มาดู Squid Game เพราะมีคนแชร์มุก เลียน้ำตาลใน FB ก็เลยลองหาดูหน่อย
ส่วนตัวชอบมาก ๆ เลยนะครับ การตัดสินใจของตัวละครหลาย ๆ คนที่ดูไม่สมเหตุสมผลมันทำให้ดูเหมือนชีวิตจริงมากขึ้น
เพราะมนุษย์มักจะตัดสินใจหลาย ๆ อย่างที่ไร้เหตุผลตลอดเวลา
1. การพนันทำให้ชีวิตพินาศ ตัวเอกของเรารักแม่ก็รักนะ แต่ก็กู้หนี้มาเล่นพนัน เพราะคิดว่าการพนันมันจะทำให้มีเงินใช้ (ถ้าแทงถูก)
- อันนี้ก็จะเห็นได้โดยทั่วไปเลย ทีชีวิตทำงานก็ไม่พอใช้แล้ว แต่ก็กู้หนี้ยืมสิน ดอกเบี้ยโหด ๆ มิหนำซ้ำว่างไม่ได้ก็เล่นพนันอีก พ่อแม่อยู่บ้าน ก็ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู แต่ถามว่ารักมั้ย ทั้งหอมทั้งกอด กราบเท้าเลยก็มี
2. เมื่อมีคำว่าเงินมหาศาลคนเราจะตัดสินใจ ก็มักจะไม่สมเหตุสมผลทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างตอนแรกที่มีคนขอให้ยกเลิกเกมเพราะมีลูกยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย แต่พอเห็นจำนวนเงินรางวัลเท่านั้นแหละ โหวตเล่นต่อซะอย่างงั้น
หลังจากออกไปรอบแรก ก็กลับมารอบถัดมาอยู่ดีอย่างเต็มใจทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะเงินรางวัลมันดึงดูดใจมาก และคิดว่าตัวเองน่าจะรอด
- ซึ่งตรงนี้ในความเป็นจริงก็มีคนจำนวนไม่น้อยยอมเอาชีวิตตัวเองไปแลก กับเงินที่มีมูลค่ามหาศาล อย่างพวกปล้นธนาคาร หรือ คอร์รัปชัน(ในจีน) คือรู้ทั้งรู้ว่าถ้าพลาดขึ้นมาคือชีวิต แต่เงินมันหอมหวานซะเหลือเกินเลย โดยคิดว่าไม่น่าโดนจับหรอก
- หรือพวกแก๊งตกทรัพย์ต่าง ๆ ที่เอาของมาล่อดึงดูดใจ หลายคนก็เสียเงินไปเพราะของดึงดูดใจเหล่านั้นเนี่ยแหละ (บางคนขายบ้านขายรถ เอาที่ไปจำนองเลยก็มี)
3. ความเท่าเทียมในสังคมมันไม่ยุติธรรม แม้ผู้คุมเกมจะบอกเสมอว่าเน้นความเท่าเทียม ทุกคนเล่นเกม ๆ เดียวกัน กติกาเดียวกัน ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเล่นเกมอะไร แต่ตัวเกมก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
- ก็คงคล้าย ๆ กับลงทะเบียนต่าง ๆ ที่เปิดให้ลงเวลาเดียวกัน แต่ใครที่อุปกรณ์ดีกว่า อินเตอร์เน็ตดีกว่า ก็ได้สิทธิก่อน มันดูเหมือนเท่าเทียม แต่มันไม่ยุติธรรมเลย (และอีกหลาย ๆ เรื่อง)
4. ยิ่งใกล้เงินรางวัลเท่าไหร่ เรายิ่งเดิมพันหนักขึ้น จนไม่ได้คำนวณผลตอบแทนต่อความเสี่ยงอีกต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในฉากกระจก เอาจริง ๆ มันก็รู้อยู่ว่าโอกาสที่จะชนะน้อยมาก 9 คนแรกถ้าโหวตเลิกเล่นเกม ก็สามารถทำได้ จริงอยู่ที่ว่าออกไปก็ไม่มีเงินแต่มันก็ทำให้เกม reset ได้ แล้วตัวเองก็จะไม่ใช่คนแรกที่ไปเสี่ยงก็ได้ในครั้งต่อไป
- เหมือนคนที่เล่นหวย โอกาสถูกหวยไม่ง่ายเลย แต่พองวดไหนเฉียดไปนิดหน่อย งวดหน้าเล่นหนักขึ้นเลย โดยไม่ได้คำนวณว่ามันคุ้มหรือไม่ ก็พร้อมที่เดิมพันเมื่อมันใกล้เฉียดจะได้รางวัลนั้นแล้ว
