กลุ่ม CP ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โอน Lotus’s ไปให้ MAKRO



Timeline
มี.ค. 63 – กลุ่ม CP ตั้งบริษัท CPRH ซึ่งมีผู้ถือหุ้นคือ CPALL, CPH, CPM ประมูลซื้อ Tesco Lotus มา มูลค่า 338,445 ล้านบาท
พ.ย. 63 – สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุญาตให้ CPRH ซื้อ Tesco Lotus ได้ โดยมีเงือนไขบางประการ
31 ส.ค. 64 – กลุ่ม CP ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ โอน Lotus’s ให้ MAKRO

การปรับโครงสร้างธุรกิจ มีรายละเอียดสั้น ๆ ดังนี้
1. เดิม CPRH เป็นเจ้าของ Lotus’s โดยมีผู้ถือหุ้นคือ CPALL, CPH, CPM
2. CPRH ส่งมอบกิจการ Lotus’s ให้ MAKRO และตัว CPRH จะเลิกกิจการ
3. MAKRO จ่ายค่าซื้อกิจการ Lotus’s ในรูปแบบของหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 5,010 ล้านหุ้น ในราคา 43.50 บาท (มูลค่ารวม 217,949* ล้านบาท สังเกตตัวเลขนี้ไว้นะครับ)
4. MAKRO จะขายหุ้น PO เสนอขายต่อประชาชน (Public Offering) จำนวนไม่เกิน 1,362 ล้านหุ้น (ยังไม่ทราบราคาและกำหนดการ) เพื่อเพิ่ม Free Float ให้ถึงเกณฑ์ของตลาดฯ ที่ 15% (ส่วนเกณฑ์การเข้า SET50 อยู่ที่ 20%)

รูป : โครงสร้างธุรกิจก่อนการปรับโครงสร้าง

รูป : โครงสร้างธุรกิจหลังการปรับโครงสร้าง


ข้อสังเกต
• ธุรกิจ Lotus’s ในปีที่ผ่านมา ทำผลขาดทุนต่อ CPALL และมีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ CPALL ต้องจ่าย จึงมองว่าทาง CPALL ได้ประโยชน์จากการลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ก่อนหน้านี้กู้มาซื้อกิจการ Tesco Lotus
• MAKRO ได้ประโยชน์จากการได้กิจการ Lotus’s มาในราคา Discount* จากเดิมที่ CPRH ซื้อมาที่ 338,445 ล้านบาท แต่ MAKRO ได้มาในราคาเพียง 217,949 ล้านบาท
• แม้จะได้ Lotus’s มาในราคา Discount ส่วนหนึ่งเพราะ Lotus’s ขาดทุนเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา แต่หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ก็จะถือว่า MAKRO ได้ของถูกเข้ามา และอาจมี Synergy ระหว่าง Makro และ Lotus's

อ้างอิง
การรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด และการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) - https://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=16304494707131&language=th&country=TH
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่