“คลังแสงสปริงฟีลด์” (Springfield Armory) เป็นชื่อเก่าแก่เคียงคู่กับ “สหรัฐ อเมริกา” มาตั้งแต่เริ่มเป็นประเทศเอกราช ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1777 หลังประกาศอิสรภาพจากอังกฤษเพียงหนึ่งปี โดย จอร์จ วอชิงตัน ผู้นำกองกำลังปลดแอก คลังแสงนี้จัดเป็นโรงงานผลิตอาวุธของรัฐแห่งแรก มีผลงานทั้งด้านคิดค้นออกแบบอาวุธปืน และเป็นตัวอย่างระบบการจัดการโรงงานผลิตจำนวนมาก ดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปี 1968 จึง “ปลดระวาง” เปลี่ยนสถานะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หลังจากนั้นจึงมีนักลงทุนซื้อสิทธิใช้ชื่อไปจดทะเบียนบริษัท Springfield Armory, Inc. ในปี 1974 อาศัยชื่อที่ติดปากนักนิยมปืนคิดสโลแกนว่า “The First Name in Ameri can Firearms” เริ่มงานผลิตปืนตามแบบปืนทหารคือปืนยาว M14 และปืนพก M1911
ในช่วงทศวรรษ 1980 ปืน “เก้าลูกดก” ของสปริงฟีลด์ สั่งทำจากอิตาลีโดยโรงงาน ทานโฟกลิโอ ต่อมาเมื่อถึงยุคปืนเข็มพุ่ง สปริงฟีลด์ได้แหล่งผลิตใหม่คือโครเอเชีย เปลี่ยนชื่อปืน HS2000 เป็น Springfield XD มีจุดเด่นคือไกคมกว่าปืนเข็มพุ่งร่วมสมัยจากระบบเข็มง้างสุดแบบปืนซิงเกิล มี “หลังอ่อน” เสริมระบบนิรภัยเหมือนเข้าห้ามไกตลอดเวลา โดยจะปลดอัตโนมัติเมื่อจับด้ามพร้อมยิง
สำหรับปืนรูปแบบ 1911 สปริงฟีลด์มีให้เลือกสองความยาวลำกล้อง คือ 5 นิ้วมาตรฐาน กับ 4 นิ้ว คอมแพ็ค ถ้าต้องการเล็กกว่านี้มีรุ่นพิเศษไม่เหมือนใครคือ EMP ลดขนาดด้ามแคบลง (หน้า-หลัง) 3 มิลลิเมตร ลำกล้อง 4 นิ้ว และ 3 นิ้ว ทำในขนาดกระสุน 9 มม. และ .40 โดยระบบการทำงานเหมือนกับ 1911 ที่คุ้นเคย
ล่าสุดในปี 2018 สปริงฟีลด์ออกรุ่นพกซ่อนตัวเล็กกว่า EMP ลงไปอีกระดับหนึ่ง ใช้กระสุนขนาด .380 ACP จุดชนวนด้วยนกสับ ไกซิงเกิลทุกนัด ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ
โคลท์ พ็อคเก็ตไลท์, ซิก P238 และคิมเบอร์ ไมโคร ที่จัดเป็นปืนกระเป๋าขายดี โดยสปริงฟีลด์ตั้งชื่อรุ่นว่า 911 ตรงกับเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสหรัฐ สำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายขอความช่วยเหลือ สปริงฟีลด์ 911 ใช้โครงอัลลอยด์ น้ำหนักตัวเพียง 405 กรัม (เทียบกับ Colt 395, Kimber 415, SIG 430 กรัม) มีระบบขัดกลอนแบบลำกล้องกระดก ควบคุมการขัดกลอนด้วยห่วงลูกเบี้ยว ทำงานด้วยรีคอยล์ อาศัยน้ำหนักลำเลื่อนบวกกับลำกล้องช่วยหน่วงเวลาการปลดกลอน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สปริงต้านลำเลื่อนแข็งเหมือนปืนกระเป๋าของทางยุโรป ที่เป็นระบบ blow-back ไม่ขัดกลอน จุดนี้ทำให้สปริงฟีลด์ 911 ขึ้นลำง่าย และไกเป็นแบบซิงเกิลแอ็คชัน มีห้ามไกทั้งซ้ายขวาตำแหน่งเดียวกับปืน 1911 ไกหลุดคม ยิงง่ายกว่าไกดับเบิลที่หนักและลากยาว
ผิวปืนส่วนลำเลื่อนเป็นสเตนเลสปัดผิวนวล โครงอัลลอยด์ชุบอโนไดซ์ดำ ประกับด้ามวัสดุ G10 ซ้อนสลับลาย ติดศูนย์ฝังตรีเตียมเรืองแสงสามจุด และศูนย์หลังทำเหลี่ยมด้านหน้าให้เกี่ยวเข็มขัดขึ้นลำมือเดียวได้ ซองกระสุนใช้ของ Chip Maccormick มาตรฐานจุ 6 นัด และมีแบบเสริมฐานให้จุเพิ่มได้อีกหนึ่งนัด
กระสุน .380 ACP หรือ 9x17 mm. บ้านเราเรียก “เก้าสั้น” ใช้หัวกระสุนหนัก 95 เกรน ความเร็วประมาณ 900 ฟุต/วินาที พลังงาน 170 ฟุต-ปอนด์ ใกล้เคียงกับกระสุน .38 สเปเชียล หัวตะกั่วความเร็วมาตรฐานที่ยิงจากปืนลูกโม่ลำกล้องสั้น (158 เกรน, 660 ฟุต/วินาที, 153 ฟุต-ปอนด์) จัดว่าแรงพอสำหรับงานต่อสู้ป้องกันตัว โดยยังคุมง่ายเมื่อยิงจากปืนตัวเล็ก.