- พวกตู้คีบตุ๊กตาเช่นกันคีบมาเกือบถึงแล้วหล่นก่อน บางทีตัวเดิมคีบได้เป็นสิบ ๆ ครั้ง ของรางวัลที่ได้ก็ไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปเลย
5. คนเรามักไม่ค่อยให้ค่าชีวิตคนอื่นที่ไม่รู้จัก หรือคนที่คิดว่าไม่มีคุณค่าให้สังคม แต่พอถึงคราวตัวเองจะตายก็จะกลัวเหมือนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เจ้าหน้าที่ชุดแดง ที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น แต่พอถึงจังหวะที่ตัวเองจะโดนฆ่ากลับกลัวหัวหดไปซะอย่างงั้น
หรือ VIP ที่เห็นคนอื่นตายเป็นเรื่องสนุก เหมือนเกม ๆ นึง แต่พอตัวเองโดนปืนจ่อหัวก็ทำไรไม่ถูกเช่นกัน
- อันนี้เป็นปกติทั่วไปเลย การเรียกร้องให้ประหารอาชญากร เพราะเราไม่รู้จัก แต่ถ้าคนนั้นเป็นญาติพี่น้องเรา เราคงคิดอีกแบบทันที
- อย่างโรค COVID 19 ตอนแรกที่มีข่าวว่าประเทศอื่นมีผู้เสียชีวิตเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอถึงคราวที่เราและครอบครัวของเรามีโอกาสเสียชีวิต เราจะเริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นมาทันที
- กรณีการดูหนัง ถ้าตัวประกอบอื่นโดนฆ่าตายเราก็จะไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าเป็นตัวละครที่เรารู้จักถูกฆ่าตาย เราจะสะเทือนใจกว่า
และนี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกได้จากหนังเรื่องนี้นะครับ เพราะผมก็ตั้งคำถามว่าทำไมตัดสินใจอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแบบนั้นกับคนรอบตัวอยู่บ่อย ๆ ที่สำคัญก็คือมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีการเรียนรู้ น่าจะคิดได้สิ บางคนก็ถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาดกันเลย แต่ก็ไม่เปลี่ยน
สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท วางแผนการใช้ชีวิตดี ๆ ไม่ใช้จ่ายจนเกินตัว ไม่ก่อหนี้นอกระบบ ไม่หวังรวยทางลัด มิเช่นนั้นชีวิตของเราอาจจะพบจุดจบที่ไม่สวยก็ได้ครับ
มีใครรู้สึก Squid Game เป็นหนังที่สะท้อนความเป็นจริงของสังคมได้ดีเหมือนผมบ้างครับ
ส่วนตัวชอบมาก ๆ เลยนะครับ การตัดสินใจของตัวละครหลาย ๆ คนที่ดูไม่สมเหตุสมผลมันทำให้ดูเหมือนชีวิตจริงมากขึ้น
เพราะมนุษย์มักจะตัดสินใจหลาย ๆ อย่างที่ไร้เหตุผลตลอดเวลา
1. การพนันทำให้ชีวิตพินาศ ตัวเอกของเรารักแม่ก็รักนะ แต่ก็กู้หนี้มาเล่นพนัน เพราะคิดว่าการพนันมันจะทำให้มีเงินใช้ (ถ้าแทงถูก)
- อันนี้ก็จะเห็นได้โดยทั่วไปเลย ทีชีวิตทำงานก็ไม่พอใช้แล้ว แต่ก็กู้หนี้ยืมสิน ดอกเบี้ยโหด ๆ มิหนำซ้ำว่างไม่ได้ก็เล่นพนันอีก พ่อแม่อยู่บ้าน ก็ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู แต่ถามว่ารักมั้ย ทั้งหอมทั้งกอด กราบเท้าเลยก็มี
2. เมื่อมีคำว่าเงินมหาศาลคนเราจะตัดสินใจ ก็มักจะไม่สมเหตุสมผลทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ซึ่งตรงนี้ในความเป็นจริงก็มีคนจำนวนไม่น้อยยอมเอาชีวิตตัวเองไปแลก กับเงินที่มีมูลค่ามหาศาล อย่างพวกปล้นธนาคาร หรือ คอร์รัปชัน(ในจีน) คือรู้ทั้งรู้ว่าถ้าพลาดขึ้นมาคือชีวิต แต่เงินมันหอมหวานซะเหลือเกินเลย โดยคิดว่าไม่น่าโดนจับหรอก
