จับตา! ประธานชมรมแพทย์ชนบทส่ง จ.ม.ด่วนถึง 6 องค์กร สอบทุจริตการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2924683
 

ประธานชมรมแพทย์ชนบทยื่นจดหมายด่วนถึง 6 องค์กร เร่งตรวจสอบปัญหาจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้น
 
เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งจดหมายด่วนจาก จ.สงขลา ถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี อธิบดีกรมการแพทย์ ประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อธิบดีกรมบัญชีกลาง เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีส่อทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้น ของ อภ.โดยมีเอกสารหลักฐานการยื่นประมูล และแนบสำเนาข้อสังเกต 7 ประเด็นจากการทำสัญญาจัดซื้อ ATK ของ อภ.อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตวุฒิสมาชิกให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณา
 
นายแพทย์สุภัทรกล่าวว่า การจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด มีการตั้งข้อสังเกตที่ส่อไปในทางทุจริต เนื่องจากบริษัทที่ยื่นประมูลและชนะการประมูลคือ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด แต่วันลงนามในสัญญากลับลงนามโดยบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือกตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560
 
“ระเบียบข้อ 74 กำหนดให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกจัดทำหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดไม่น้อยกว่า 3 ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ และเมื่อถึงกำหนดวันเวลาการรับซองข้อเสนอ ให้รับซองข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอเฉพาะรายที่คณะกรรมการได้มีหนังสือเชิญชวนเท่านั้น
 
“มีความชัดเจนโดย อภ.แถลงว่าได้ส่งหนังสือเชิญไปยังผู้ประกอบการ 24 บริษัท เป็นผู้จัดจำหน่าย 19 บริษัท หลังการมีการตรวจสอบคุณภาพ ผู้สามารถเปิดซองแข่งขันได้ 16 บริษัท และมีการเปิดซองต่อหน้าผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด มีการบันทึกคลิปไว้ทั้งหมด และหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับเชิญให้ไปยื่นซองคือบริษัท ออสท์แลนด์ฯ โดยรายชื่อ 24 รายชื่อที่ทางองค์การเภสัชกรรมไม่ได้เชิญบริษัทเวิลด์เมดิคอลฯเข้าร่วมการยื่นซองด้วย” นายแพทย์สุภัทรกล่าว
 
ประธานชมรมแพทย์ชนบทกล่าวอีกว่า เมื่อมีการเปิดซองการประมูล อภ.ประกาศชัดเจนว่าผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดเป็นผู้ชนะการประมูล คือบริษัทออสท์แลนด์ฯ ขณะที่สาธารณชนที่ติดตามรับรู้ว่าบริษัทออสท์แลนด์ฯ คือผู้ชนะการประมูล โดยมีบริษัทบริษัทเวิลด์ เมดิคอลฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายและเป็นผู้ลงทุนให้ แต่ไม่ปรากฏข่าวว่าเป็นผู้ยื่นซองประมูลแต่อย่างใด ต่อมาในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 อภ.ได้ลงนามในสัญญากับบริษัท เวิลด์เมดิคอลฯโดยมีข้อครหาว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย จากนั้นวันที่ 2 กันยายน 2564 อภ.ชี้แจงว่าบริษัทเวิลด์ เมดิคอลฯ เป็นผู้ยื่นซองราคาชุดตรวจ ATK โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากบริษัทออสท์แลนด์ฯ ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณะในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
 
“ในห้องที่ทำการเปิดซองประมูลแสดงกระดานเขียนผลการประมูลชัดเจนว่าลำดับที่ 11 คือบริษัท ออสท์แลนด์ เมื่อเทียบเคียงกับลำดับที่ 9 คือ DKSH และลำดับที่ 10 ดีซีเอชออริก้า ทั้งคู่เป็นผู้แทนจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ Roche และ Abbott ตามลำดับ แล้วบนกระดานไม่ได้เขียนชื่อบริษัท Roche หรือ Abbott เพราะเจ้าหน้าที่เขียนชื่อผู้ที่มายื่นซองตามที่ได้รับเชิญตามหลักเกณฑ์การจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก ซึ่งคือบริษัท ออสท์แลนด์ฯ ไม่ใช่บริษัทเวิลด์เมดิคอลฯ ที่มากล่าวอ้างในภายหลัง” นายแพทย์สุภัทรกล่าว
 
นายแพทย์สุภัทรกล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงที่นำเสนอประกอบข้อสังเกตของ น.ส.รสนา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ว่าการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด มีการลงนามในสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือมีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ ชมรมแพทย์ชนบทหวังว่าทั้ง 6 องค์กร จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากเชื่อได้ว่ามีการทุจริต หรือมีการกระทำที่เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนเข้าข่ายผิดกฎหมาย ขอให้นำข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน ขณะที่ สปสช.ในฐานะเจ้าของงบประมาณควรแจ้งต่อ อภ.และโรงพยาบาลราชวิถีให้สั่งยุติกระบวนการต่างๆ ในทันที และงดการจ่ายเงินตามสัญญาเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ และประชาชนให้น้อยที่สุด
 