https://www.dailynews.co.th/article/742896/
.......................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 806 สปริงฟีลด์ 911 พกซ่อนไกซิงเกิล
ในช่วงทศวรรษ 1980 ปืน “เก้าลูกดก” ของสปริงฟีลด์ สั่งทำจากอิตาลีโดยโรงงาน ทานโฟกลิโอ ต่อมาเมื่อถึงยุคปืนเข็มพุ่ง สปริงฟีลด์ได้แหล่งผลิตใหม่คือโครเอเชีย เปลี่ยนชื่อปืน HS2000 เป็น Springfield XD มีจุดเด่นคือไกคมกว่าปืนเข็มพุ่งร่วมสมัยจากระบบเข็มง้างสุดแบบปืนซิงเกิล มี “หลังอ่อน” เสริมระบบนิรภัยเหมือนเข้าห้ามไกตลอดเวลา โดยจะปลดอัตโนมัติเมื่อจับด้ามพร้อมยิง
สำหรับปืนรูปแบบ 1911 สปริงฟีลด์มีให้เลือกสองความยาวลำกล้อง คือ 5 นิ้วมาตรฐาน กับ 4 นิ้ว คอมแพ็ค ถ้าต้องการเล็กกว่านี้มีรุ่นพิเศษไม่เหมือนใครคือ EMP ลดขนาดด้ามแคบลง (หน้า-หลัง) 3 มิลลิเมตร ลำกล้อง 4 นิ้ว และ 3 นิ้ว ทำในขนาดกระสุน 9 มม. และ .40 โดยระบบการทำงานเหมือนกับ 1911 ที่คุ้นเคย
ล่าสุดในปี 2018 สปริงฟีลด์ออกรุ่นพกซ่อนตัวเล็กกว่า EMP ลงไปอีกระดับหนึ่ง ใช้กระสุนขนาด .380 ACP จุดชนวนด้วยนกสับ ไกซิงเกิลทุกนัด ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ
โคลท์ พ็อคเก็ตไลท์, ซิก P238 และคิมเบอร์ ไมโคร ที่จัดเป็นปืนกระเป๋าขายดี โดยสปริงฟีลด์ตั้งชื่อรุ่นว่า 911 ตรงกับเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสหรัฐ สำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายขอความช่วยเหลือ สปริงฟีลด์ 911 ใช้โครงอัลลอยด์ น้ำหนักตัวเพียง 405 กรัม (เทียบกับ Colt 395, Kimber 415, SIG 430 กรัม) มีระบบขัดกลอนแบบลำกล้องกระดก ควบคุมการขัดกลอนด้วยห่วงลูกเบี้ยว ทำงานด้วยรีคอยล์ อาศัยน้ำหนักลำเลื่อนบวกกับลำกล้องช่วยหน่วงเวลาการปลดกลอน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สปริงต้านลำเลื่อนแข็งเหมือนปืนกระเป๋าของทางยุโรป ที่เป็นระบบ blow-back ไม่ขัดกลอน จุดนี้ทำให้สปริงฟีลด์ 911 ขึ้นลำง่าย และไกเป็นแบบซิงเกิลแอ็คชัน มีห้ามไกทั้งซ้ายขวาตำแหน่งเดียวกับปืน 1911 ไกหลุดคม ยิงง่ายกว่าไกดับเบิลที่หนักและลากยาว
ผิวปืนส่วนลำเลื่อนเป็นสเตนเลสปัดผิวนวล โครงอัลลอยด์ชุบอโนไดซ์ดำ ประกับด้ามวัสดุ G10 ซ้อนสลับลาย ติดศูนย์ฝังตรีเตียมเรืองแสงสามจุด และศูนย์หลังทำเหลี่ยมด้านหน้าให้เกี่ยวเข็มขัดขึ้นลำมือเดียวได้ ซองกระสุนใช้ของ Chip Maccormick มาตรฐานจุ 6 นัด และมีแบบเสริมฐานให้จุเพิ่มได้อีกหนึ่งนัด
กระสุน .380 ACP หรือ 9x17 mm. บ้านเราเรียก “เก้าสั้น” ใช้หัวกระสุนหนัก 95 เกรน ความเร็วประมาณ 900 ฟุต/วินาที พลังงาน 170 ฟุต-ปอนด์ ใกล้เคียงกับกระสุน .38 สเปเชียล หัวตะกั่วความเร็วมาตรฐานที่ยิงจากปืนลูกโม่ลำกล้องสั้น (158 เกรน, 660 ฟุต/วินาที, 153 ฟุต-ปอนด์) จัดว่าแรงพอสำหรับงานต่อสู้ป้องกันตัว โดยยังคุมง่ายเมื่อยิงจากปืนตัวเล็ก.
https://www.dailynews.co.th/article/742896/
.......................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช