แฟนที่แม่ชอบในวันนั้น แต่ท่านไม่เอาในวันนี้ ควรทำยังไง??

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะระบายซะมากกว่าเป็นการตั้งคำถามนะ ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่า ผมเคยตั้งกระทู้แนวปัญหาชีวิตคู่มาประมาณ2กระทู้แล้วล่ะ จนผ่านมาถึงวันนี้ ผมก็ยังคบกันดีกับแฟนปัจจุบันที่ผมตั้งกระทู้ระบายเรื่องของเธอ เหมือนเราเข้าใจและปรับจูนกันได้มากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทั้งการทะเลาะ เถียงกัน จนตัวผมเริ่มจะเข้าใจตัวเค้า เค้าเข้าใจตัวผมมากยิ่งขึ้น เข้าเรื่องเลยละกันครับ. ผมคบกับแฟนคนนี้ก็คบกันได้สัก3ปีครึ่งละ จนตอนนี้ต่างคนก็ต่างทำงาน ทำหน้าที่ของตนเพื่อสร้างตัว เพื่อมีรายได้ ผมเองค่อนข้างจะมีงานที่มั่นคงในระดับนึง เงินเดือนไม่เยอะ พอกิน ส่วนตัวของแฟนผมก็เรียนจบมาได้ไม่นานก็ได้ทำงานที่ก็ค่อนข้างมั่นคงเช่นกัน แต่มีสภาพความกดดันเยอะกว่าผม นั่นคือ ทั้งสภาพการทำงานที่ต้องทำตามยอด ตามเป้า และ เพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายที่ค่อนข้างเข้มงวดกับเค้ามาก ซึ่งผมรับฟังปัญหาของแฟนทุกวัน รับรู้ปัญหาเหล่านั้นทุกวัน ช่วงแรกผมฟังแต่ก็ให้คำแนะนำว่าอดทนไปก่อน วันหน้าอาจจะดีขึ้น มันเป็นเรื่องปกติของสังคมการทำงาน(โดยที่ตัวผมก็ไม่ได้ไปยืนอยู่ในจุดที่เค้าต้องเจอ) แฟนผมก็อดทนทำงานที่สามารถทำได้ แต่ก็ถูกเจ้านายบี้ ทำยอดตามเป้า เพื่อนร่วมงานที่อายุเยอะกว่าแทบจะเป็นรุ่นแม่ หรือมนุษย์ป้าใช้คำพูดรุนแรง หรือ น้ำเสียงที่กดดันบ้าง(อันนี้คือแฟนผมถ่ายทอดให้ฟัง) ในบางวันแฟนผมก็มาร้องไห้กับผม เธอทนทำงานมา3จะ4เดือนกับที่นี่ เค้าอยากลาออก ผมได้แต่ให้เค้าคิด ทบทวนดีๆ ว่าจะลาออกจริงไหม หรือเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แล้วถ้าออกมา แผนต่อไป จะทำอะไรเพื่อเป็นรายได้ แฟนผมก็คิดจริงที่จะออก จะทิ้งเงินเดือนเกือบ2หมื่นสำหรับเด็กจบใหม่ ซึ่งตัวผมรับฟังแผนของแฟนผมเรียบร้อย ผมไม่ติดอะไรถ้าเธอคิดจะลาออก ผมกลับให้กำลังใจเค้าว่าดีแล้ว ที่รู้ตัวไว ดีกว่ามาทนทุกข์กับงานที่เงินตอบแทนสูงจริงแต่นำมาซึ่งความเครียดกดดัน ข้าวเช้าไม่ได่กิน เลิกค่อนข้างจะค่ำเลย สรุปคือผมไม่ติด และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องให้แฟนผมทนต่อไป แต่ผมดันมาเจอเรื่องราวคือ แม่ผมโทรมาหาผมแล้วถามว่า ตัวผมเองรู้สึกยังไงที่แฟนของผมจะลาออก (ต้องบอกก่อนครับว่าที่ทำงานแห่งนี้เป็นที่ทำงานที่แม่ของผมแนะนำแฟนผมให้ลองมาสมัครและยื่นเรซูเม่ สอบสัมภาษณ์นะ ส่วนนึงเป็นเพราะแม่ผมแนะนำให้ แต่อีกส่วนที่เข้าไปทำงานได้ก็ต้องบอกว่าเค้าเข้าไปเพราะความสามารถในการตอบคำถามการสัมภาษณ์ได้ดีเอง) ผมก็บอกแม่ไปว่าไม่ได้ติดอะไรครับ ตัวผมอยากให้อิสระกับแฟน ถ้าเค้าออกมาเค้าก็ต้องหางานอย่างอื่นแทน ผมอยากให้แฟนของผมเลือกเองบ้าง ต่อให้แฟนผมลาออกแล้วแย่กว่าเดิมอย่างน้อยเค้าก็เลือกเอง แต่ถ้าลาออกแล้วดีกว่าเดิมอย่างน้อยเค้าก็เลือกเอง บางทีที่เราไปแนะนำให่เค้าทำงานที่นี่บางทีเค้าอาจไม่ถนัดจริงๆ นี่คือคำตอบที่ผมตอบแม่ออกไป . แต่ไม่จบเท่านั้น แม่ผมพูดต่อว่า นี่ถ้าเป็นดาว(ชื่อแฟนเก่าผม นามสมมุติ) ได้มีโอกาสทำงานตรงนี้ มันคงจะเก่งและทำได้เนอะ . #ผมงงกับคำพูดนี่ของแม่ผมมาก ว่าที่ท่านพูดออกมาท่านจะสื่อถึงอะไร ผมถึงยัอนถามกลับไปว่า ทำไมเมื่อ2ปีก่อน แม่ถึงบอกว่า คนนี่เหมาะสมกับผมล่ะ แล้วทำไมวันนี้ วันที่แฟนผมที่วันนนั้นที่แม่ยังชม กลับมาวันนี้แม่ถึงพูดแบบนี่กับผมล่ะ แค่เค้าทำงานที่แม่เลือกหรือแนะนำให้ไม่ไหวแล้วจะออก แม่ถึงกับมาพูดแบบนี่กับผมเลยหรอ ผมสับสนและงงมากว่าแม่ต้องการจะสื่ออะไร ในหัวคิดแต่ว่า เมื่อ2ปีก่อนแม่บอกคนนี่แหละดี เหมาะกับผม มาวันนี้บอกว่าแฟนเก่าผมเก่งและคงทำงานนี้ได้ ผมงงว่าที่ท่านพูดมาสื่ออะไร ก็เถียงกันด้วยน้ำเสียงที่ปกติแหละครับ กระทู้นี้มันก็เป็นเหมือน กึ่งคำถาม กึ่งระบายซะมากกว่า ถ้าหากท่านใดหลงเข้ามาอ่านแล้วทำให้ท่านเสียเวลา ต้องขอโทษด้วย  หากใครมีข้อคิดเห็นอะไร เม้นได้เลยครับ ผมรับฟังและพร้อมนำมาคิด #หากแท็กผิดห้องต้องขออภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่