สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมว่าพระเอกมีนิสัยแบบทำอะไรตามอารมณ์น่ะ ตอนนั้นรู้สึกยังไงก็ทำไปตามอารมณ์ไม่ได้มีเหตุผลรองรับอะไร อย่าลืมว่าพระเอกเป็นคนใช้ชีวิตล้มเหลวมาตลอดเพราะนิสัยประหลาดๆของเขา
รวยไปยืมเงิน - ตอนนั้นเขายังรู้สึกผิดต่อเรื่องที่เกิด คนตายไปก็ตั้งเยอะ โกงก็โกง เขายังไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชนะ มันเหมือนลาภมิควรได้ อย่างน้อยเขาก็โกงคุณปู่จนชนะ คุณปู่ก่อนยอมแพ้เขาก็รู้ว่าพระเอกโกง อะไรทำนองนี้ เขาเลยไม่อยากเอาเงินมาใช้ มันรู้สึกผิดในใจ
ต่อมาเขาไปเล่นเกมชนะคุณปู่ นั่นแหละที่เขารู้สึกว่าเขาชนะแล้ว เขาเลยกล้าเอาเงินมาใช้ เพราะมันปลดล๊อคความรู้สึกเขาแล้ว เขาโกงคุณปู่ แต่คุณปู่ก็โกงทุกคนเพราะเขาเป็นเจ้าของเกม เขาบงการทุกอย่าง เขารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไร และเข้าแทรกแซงถูกจังหวะตลอด แม้แต่ชักเย่อถ้าปู่ไม่สอนวิธีก็ไม่ชนะหรอก
ย้อมผมแดง - คือเขาไปตัดผมก่อนเพราะเขาเลือกจะใช้เงินแล้ว เริ่มจะกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ต้องทำ ชีวิตมูฟออนแนวๆนั้น(เริ่มจากไปรับน้องชายของหญิงเกาหลีเหนือ) แต่เขาไปเห็นภาพคนผมแดงเลยคิดว่ามันเปลี่ยนตัวเขาไปอย่างสิ้นเชิง(สรุปคือแค่จะไปตัดผมให้มันดูดีก่อนไปทำธุระกับทางการ ผมแดงคือผลพลอยได้) พอตัดผมแดงมาแล้วพระเอกดูเข้มแข็งขึ้นจริง เริ่มทำในสิ่งจริงจัง เขาเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด ในระดับสติปัญญาของเขา(รับเด็กแล้วมาฝากคนแก่เพราะไม่อยากให้คนแก่เหงาเพราะยังไงพระรองก็ไม่มีวันกลับมาหาแม่เขาแล้ว และตัวเอกก็จะต้องเดินทางไปหาลูกที่อเมริกา)
ไม่ยอมไปหาลูกแต่ไปเล่นเกม - เจตนาของพระเอกไม่ได้โกรธแค้น แต่ต้องการช่วยคน เพราะถ้าเกมมันเริ่มจะมีคนตายมากมาย สังเกตได้จากที่เขาไปแทรกแซงการเล่นเกมท้าตบหน้าที่สถานีรถไฟ เขาแค่อยากช่วยคน
พระเอกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวช่วย เดี๋ยวโกง เดี๋ยวเลิก เดี๋ยวกลับ คือเขาตามอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะทำเขาจะมีอารมณ์นั้นก่อน กลัวก็เลิก หมดหวังก็กลับ กลัวตายก็โกง ไม่รู้สึกกลัวก็เกิดอยากช่วยคนอื่น(พระเอกจะช่วยคนอื่นเมื่อตัวเองไม่ตกอยู่ในสภาวะหลังชนฝา เช่น ตอนกระจก เขาอยู่ลำดับสุดท้าย เสนอพระรองให้โหวตเลิก ตอนที่พระรองโดนอัดจนนอนแผ่แล้ว)
ผมว่าเรื่องนี้มันลึกไป ในการตีความ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบที่พระเอกเป็นคนแบบนั้น โดยเฉพาะการตัดสินใจไม่ขึ้นเครื่อง
สรุปการตัดสินใจทำอะไรของพระเอกไม่ได้กลวงโบ๋ขนาดนั้น แค่เขาเป็นคนนิสัยประหลาดๆเท่านั้นเอง ถ้าเป็นคนคิดอ่านรอบคอบชีวิตจะล้มเหลวจนต้องมาเล่นเกมนี้ไหม ก็คงไม่ และไม่ใช่เฉพาะพระเอก ทุกคนที่มาเล่นเกมต่างก็มีปัญหาด้านการตัดสินใจทั้งนั้น ชีวิตเขาเลยต้องเป็นอย่างนั้น
เพิ่ม* ภาคต่อไปที่เขาว่ามีแน่ ผมก็คิดว่าคนเขียนบทต้องคิดหนักเลย แต่ผมก็ไม่คิดว่าพระเอกจะกลับไปเป็นผู้เล่นเพราะจะวางพลอตยากเกินไป คิดว่าพระเอกแค่แสดงตัวว่าชั้นรู้ว่าพวกแกทำอะไรชั้นจะหยุดพวกแก อาจจะใช้เงินที่ได้มา สร้างพรรคพวกเพื่อไปหยุดยั้งเกมจากนอกสนามอะไรแบบนี้ คืออันนี้ผมมโนเอานะ
รวยไปยืมเงิน - ตอนนั้นเขายังรู้สึกผิดต่อเรื่องที่เกิด คนตายไปก็ตั้งเยอะ โกงก็โกง เขายังไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชนะ มันเหมือนลาภมิควรได้ อย่างน้อยเขาก็โกงคุณปู่จนชนะ คุณปู่ก่อนยอมแพ้เขาก็รู้ว่าพระเอกโกง อะไรทำนองนี้ เขาเลยไม่อยากเอาเงินมาใช้ มันรู้สึกผิดในใจ
