มันถึงเวลาที่ต้องเล่าแล้วค่ะ เรายอมตกต่ำค่ะถ้ามันจำเป็น

เราย้ายจากหอในมหาวิทยาลัยไปอยู่หอนอกเจอเหตุการณ์แปลกๆ คือเราไม่ใช่คนเก็บตัวนะค่ะแต่เราก็ไม่ใช่คนเที่ยว ตอนนั้นย้ายไปหอนอกเรากลับมาจากฝึกงานใหม่ๆ ประสบการณ์จากการฝึกงานทำให้เราเห็นว่า เราควรขยัน เพราะเราได้ไปอยู่กับคนเก่งๆ  เรากลับมาเลยทำให้เรา อยากตั้งใจเรียน อยากอ่านหนังสือ อยากสอบคอมพลีให้ผ่าน ช่วงแรกๆตั้งใจอ่านมากไม่ไปไหนเลย แต่หลังๆเริ่มปลง เพราะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซะก่อน  วันนึงเราดันไปนั่งคุยกับเพื่อนที่ไม่เจอกันนานแล้วไม่รู้ว่าเราคุยแล้วไปทำให้เพื่อนไม่พอใจอะไรรึเปล่า หลังจากนั้นเราก็เจอเรื่องมีคนมาด่าแม่เราที่หน้าหอพักทุกวัน แล้วเราก็เจอผู้ชายคนนึงซึ่งเรารู้สึกว่าเจอบ่อยเกินไป เจอกันโดยบังเอิญหลายครั้งมาก ซึ่งหลายครั้งมันรวมกับการไปเจอในสถานการณ์ไม่ดี เช่น ตอนที่เกิดเหตุการณ์มีคนมาแอบท่ามมองชุดชั้นในเรา  มีคนมาพูดว่าพูดdirty talk เรื่องบนเตียง ซึ่งเมื่อก่อนเราจะไม่ชินกับเรื่องพวกนี้ ในเรื่อง18+ มากค่ะ คือเราไม่รู้ว่าเขาพูดกับแฟนเขาแล้วเราดันไปได้ยินเข้ารึเปล่า นอกนั้นก็มีเจอคนรู้จักคนอื่นด้วยแต่ไม่บ่อย ซึ่งหอเรา กับถนนกับซอยแคบๆและหอตรงข้ามที่ชิดกันมาก เสียงมันก็สามารถที่จะผ่านเข้ามาได้ เพราะเสียงมันก็เดินทางผ่านอากาศได้ เราได้ยินแบบนี้ทุกวันค่ะ ไปอ่านหนังสือกับเพื่อนก็มีเสียงผู้ชายคนนี้ตามไปรบกวน ถามเพื่อนแล้วเพื่อนก็บอกว่าได้ยิน นั่งเรียนในห้องรบกวนมาก ไปที่ไหนก็ได้ยิน ใส่หูฟังก็ได้ยิน กลับหอที่ซึ่งเป็นที่ส่วนตัวของชุ้นนก็ยังได้ยิน  ไปกินข้าวกับเพื่อน จนครั้งนึงเพื่อนถามว่านั่งยิ้มหัวเราะอะไรคนเดียว เลยถามเพื่อนว่าได้ยินเสียงไหม เสียงคนพูด...ง เพื่อนบอกไม่ได้ยินกันหมด เพื่อนเลยบอกว่าไปหาหมอดูก่อนไหม มันไม่น่าจะโอเค
เลยตัดสินใจไปหาหมอ โดยมีเพื่อนในกลุ่มพากันไปค่ะ ไปหาหมอเสร็จเขาก็ให้ไปพบหมอที่โรงพยาบาล เพื่อนก็ตามไปส่งด้วย ตอนเข้าไปตรวจเพื่อนก็เข้าไปด้วย หมอก็ทำการซักประวัติ แล้วก็ให้ทำแบบประเมินประมานว่ามีภาพมาให้ดูแล้วหมอถาม สรุปนะค่ะหมอเขียนไว้ในใบวินิจฉัยว่า Hallucination  แล้วหมอก็หันมาถามเราว่าคิดว่าเป็นอะไร เราก็บอกว่าหูได้ยินมากกว่าปกติค่ะ แต่เราเหลือบไปเห็นในใบที่หมอเขียนเราเลยถามหมอกลับไปว่า หนูประสาทหลอนหรอค่ะ หมอก็อธิบาย แล้วบอกว่าเราอาจจะเก็นะหูแว่วหรือเห็นภาพหลอนได้(อธิบายเยอะกว่านี้แต่จำไม่ได้) แต่เราก็พยายามอธิบายให้หมอฟังว่าเราเห็นจริงๆ ได้ยิน แต่หมอเหมือนพยายามจะบอกเราให้เราเข้าใจว่าเราคิดไปเอง เป็นเพราะสารเคมีในสมองมากกว่า แต่เราก็พอเข้าใจได้เพราะหมอไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเราหมอไม่เข้าใจเรา สุดท้ายเราก็ต้องเข้ารับการรักษา 
