เบื่องาน ไม่อยากทำงานที่ทำอยู่ ช่วยสร้างทัศนคติเชิงบวกให้อยากไปทำงานและอยู่กับมันอย่างมีความสุขหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะ เรามีอาชีพเป็นนักเทคนิคการแพทย์ เพิ่งเรียนจบได้มาไม่นาน ตั้งแต่เรียนจบมาเราย้ายงานมา 2 ที่แล้ว และกำลังจะเริ่มงานใหม่เป็นที่ที่ 3 ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทำงานในโรงพยาบาลทั้งหมด และเราขอบอกก่อนว่า เรา " ไม่ ชอบ ขึ้น เวร " เลยสักนิดค่ะ ตลอดเวลาที่ทำงานมา ร้องไห้เพราะเครียดหลายรอบมากค่ะ แต่เราเรียนจบมาทางนี้แล้ว ก็คือต้องทำใจ ถ้าทำงานใน รพ. ยังไงก็ต้องเจอ (ตอนเรียนก็ไม่คิดไงว่าจะเจอแบบนี้ แค่คิดว่าหางานง่าย ทำแถวบ้านได้ จบ)
          และหลายคนอาจถามในใจว่า แล้วทำไมไม่ไปทำเซลล์แทนล่ะ ไม่ต้องขึ้นเวร เงินเดือนก็เยอะ ขอบอกตรงนี้ค่ะว่า บ้านเราอยู่ ตจว. ถ้าทำเซลล์ก็ไม่ได้อยู่บ้าน (***เราให้ความสำคัญกับครอบครัวในอันดับแรก ๆ เลยค่ะ เราอยากใช้เวลากับครอบครัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้พ่อแม่ยังไม่แก่เฒ่า เค้ายังมีกำลังมีแรงอยู่ เราก็อยากทำกิจกรรมต่าง ๆ กับพวกเค้าให้มากที่สุด เพื่อที่อนาคตจะได้ไม่ต้องมานั่งนึกย้อนเสียใจว่าทำไมตอนนั้นเราทำแต่งาน หาแต่เงิน จนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว สุดท้ายแล้ว เงินมันก็ซื้อเวลาที่หายไปกลับมาไม่ได้***) และที่สำคัญต้องมีรถยนต์ ซึ่งเราไม่มีค่ะ และไม่มีกำลังเงินในการผ่อนรถด้วย ความคิดเรื่องการเป็นเซลล์ จึงเป็นอันตกรอบไปค่ะ 
 
          ยังมีอีกหลายคนเชียร์ให้เราเรียนต่อ ป.โท จริง ๆ เราก็อยากเรียนนะคะ แต่มีเหตุผลที่ทำให้ไม่เลือกการเรียนต่อ คือ
          1. หาเป้าหมายในการเรียน ป.โท ไม่เจอ ... เรียนจบมาแล้วจะทำอะไร ??? ไปเป็นอาจารย์ไง เป็นนักวิจัยก็ได้ ... คำตอบเราก็วนกลับมาที่เดิมค่ะ เราอยากอยู่บ้านกับครอบครัว ไม่อยากไปทำงานใน กทม. จังหวัดเราหางานพวกนี้ยาก (หรือถ้าใครมีอาชีพที่เราสามารถไปต่อยอดในทางอื่น ๆ ได้รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ)
          2. เรื่องเงินค่ะ ไม่พร้อม ... ค่าที่พัก ค่ากินค่าใช้จ่าย เคยถามรุ่นพี่ เรียนปีแรกหนักมาก ไม่มีเวลาไปทำงาน ต้องรอปี 2 ถึงจะพอมีเวลารับพาร์ทไทม์ได้ ตอนนี้เลยเลือกที่จะทำงานเก็บเงินไปก่อน
 
          เข้าเรื่องค่ะ ที่แรก เราทำงานในจังหวัดบ้านเกิด เป็น รพ.เอกชน คนไข้ไม่ค่อยเยอะ ได้อยู่บ้านกับครอบครัว แฮปปี้ดีค่ะ เพราะที่ผ่านมาเรียนหนักม๊ากกกกกกก แทบไม่ได้หยุด ปีนึงกลับบ้านไม่เกิน 3 หน เรียนไปร้องไห้ไป เหนื่อยมากกกกก แต่เราก็รักวิชาชีพนี้ (จริง ๆ ชอบเรียนแหละ แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่ามาถูกทางหรือเปล่า) สาเหตุที่ออกจากงานในที่แรกคือเรื่องเวลางานกับเรื่องงาน (เงินเดือนจริง ๆ ก็โอเคแหละ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่ายังไม่พอ) ส่วนใหญ่จะเข้างาน 7 โมงเช้า เลิกค่ำเกือบทุกวัน กลับบ้านมาก็กินข้าว อาบน้ำ นั่งเล่นได้แป๊ป ๆ ก็ถึงเวลาเข้านอน วันหยุดก็ขึ้นเวร เดือนนึงได้หยุดไม่เกิน 6 วัน ชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้ ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว บวกกับเราเพิ่งจบใหม่ในช่วงนั้น กำลังไฟแรงอ่ะค่ะ ความคิดคือแบบ ชั้นอยากทำงานที่ได้ประสบการณ์เยอะ ๆ อ่ะ แต่ที่นี่ไม่ตอบโจทย์ ก็ตัดสินใจลาออก พร้อมกับได้ที่ใหม่พอดี
 
