ขอช่วยดูงานแปลภาษาไทยจากภาษาจีน ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมและระบบสังคมของจีนโบราณ

ฉันเรียนภาษาไทยมาสี่ปีแล้ว ครั้งนี้จะมีงานแปล 2 ชิ้น ขอมีคนไทยหรือคนจีนที่เชี่ยวชาญภาษาไทยช่วยดูหน่อยว่า งานแปลเหล่านี้เข้าใจได้หรือไม่ มีอะไรจะต้องแก้ไข ขอบคุณมากค่ะ

ชื้นแรก:
ระบบสังคม
 
ระบบทะเบียนบ้าน (ภาษาจีนว่า 户籍 หู้จี๋)
 
หมายถึงเอกสารทางกฎหมายที่ออกแบบโดยหน่วยงานปกครองซึ่งรับผิดชอบงานสำมะโนครัว เพื่อบันทึกและรักษาข้อมูลพื้นฐานของบุคคลต่าง ๆในครอบครัวไว้  ในจีนโบราณมักจะเรียกว่า “ติงจี๋/เช่อ” (丁籍“ติง” ในภาษาว่าสามัญชน) “หวงจี๋/เช่อ” (黄籍 ทะเบียนข้อมูลประชาชนบนกระดาษสีเหลือง)  หรือ “จี๋จ้าง” (籍账 สมุดบัญชีประชาชน)
ระบบทะเบียนบ้านเป็นระบบที่ได้รับการปฏิบัติตั้งนานที่สุดในจีน ตั้งแต่การก่อรูปในสมัยราชวงศ์ซัง ต่อมาได้พัฒนา ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ ดังที่ตัวหนังสือจีนโบราณที่จารลงบนกระดองเต่าบันทึก ในสมัยราชวงศ์ซังก็เริ่มดำเนินการจดทะเบียนข้อมูลส่วนบุคคล ถือเป็นจุดเริ่มต้นของระบบทะเบียนบ้านของจีน ยุคสมัยซีโจวได้สร้างสรรค์วิธีทะเบียนข้อมูลสามัญชนแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการก่อรูปของระบบทะเบียนบ้านอย่างเป็นทางการ ต่อมาเมื่อสมัยจ้านกว๋อ เริ่มจากรัฐฉินกว๋อ ระบบทะเบียนบ้านค่อย ๆ มีการพัฒนาตลอดมา ปี 375 ก่อนค.ศ. หรือที่รัชศกฉินเสี้ยนกง(秦献公)ปีที่ 10 ฝ่ายทางการสั่งให้ดำเนินระบบทะเบียนบ้านตามแบบกลุ่มละ 5 ครอบครัว  ภาษาจีนว่า   户籍相伍制度  ปี 231ก่อนค.ศ. ฝ่ายทางการกำหนดว่าผู้ชายทุกคนไม่ว่าบรรลุอายุ / นิติภาวะหรือไม่ จำเป็นต้องจดทะเบียนข้อมูลบุคคล จนกระทั่งสมัยราชวงศ์ถัง ระบบทะเบียนบ้านค่อย ๆ พัฒนาจนสมบูรณ์และจำกัดโดยกระทรวงครัวเรือนของจีน(ภาษาจีนว่า ฮู่ปู้ 户部) ระบบทะเบียนบ้านได้สืบทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า  สรุปว่าฝ่ายทางการจะรวบรวม แบ่งแยกประเภท และจัดการเป็นประจำเพื่อสำรวจประชากร เก็บภาษี และแต่ตั้งทหารและแรงงาน เมื่อปีค.ศ. 1678-1735 ที่จักรพรรดิยงเจิ้งยังครองราชย์  ท่านรวบรวมภาษีบุคคลมาอยู่ในภาษีที่ดิน ทำให้ระบบทะเบียนบ้านไม่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อการเก็บภาษี เมื่อปีค.ศ. 1908 ของรัชศกกวางสฺวี้ เน่ย์อู้ปู้(แผนกบ่าวใน) ท่านจัดตั้งกองจัดการสถิติ(ถ่องจี้ซือ)ขึ้น วางแผนการ 6 ปีของการสำรวจสำมะโนครัว ตั้งแต่นั้นมายังไม่ถึง 6 ปีการปฏิบัติซินไฮ่ก็ระเบิดขึ้น  ทำให้ราชวงศ์ชิงละลายโดยสิ้นเชิง ต่อมาเมื่อพรรคก๊กหมิ่นตั๋งขึ้นมาครองราชย์  ระบบทะเบียนบ้านจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบทหาร ถือเป็นวิธีสำคัญหนึ่งสำหรับการคัดเลือกทหาร จัดการประชากร ปกครองถึงกับปราบปรามประชาชน หลังสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น การจัดทะเบียนบ้านจึงมีหลายประการ ได้แก่ข้อมูลชื่อบุคคล วันเกิด อายุ เครือญาติ  สภาพสมรถ  และอื่นๆ เพื่อจัดทำสถิติข้อมูลบุคคล วางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ป้องกันผลประโยชน์และสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชน รวมทั้งรักษาสันตภาพและความปรองดองทางสังคมให้ยั่งยืนและปลอดภัยตลอดไป(ชั่วกาลนา)

