาวันเว้นวัน แล้วก็พยายามโทรหาท่านให้ได้อาทิตย์ละครั้ง (เมื่อก่อน 3เดือนครั้ง) แต่ก็ยังรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีพอ เพราะต้องสู้กับใจตัวเองอีกด้านหนึ่งที่ยังมีความรู้สึกแย่ๆอยู่
จากปัญหาของเรา เราจึงอยากมาถามเพื่อนๆชาวพันทิปว่า
1) มีใครที่มี hate-love relationship กับพ่อแม่ตัวเองบ้างมั้ยคะ แล้วคุณจัดการกับความรู้สึกนั้นยังไงไม่ให้มันไม่กัดกินใจเราจนเกินไปคะ
2) คนที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อ/ แม่ตัวเอง แล้วท่านอยู่คนเดียวมีวิธีดูท่านยังไงกันบ้างคะ
3) คิดว่าจากปัญหาของเรา หากไปพบนักจิตวิทยาจะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อพ่อดีขึ้นบ้างมั้ยคะ เพราะเราคิดถึงท่านทีไรก็ร้องไห้ตลอด(ด้วยความรู้สึกในใจที่ยังตีกันอยู่) ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว อยากแก้ไขปมด้อยอันนี้ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกท่านล่วงหน้าค่ะ
ไม่ผูกพันธ์กับพ่อ แต่ก็ต้องฝืนทำหน้าที่ลูก จัดการความรู้สึกยังไงดีคะ
จุดประสงค์ของเราในการมาตั้งกระทู้คือต้องการมาระบายและหาวิธีแก้ไขความรู้สึกของตนเองค่ะ เนื่องจากเรารู้สึกไม่ผูกพันธ์กับพ่อเลย เพราะ 85% ในชีวิตคือแม่เลี้ยงมา นอกจากนี้พ่อยังเป็นคนหัวโบราณสไตล์ baby boomer ตั้งแต่สมัยที่เรายังเด็กแล้ว เช่น เวลาเราทำอะไรแล้วท่านคิดว่าเราทำผิดท่านก็จะดุเรายาวมากๆ พอเราแย้งว่าเราไม่ผิดท่านก็จะบอกว่าห้ามเถียงผู้ใหญ่ ต่อให้ไม่ได้ผิดก็ฟังเอาไว้ ซึ่งหลายๆอย่างมันไม่ make sense มากๆ กับแม่ก็ทำค่ะ เพราะแม่อายุน้อยกว่าคุณพ่อค่อนข้างเยอะ ทุกครั้งที่เขาสองคนทะเลาะกัน คุณพ่อก็ค่อนข้างจะรุนแรง (ไม่เคยทำร้ายร่างกาย แต่จะทำลายข้าวของ ใช้คำพูดรุนแรง) สรุปก็คือท่านเป็นคนค่อนข้าง toxic สำหรับเรา แล้วการที่ท่านทั้งสองทะเลาะกันต่อหน้าเราตั้งแต่เด็กมันก็ค่อนข้างจะฝังใจมาก แม้ต่อมาหลังจากท่านหย่ากับแม่แล้ว เรากับพ่อจะคุยกันดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้คุยถูกคอเพราะทัศนคคติไม่ตรงกันเลย แล้วก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่ทำให้เรารู้สึกสะกิดใจกับพ่อด้วยค่ะ เช่น ตั้งแต่พวกท่านหย่ากันมาเกือบ 7 ปี พ่อแทบไม่เคยส่งเสียเราเลย ค่ากินอยู่ ค่าเทอม แม่เป็นคนออกหมด จะมีออกให้ก็คือค่าโน้ตบุ๊ค หมื่นกว่าๆ กับโอนเงินมาให้ใช้จ่ายรวมๆแล้วทั้งหมดประมาณ 40,000 บาท ซึ่งเราแอบรู้สึกว่าท่านน่าจะออกตัวรับผิดชอบมากกว่านี้ (เงินจำนวนแค่นี้ยังจ่ายค่าเทอมเทอมเดียวไม่ได้เลย) อีกเรื่องคือเหมือนพ่อน่าจะเคยนอกใจแม่ด้วยค่ะ (ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตอนเด็กๆเคยเจอแชทที่ท่านคุยกับผญ.วัยมหาลัย แต่พ่อปฎิเสธว่าไม่เคยนอกใจ)
ปัญหาของเราคือ เราแทบไม่อยากติดต่อ พูดคุยหรือไปเจอกับพ่อเลยค่ะ มัน awkward แล้วก็เจ็บปวดมากๆ (เป็นความรู้สึกที่ปนเปกันระหว่างความเป็นห่วงในฐานะลูกกับความรู้สึกผิดเพราะไม่ได้ผูกพันธ์และไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้) เวลาจะโทรไปหรือไลน์ไปหาเราต้องทำใจนานมากๆ พอคุยเสร็จก็จะร้องไห้เกือบทุกครั้ง ยิ่งช่วงหลังเขาชอบพูดตัดพ้อให้ฟังว่าชีวิตเขารันทดตั้งแต่เด็ก มาตอนนี้ก็ไม่เหลือใคร กิจการที่ต่างจังหวัดก็ไปได้ไม่ค่อยดี รถใกล้พังก็ไม่มีเงินซ่อม บางครั้งก็อยากติดโควิดจะได้รีบตายๆไป เราฟังแล้วยิ่งเครียดมากๆ แต่ตัวเราเองก็ทำอะไรไม่ได้เยอะเพราะยังไม่มีรายได้ จะให้เราไปอยู่ต่างจังหวัดกับท่านเป็นครั้งคราวมันก็ทำใจลำบากมาก (ยอมรับว่าเราติดสบาย เพราะสภาพบ้านที่อยู่ปัจจุบันกับบ้านพ่อคือคนละอย่างเลย บวกกับความรู้สึกไม่ดีต่างๆที่อยู่ในใจและความแปลกหน้าต่อกัน จะให้ไปอยู่ด้วยกัน 2 คนมันคงไม่เวิร์ค) แต่อีกใจนึงเราก็รู้สึกว่าพ่ออายุเยอะแล้ว อาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นาน เรามีพ่อคนเดียว ต่อให้จะไม่ได้รู้สึกรัก แต่ก็อยากปฎิบัติกับท่านให้ดีที่สุด ทุกวันนี้เราทำได้มากสุดคือไลน์ไปหาวันเว้นวัน แล้วก็พยายามโทรหาท่านให้ได้อาทิตย์ละครั้ง (เมื่อก่อน 3เดือนครั้ง) แต่ก็ยังรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีพอ เพราะต้องสู้กับใจตัวเองอีกด้านหนึ่งที่ยังมีความรู้สึกแย่ๆอยู่
จากปัญหาของเรา เราจึงอยากมาถามเพื่อนๆชาวพันทิปว่า
1) มีใครที่มี hate-love relationship กับพ่อแม่ตัวเองบ้างมั้ยคะ แล้วคุณจัดการกับความรู้สึกนั้นยังไงไม่ให้มันไม่กัดกินใจเราจนเกินไปคะ
2) คนที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อ/ แม่ตัวเอง แล้วท่านอยู่คนเดียวมีวิธีดูท่านยังไงกันบ้างคะ
3) คิดว่าจากปัญหาของเรา หากไปพบนักจิตวิทยาจะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อพ่อดีขึ้นบ้างมั้ยคะ เพราะเราคิดถึงท่านทีไรก็ร้องไห้ตลอด(ด้วยความรู้สึกในใจที่ยังตีกันอยู่) ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว อยากแก้ไขปมด้อยอันนี้ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกท่านล่วงหน้าค่ะ