- หรือพวกแก๊งตกทรัพย์ต่าง ๆ ที่เอาของมาล่อดึงดูดใจ หลายคนก็เสียเงินไปเพราะของดึงดูดใจเหล่านั้นเนี่ยแหละ (บางคนขายบ้านขายรถ เอาที่ไปจำนองเลยก็มี)
3. ความเท่าเทียมในสังคมมันไม่ยุติธรรม แม้ผู้คุมเกมจะบอกเสมอว่าเน้นความเท่าเทียม ทุกคนเล่นเกม ๆ เดียวกัน กติกาเดียวกัน ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเล่นเกมอะไร แต่ตัวเกมก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
- ก็คงคล้าย ๆ กับลงทะเบียนต่าง ๆ ที่เปิดให้ลงเวลาเดียวกัน แต่ใครที่อุปกรณ์ดีกว่า อินเตอร์เน็ตดีกว่า ก็ได้สิทธิก่อน มันดูเหมือนเท่าเทียม แต่มันไม่ยุติธรรมเลย (และอีกหลาย ๆ เรื่อง)
4. ยิ่งใกล้เงินรางวัลเท่าไหร่ เรายิ่งเดิมพันหนักขึ้น จนไม่ได้คำนวณผลตอบแทนต่อความเสี่ยงอีกต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เหมือนคนที่เล่นหวย โอกาสถูกหวยไม่ง่ายเลย แต่พองวดไหนเฉียดไปนิดหน่อย งวดหน้าเล่นหนักขึ้นเลย โดยไม่ได้คำนวณว่ามันคุ้มหรือไม่ ก็พร้อมที่เดิมพันเมื่อมันใกล้เฉียดจะได้รางวัลนั้นแล้ว
- พวกตู้คีบตุ๊กตาเช่นกันคีบมาเกือบถึงแล้วหล่นก่อน บางทีตัวเดิมคีบได้เป็นสิบ ๆ ครั้ง ของรางวัลที่ได้ก็ไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปเลย
5. คนเรามักไม่ค่อยให้ค่าชีวิตคนอื่นที่ไม่รู้จัก หรือคนที่คิดว่าไม่มีคุณค่าให้สังคม แต่พอถึงคราวตัวเองจะตายก็จะกลัวเหมือนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- อันนี้เป็นปกติทั่วไปเลย การเรียกร้องให้ประหารอาชญากร เพราะเราไม่รู้จัก แต่ถ้าคนนั้นเป็นญาติพี่น้องเรา เราคงคิดอีกแบบทันที
- อย่างโรค COVID 19 ตอนแรกที่มีข่าวว่าประเทศอื่นมีผู้เสียชีวิตเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอถึงคราวที่เราและครอบครัวของเรามีโอกาสเสียชีวิต เราจะเริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นมาทันที
- กรณีการดูหนัง ถ้าตัวประกอบอื่นโดนฆ่าตายเราก็จะไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าเป็นตัวละครที่เรารู้จักถูกฆ่าตาย เราจะสะเทือนใจกว่า
และนี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกได้จากหนังเรื่องนี้นะครับ เพราะผมก็ตั้งคำถามว่าทำไมตัดสินใจอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแบบนั้นกับคนรอบตัวอยู่บ่อย ๆ ที่สำคัญก็คือมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีการเรียนรู้ น่าจะคิดได้สิ บางคนก็ถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาดกันเลย แต่ก็ไม่เปลี่ยน
สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท วางแผนการใช้ชีวิตดี ๆ ไม่ใช้จ่ายจนเกินตัว ไม่ก่อหนี้นอกระบบ ไม่หวังรวยทางลัด มิเช่นนั้นชีวิตของเราอาจจะพบจุดจบที่ไม่สวยก็ได้ครับ