---

เอกชนชี้ต่างชาติย้ายฐานผลิตหนีไทย
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_183007/

เอกชน ชี้ ต่างประเทศมีสัญญาณย้ายฐานผลิตหนีไทย หาแต้มต่อจากที่อื่น ต้องเร่งเจรจาการค้าเพื่อรักษาศักยภาพประเทศ
 
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า มีสัญญาณการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติออกจากประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีปัจจัยและเงื่อนไขหลายประการที่ต้องมีการย้ายฐาน โดยช่วงก่อนหน้านี้ปัจจัยสำคัญ คือค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่ามาอย่างต่อเนื่องหลายปี และการจำกัดของแรงงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถนำเข้าแรงงานเพิ่มได้จากโควิด-19 และแรงงานในระบบลดลงจากช่วงล็อกดาวน์ ทำให้แรงงานต่างด้าวกลับประเทศและไม่กลับเข้ามาอีก
 
ในขณะที่ปัจจัยระยะยาวคือการหาแต้มต่อ ด้านการลงทุนที่มากกว่าประเทศไทยในหลายประเทศใกล้เคียง เช่นในเวียดนาม ทั้งการส่งเสริมการลงทุน หรือการมี FTA ที่มีกรอบการเจรจามากกว่า ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องมีการเจรจาการค้าให้มีความคืบหน้า เพื่อรักษาศักยภาพของประเทศไทยไว้ ไม่ว่าจะเป็นกรอบการเจรจา FTA ตามแผนในหลายประเทศและการเจรจา CPTPP ที่จะต้องหาทางออกร่วมกันต่อไป ไม่ใช่การเอาปัญหาเป็นตัวตั้งและต้องตัดสินแพ้ชนะเพราะหากเป็นเช่นนั้นประเทศจะเป็นฝ่ายแพ้
  

---

 
พท.ประสานรถเอกซเรย์ตรวจปอดเชิงรุก ลงพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุง ตรวจสุขภาพให้ผู้ติดเชื้อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6604420
 
พท.ประสานรถเอกซเรย์ตรวจปอดเชิงรุก ลงพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุง ตรวจสุขภาพให้ผู้ติดเชื้อ
 
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.64 นางพวงเพชร ชุนละเอียด ประธานภาค กทม.โซน 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคพท.ประสานรถเอกซเรย์ตรวจปอดเชิงรุกให้บริการแก่ประชาชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต เพื่อตรวจเชิงรุกผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิดรักษาตัวเองอยู่ในบ้านเพราะเตียงโรงพยาบาลเต็ม และภายหลังหายป่วยก็มีอาการไม่ปกติ รวมถึงยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาติดตามดูแลตรวจสุขภาพ
 
นางพวงเพชร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงประชาชนกลุ่มนี้เนื่องจากส่วนมากเป็นคนในชุมชน เข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วย และขาดการติดตามผลภายหลังจากหายป่วย พรรคเพื่อไทยจึงประสานรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่มาตรวจสุขภาพให้คนในชุมชน 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นวันนี้ที่โรงเรียนวัดทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดโบสถ์) ในพระราชูปถัมภ์ เขตดุสิต วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ และโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ เขตห้วยขวาง โดยมีประชาชนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงทราบข่าว ทยอยเดินทางมาขอรับการตรวจ ซึ่งวันนี้สามารถตรวจเบื้องต้นได้จำนวน 600 ราย
 
บรรยากาศที่โรงเรียนวัดทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดโบสถ์) ในพระราชูปถัมภ์ เขตดุสิต มีผู้หายป่วยจากการติดเชื้อโควิด ทยอยรับการตรวจโดยจ่ายบัตรคิวตรวจล่วงหน้าเพื่อลดความแออัด จัดมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น โดยนายศิริพงษ์ ลิมปิชัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต ซึ่งเป็นผู้ประสานรถตรวจเอ็กซเรย์ กล่าวว่า กลุ่มที่จัดตรวจในวันนี้ เน้นกลุ่มที่มีอาการผิดปกติภายหลังหายป่วยจากโควิด-19 แต่เขาไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากโรงพยาบาลยังมีผู้ติดเชื้อโควิดรักษาตัวอยู่ จึงมาขอตรวจกับรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพยังแข็งแรงและสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้
 
ด้านคุณพร ผู้อาศัยในชุมชนจันทร์สโมสร กล่าวว่า วันนี้พาลูกชายและเด็กๆ ในชุมชนจันทร์สโมสร รวม 8 คนมาตรวจเอกซเรย์ เพราะพวกตนติดเชื้อโควิดกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. และไม่ได้ไปโรงพยาบาล ตอนนี้ตนมีอาการเหนื่อยง่าย ทำงานหนักไม่ได้ แต่เด็กๆ ที่พามาตรวจวันนี้เขาแข็งแรงดี แต่อยากให้เขาได้ตรวจเพื่อดูว่ามีอะไรเป็นอันตรายหรือไม่ ซึ่งต้องขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ประสานรถมาตรวจให้คนในชุมชนจันทร์สโมสรด้วย