ต่อมาเขาไปเล่นเกมชนะคุณปู่ นั่นแหละที่เขารู้สึกว่าเขาชนะแล้ว เขาเลยกล้าเอาเงินมาใช้ เพราะมันปลดล๊อคความรู้สึกเขาแล้ว เขาโกงคุณปู่ แต่คุณปู่ก็โกงทุกคนเพราะเขาเป็นเจ้าของเกม เขาบงการทุกอย่าง เขารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไร และเข้าแทรกแซงถูกจังหวะตลอด แม้แต่ชักเย่อถ้าปู่ไม่สอนวิธีก็ไม่ชนะหรอก
ย้อมผมแดง - คือเขาไปตัดผมก่อนเพราะเขาเลือกจะใช้เงินแล้ว เริ่มจะกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ต้องทำ ชีวิตมูฟออนแนวๆนั้น(เริ่มจากไปรับน้องชายของหญิงเกาหลีเหนือ) แต่เขาไปเห็นภาพคนผมแดงเลยคิดว่ามันเปลี่ยนตัวเขาไปอย่างสิ้นเชิง(สรุปคือแค่จะไปตัดผมให้มันดูดีก่อนไปทำธุระกับทางการ ผมแดงคือผลพลอยได้) พอตัดผมแดงมาแล้วพระเอกดูเข้มแข็งขึ้นจริง เริ่มทำในสิ่งจริงจัง เขาเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด ในระดับสติปัญญาของเขา(รับเด็กแล้วมาฝากคนแก่เพราะไม่อยากให้คนแก่เหงาเพราะยังไงพระรองก็ไม่มีวันกลับมาหาแม่เขาแล้ว และตัวเอกก็จะต้องเดินทางไปหาลูกที่อเมริกา)
ไม่ยอมไปหาลูกแต่ไปเล่นเกม - เจตนาของพระเอกไม่ได้โกรธแค้น แต่ต้องการช่วยคน เพราะถ้าเกมมันเริ่มจะมีคนตายมากมาย สังเกตได้จากที่เขาไปแทรกแซงการเล่นเกมท้าตบหน้าที่สถานีรถไฟ เขาแค่อยากช่วยคน
พระเอกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวช่วย เดี๋ยวโกง เดี๋ยวเลิก เดี๋ยวกลับ คือเขาตามอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะทำเขาจะมีอารมณ์นั้นก่อน กลัวก็เลิก หมดหวังก็กลับ กลัวตายก็โกง ไม่รู้สึกกลัวก็เกิดอยากช่วยคนอื่น(พระเอกจะช่วยคนอื่นเมื่อตัวเองไม่ตกอยู่ในสภาวะหลังชนฝา เช่น ตอนกระจก เขาอยู่ลำดับสุดท้าย เสนอพระรองให้โหวตเลิก ตอนที่พระรองโดนอัดจนนอนแผ่แล้ว)
ผมว่าเรื่องนี้มันลึกไป ในการตีความ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบที่พระเอกเป็นคนแบบนั้น โดยเฉพาะการตัดสินใจไม่ขึ้นเครื่อง
สรุปการตัดสินใจทำอะไรของพระเอกไม่ได้กลวงโบ๋ขนาดนั้น แค่เขาเป็นคนนิสัยประหลาดๆเท่านั้นเอง ถ้าเป็นคนคิดอ่านรอบคอบชีวิตจะล้มเหลวจนต้องมาเล่นเกมนี้ไหม ก็คงไม่ และไม่ใช่เฉพาะพระเอก ทุกคนที่มาเล่นเกมต่างก็มีปัญหาด้านการตัดสินใจทั้งนั้น ชีวิตเขาเลยต้องเป็นอย่างนั้น
เพิ่ม* ภาคต่อไปที่เขาว่ามีแน่ ผมก็คิดว่าคนเขียนบทต้องคิดหนักเลย แต่ผมก็ไม่คิดว่าพระเอกจะกลับไปเป็นผู้เล่นเพราะจะวางพลอตยากเกินไป คิดว่าพระเอกแค่แสดงตัวว่าชั้นรู้ว่าพวกแกทำอะไรชั้นจะหยุดพวกแก อาจจะใช้เงินที่ได้มา สร้างพรรคพวกเพื่อไปหยุดยั้งเกมจากนอกสนามอะไรแบบนี้ คืออันนี้ผมมโนเอานะ
แสดงความคิดเห็น
Squid Game ไปไม่สุด เพราะบทมั่วซั่วของพระเอก
- เรื่องราวการสืบจับองค์กร โดยมีตำรวจแฝงตัว การไล่ล่า
- เรื่องราวชายหนุ่มจริงใจจากต่างประเทศ ความเชื่อใจ การหักหลัง
- มิตรภาพแท้ของสองสาวแม้เพิ่งจะเจอกันไม่นาน การเสียสละ
- การเอาชนะเกมการใช้กำลังด้วยสมอง
- การที่ชายแข็งแกร่งกลับแพ้ผู้หญิงที่อ่อนแอ
- การแทรกซึม การทำธุรกิจลับในองค์กร
- การแบกรับภาระแทนคนตายให้ตายแบบไม่สูญเปล่า
แต่ละเรื่องแต่ละประเด็นทำได้ดีมาก
ตัดฉากมาที่พระเอก...
- เล่นตี่จับ
- ย้อมผมแดง
- รวยก็ยังไปยืมเงินคนอื่น
พร้อมบทที่ไม่เมคเซ็นส์ตอนท้ายๆ เรียกได้ว่าไม่มีอะไรเลย
จริงๆจะเป็นหนังเกรด A แล้ว ถ้าไม่มีบทมั่วๆของพระเอก