ชิ้นที่สอง
จดจำคำขวัญมหาวิทยาลัยว่า
เปิดใจรับสิ่งต่าง ๆ มีความรู้รอบด้าน ปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันโดยตลอด
มีปณิธานอันสูงส่ง เรียนรู้ด้วยความมุมานะบากบั่น ทำงานอย่างจริงจัง เคารพครูอาจารย์ รักมหาวิทยาลัยเรา คบกับคนอื่นด้วยใจจริง สุขภาพแข็งแรง มุ่งหน้าขึ้นไปตลอดไป ทะนุถนอมช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ร่างกายแข็งแรงและจริงใจแข็งแกร่ง พยายามเพื่ออนาคตกว้างไกล เอาใจใส่คนอื่น กล้าแย่งทำเป็นคนแรก มิกลัวอุปสรรคนานัปการ กล้าแบกรับหน้าที่ รับใช้ประชาชน ยอมเสียสละเพื่อมตุภูมิ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
โดยรวม แปลใช้ได้แล้วครับ การเรียบเรียงภาษาไทยก็ดีเลยครับ

แต่ขอตรวจแบบละเอียดและเข้มงวด ดังนี้ครับ

หมายถึงเอกสารทางกฎหมายที่ออกแบบโดยหน่วยงานปกครองซึ่งรับผิดชอบงานสำมะโนครัว เพื่อบันทึกและเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานของบุคคล...  
>> ไม่ทราบว่าต้นฉบับใช้คำอะไรนะครับ ตรงนี้ ถ้าใช้ "รักษา" จะดูแปลก ๆ น่าจะเป็น เก็บรักษาข้อมูล หรือ เก็บข้อมูล ครับ แต่คำว่า เก็บข้อมูล มันก็จะซ้ำกับคำว่า บันทึกข้อมูล อีกนั่นแหละ คงต้องให้คุณไปตรวจกับต้นฉบับว่าตรงนี้ต้นฉบับใช้คำสองคำที่แตกต่างกันว่าอย่างไร

ระบบทะเบียนบ้านเป็นระบบที่ได้รับการปฏิบัติ>>ถูกใช้งานตั้งนานที่สุดในจีน ตั้งแต่การก่อรูปเริ่มสร้างระบบในสมัยราชวงศ์ซัง...

ยุคสมัยซีโจวได้สร้างสรรค์วิธีทะเบียนข้อมูลสามัญชนแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการก่อรูปเริ่มต้นของระบบทะเบียนบ้านอย่างเป็นทางการ ...

ปี 375 ก่อนค.ศ. หรือที่รัชศกฉินเสี้ยนกง(秦献公)ปีที่ 10 ฝ่ายทางการสั่งให้... >> ฝ่ายทางการ เปลี่ยนเป็นคำว่า ทางการ หรือไม่ก็ ทางราชการ ไม่ต้องใส่คำว่าฝ่าย

จนกระทั่งสมัยราชวงศ์ถัง ระบบทะเบียนบ้านค่อย ๆ พัฒนาจนสมบูรณ์และจำกัดถูกจัดการโดยกระทรวงครัวเรือนของจีน(ภาษาจีนว่า ฮู่ปู้ 户部) ระบบทะเบียนบ้านได้สืบทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า  สรุปว่าฝ่ายทางการจะรวบรวม แบ่งแยกประเภท และจัดการเป็นประจำเพื่อสำรวจประชากร เก็บภาษี และแต่ตั้งเกณฑ์ทหารและแรงงาน เมื่อปีค.ศ. 1678-1735 ที่จักรพรรดิยงเจิ้งยังครองราชย์  ท่านพระองค์ทรงให้รวบรวมภาษีบุคคลมาอยู่ในภาษีที่ดิน ทำให้ระบบทะเบียนบ้านไม่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อการเก็บภาษี เมื่อปีค.ศ. 1908 ของรัชศกกวางสฺวี้ เน่ย์อู้ปู้(แผนกบ่าวใน) ท่านได้จัดตั้งกองจัดการสถิติ(ถ่องจี้ซือ)ขึ้น วางแผนการ 6 ปีของการสำรวจสำมะโนครัว ตั้งแต่นั้นมายังไม่ถึงแต่ยังไม่ทันครบ 6 ปีการปฏิบัติการปฏิวัติซินไฮ่ก็ระเบิดได้เกิดขึ้นเสียก่อน  ทำให้ราชวงศ์ชิงละลายโดยสิ้นเชิงล่มสลาย ต่อมาเมื่อพรรคก๊กหมิ่นตั๋งขึ้นมาครองราชย์อำนาจ>> ( ครองราชย์ใช้กับระบอบกษัตริย์)  ระบบทะเบียนบ้านจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบทหาร ถือเป็นวิธีสำคัญหนึ่งสำหรับการคัดเลือกเกณฑ์ทหารหรือระดมพล จัดการประชากร ปกครองถึงกับและรวมไปถึงการปราบปรามประชาชน หลังสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น การจัดทะเบียนบ้านจึงมีหลายประการ ได้แก่ข้อมูลชื่อบุคคล วันเกิด อายุ เครือญาติ  สภาพสมรถรส  และอื่นๆ เพื่อจัดทำสถิติข้อมูลบุคคล วางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ป้องกันผลประโยชน์และสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชน รวมทั้งรักษาสันตภาพและความปรองดองทางสังคมให้ยั่งยืนและปลอดภัยตลอดไป(ชั่วกาลนา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่