          ที่ที่สอง เราทำ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ เป็นโรงพยาบาลใหญ่ คนไข้เยอะมาก ๆ เรื่องเวลางาน เงินเดือน และเนื้องาน ระบบต่าง ๆ ถือว่าโอเคหมดทุกอย่าง เราชอบเลยแหละ ก็ทำได้ประมาณครึ่งปี ได้ประสบการณ์มาก็ประมาณนึง แต่ดันมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องลาออกจากงาน (ขออนุญาตไม่พูดถึงนะคะ) บวกกับคิดถึงบ้านอยู่แล้ว อยู่ กทม. คนเดียวก็เหงา เวลาป่วยก็ไม่มีคนดูแล และงานก็หนักมาก ขึ้นเวรมหาโหดอีก วันหยุดอย่าพูดถึง ค่าใช้จ่ายใน กทม. ก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ แถมโควิดกำลังระบาดหนักอยู่ด้วย พ่อแม่ก็อยากให้กลับบ้าน พอได้คิดทบทวนหลาย ๆ อย่าง ก็เลยไม่เสียดายมากนักที่ต้องออกจากงาน ถือว่าได้ไปเรียนรู้ ได้ลองทำแล้ว เป็นประสบการณ์ชีวิต
 
          หลังจากลาออก ก็กลับมาอยู่บ้าน ว่างงานอยู่ 2 เดือนกว่า ก็กิน ๆ นอน ๆ เล่นเกมส์อย่างสบายใจ ไอเลิฟ (พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านก็เข้าใจเราทุกอย่าง เราถึงได้รักพ่อกับแม่ม๊ากมาก อยากใช้เวลากับพวกเค้าเยอะ ๆ ในตอนที่ยังมีโอกาส)
          ถึงจุดจุดนึง... พอว่างงาน ก็เบื่อ อยากกลับไปทำงานค่ะ อยากมีเงินใช้ ตอนแรกคิดไว้แล้วว่า จะไม่กลับไปทำงาน รพ. อีก เพราะเบื่อระบบงานของ รพ. อย่างที่บอก เราไม่ชอบขึ้นเวร วันหยุดเรา ก็หยุดไม่ตรงกับวันหยุดของพ่อแม่อีก แค่คิดก็ไม่อยากไปทำงานทางนี้ต่อแล้วค่ะ
 
          ...เราก็เริ่มหางานใหม่ที่ไม่ใช่งาน รพ. และอยู่ในจังหวัดตัวเองตามเป้าหมาย กะจะทิ้งความเป็นเมดเทคไปเลยอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ ก็เจอ 2 ที่ คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ กรมวิทย์ ฯ ของจังหวัดค่ะ (ทำงานในเวลาราชการปกติ) แต่ทีนี้...มันดั๊นนนเปิดรับไปแล้วในช่วงที่เรายังทำงานอยู่ กทม. และไม่มีวี่แววว่าจะเปิดรับอีก แถมตอนนี้มีพนักงานราชการเฉพาะกิจมาทำงานอีกเยอะมาก เราก็ไม่หวังเลยค่ะว่าจะได้งานในช่วงนี้ ประจวบเหมาะกับโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดเขากำลังเปิดรับสมัครนักเทคนิคการแพทย์อยู่พอดี เราก็เลยลองไปสมัครดู สาเหตุที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะคิดไว้แล้วไงว่าถ้าอยากทำงานช่วงนี้เธอจะมานั่งรอ สสจ.กับกรมวิทย์ไม่ได้นะ ปีนี้เขาจะเปิดรับอีกมั้ยก็ไม่รู้ เหมือนรอแบบไร้จุดหมาย ถ้าไม่เปิดนี่ก็คือตกงานยาวแน่ ๆ พอไม่ได้ทำงาน เงินเดือนก็ไม่มี เอฟของก็ไม่ได้ ... ก็คิดละ เอาวะ! ลองดูอีกสักตั้ง ทำไปก่อน ดีกว่าไม่มีงานให้ทำเลย
 
          สรุป...ตอนนี้เรากำลังจะไปทำงานที่ รพ.รัฐ แห่งนี้ค่ะ เรื่องเวลางานและการขึ้นเวรก็จะวนลูปกลับมาหาเราอีกครั้ง ความรู้สึกเดิม ๆ เริ่มวนกลับมาในหัวอีกครา ... เบื่อ ... ไม่อยากทำเลย ... ชั้นอยากทำหน่วยงานราชการปกติที่ทำแค่จันทร์ - ศุกร์ หยุดเสาร์ - อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ แบบชาวบ้านเขา ไม่มีความสุขเลย เวลาเล่นเกมส์ก็จะหายไป เรากังวลไปหมดเลยค่ะ แค่คิดว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานก็อยากจะลาออกแล้ว
 
          เราเชื่อว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียว ที่ต้องทนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ก็ต้องอดทน ด้วยภาระหน้าที่/ขอบเขต/ข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างในชีวิต ทำให้เราต้องทน... เราควรคิดยังไงให้อยู่กับมันได้อย่างมีความสุขคะ ? รบกวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ ช่วยพูดให้กำลังใจและให้ข้อคิดกับเรารวมถึงที่ต้องพบเจอปัญหาชีวิตแบบเราหน่อยนะคะ   ร้องไห้
 
          
ปล. นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ไม่แน่ใจว่าแท็กถูกห้องมั้ย หากผิดพลาดอะไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ -/\-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่