ช่วงแรกๆเรากินยาแล้วหยุด เพราะมี ADR เรียนไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ถ้ากินต่อเรียนไม่จบแน่นอนประกอบกับตอนนั้นเราต้องไปฝึกงานที่ไกลมาก ตอนนั้นเราไม่กินยาเพราะไม่นั้นเราจะฝึกงานไม่ได้เลย จึงต้องหยุดยาแบบไม่บอกหมอ เรารู้สึกช่วงหลังก่อนกลับ มีคนมาตะโกน เห็นรถคันสีแดงตามเราไปถึงที่เราพักตอนฝึกงานเลยค่ะ คราวนี้เป็นแก็งค์ผู้หญิงค่ะวัยเดียวกับเราหน้าตาคุ้นๆบางคนอาจมองว่าเพราะคนอย่างแกไม่กินยาไงเลยเป็นแบบนี้ 555
ตอนแรกพอกลับไปปรึกษาที่บ้านที่บ้านยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะในครอบครัวไม่เคยมีใครเป็นมาก่อน แต่ตอนหลังเขาพยายามเข้าใจและต้องรับให้ได้ว่าลูกเขาเป็นแบบนี้ หลังจากกลับจากฝึกงานตอนนั้นขาดการติดต่อกับ รพ.ไปค่ะ ยาไม่ได้กิน แต่สุดท้ายต้องกลับมากินเพราะหลายๆปัจจัยค่ะ  แล้วก็ยังมีอาการปวดแสบปวดร้อน เจ็บหัวนม ปวดมากค่ะ(ตอนหลังไปหาหมอหมอบอกอักเสบให้กินยาแก้อักเสบไปก่อนนะแต่ก็ไม่หายค่ะ) ปีสุดท้ายของการเรียนต้องทำวิจัยจบและอีกหลายเรื่องทั้งฝึกงานและบลาๆ บวกกับสอบใบประกอบ ตอนนั้นทั้งเครียดทั้งยังได้ยินเสียงค่ะยิ่งต้องอ่านหนังสืออีก ทำไมมันไม่ผ่านสักทีนะ  แล้วสุดท้ายก็ผ่านเกือบหมด และเรียนจบรับปริญญา จนคิดว่าชีวิตเจออะไรแย่มาพอแล้ว ไปบวชค่ะ ด้วยความเรียนจบมาบนไว้และตั้งใจไว้จะบวชด้วยเลยไปบนว่าจะบวชชีโกนหัวนะ (เคยบวชชีพราหมณ์ก่อนหน้านี้ด้วยตอนนั้นให้ปิดวาจาทำไม่ได้เลยค่ะ เอาแต่ร้องไห้) พอได้บวชโอเคขึ้นนะค่ะ แต่หมอจิตเวชบอกว่าให้พอแค่นี้ ให้หายก่อนถ้าจะบวชค่อยบวชนะตอนแรกตั้งใจจะบวช 1เดือนแต่หมอดันได้บวชแค่นี้ ไม่เป็นไรค่ะไว้มีโอกาสค่อยไปบวชใหม่แล้วกันถ้าตั้งใจแล้วก็คงได้บวชไปรักษาก่อนค่ะ  เราข้ามมาปัจจุบันเลยนะปัจจุบันก็ยังได้ยินเสียงอยู่ค่ะแต่กินยาตลอด ไม่ค่อยดีขึ้นหมอเลยแนะนำว่าให้ใช้กระแสไฟฟ้าดีไหมแค่แนะนำค่ะยังไม่ทำการรักษา ให้กินยาชุดนี้ก่อนถ้าดีขึ้นอาจจะไม่ต้อง ค่ายาครึ่งของเงินเดือนค่ะ55จะบ้าตาย แต่ก็ต้องยอมค่ะอยากหายใช้ยานอกบัญชีไม่มีผลข้างเคียง หมอก็พยายาช่วยเราเต็มที่ค่ะทั้งมีเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิป่าวไม่แน่ใจค่ะถ้าผิดขอโทษด้วยค่ะทั้ง ให้คำปรึกษา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่หายค่ะ อยู่บ้านที่บ้านก็ไม่ค่อยโอเคเลยยยยยยย  เราแค่ขอพื้นที่ให้เราได้เล่า เป็นอุทาหรณ์ให้คนหอนอกระวังตัวด้วยนะ อาจจะเป็นการวางตัวของเราเมื่อก่อนด้วยที่ไม่โอเค ไม่รู้จะจบกระทู้ยังไง เขียนไม่ค่อยเก่ง ครั้งนี้เขียนเยอะสุดแล้ว จบแค่นี้แล้วกันค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่