คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 112
จริงๆคุณมีทางเลือกนะ ถ้าเข็มแข็งพอ
สิ่งที่ต้องทำ
- ยืนกรานปฎิเสธ รับฟัง แต่ไม่เห็นด้วย เมียคนอื่นอาจทำได้ แต่ชั้น ทำไม่ได้
(ถ้าที่ผ่านมาคุณยอมให้สามีไประบายกับที่อื่นได้ เพราะคุณตอบสนองเค้าไม่ได้ ก็ยืนยันตามนั้น ว่าอนุญาตแบบนั้น แต่อย่ามาให้รับรู้)
- ยื่นคำขาดว่า ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง และพาใครมา เตรียมตัวไปเจอกันในศาล ขอฟ้องหย่า
- ถ้าจะแยกกัน ไม่หย่าฟรี ต้องได้เงิน และในเมื่อคุณไม่มีงาน ให้สามีเป็นคนเลี้ยงลูก ทั้งหมด
- ลองหาข้อมูล 'เหตุแห่งการฟ้องหย่า' ผิดตั้งแต่ข้อแรก กรณีเค้ารับใครมา และ คุณไม่ยินยอม
ดังนั้น ห้ามเผลอตกลงหรือยินยอมโดยเด็ดขาด
** เชื่อว่าเค้าจะไม่หย่า เค้าแค่มีเป้าหมายไว้แล้วและอยากเอามาอยู่ด้วยแบบเปิดเผย **
เรื่องก็จะจบลงเหมือนเดิม คุณยังอยู่กับสามี เค้าอาจแอบมีไปกินนอกบ้าน แต่ไม่มาพูดให้กวนใจอีก
แต่ถ้าเค้าจะวัด คุณก็จะได้ออกมาแบบมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหลืออยู่ ยังภูมิใจในตนเอง มีเงินพอใช้นิดหน่อยในช่วยแรก เพราะเค้าต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู (ของจริงอาจจะจ่ายไม่กี่เดือนแล้วเบี้ยว ) ลูกถ้าโตแล้ว ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ บ้านแตกเพราะพ่อ ไม่ใช่เพราะแม่ รีบหาหนทางตั้งตัวด้วยตนเองเผื่อไว้ งานขายของ งานทำอาหาร อื่นๆ อย่าหวังพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ถ้าสามีคุณเป็นเสาหลัก แล้ววันนึงทิ้งทุกอย่างไปอยู่กับเมียน้อย หรือ เกิดตายขึ้นมา คุณจะทำยังไง นี่คือสิ่งที่ต้องกล้ายอมรับ และ เตรียมตัว ชีวิตไม่ง่าย ไม่ควรประมาท
พ่อแม่ของเค้ามีมั้ย สนิทมั้ย ขู่จะเอาเรื่องไปปรึกษา หรือถ้าเค้าเข้าข้างกันก็ปล่อยไป
พ่อแม่ญาติพี่น้องคุณมีมั้ย หากต้องหย่าจริง ใครพอให้ที่พักอาศัยได้บ้างมั้ย
เรื่องพวกนี้ต้องวางแผนเอาไว้บ้างค่ะ
สิ่งที่ต้องทำ
- ยืนกรานปฎิเสธ รับฟัง แต่ไม่เห็นด้วย เมียคนอื่นอาจทำได้ แต่ชั้น ทำไม่ได้
(ถ้าที่ผ่านมาคุณยอมให้สามีไประบายกับที่อื่นได้ เพราะคุณตอบสนองเค้าไม่ได้ ก็ยืนยันตามนั้น ว่าอนุญาตแบบนั้น แต่อย่ามาให้รับรู้)
- ยื่นคำขาดว่า ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง และพาใครมา เตรียมตัวไปเจอกันในศาล ขอฟ้องหย่า
- ถ้าจะแยกกัน ไม่หย่าฟรี ต้องได้เงิน และในเมื่อคุณไม่มีงาน ให้สามีเป็นคนเลี้ยงลูก ทั้งหมด
- ลองหาข้อมูล 'เหตุแห่งการฟ้องหย่า' ผิดตั้งแต่ข้อแรก กรณีเค้ารับใครมา และ คุณไม่ยินยอม
ดังนั้น ห้ามเผลอตกลงหรือยินยอมโดยเด็ดขาด
** เชื่อว่าเค้าจะไม่หย่า เค้าแค่มีเป้าหมายไว้แล้วและอยากเอามาอยู่ด้วยแบบเปิดเผย **
เรื่องก็จะจบลงเหมือนเดิม คุณยังอยู่กับสามี เค้าอาจแอบมีไปกินนอกบ้าน แต่ไม่มาพูดให้กวนใจอีก
แต่ถ้าเค้าจะวัด คุณก็จะได้ออกมาแบบมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหลืออยู่ ยังภูมิใจในตนเอง มีเงินพอใช้นิดหน่อยในช่วยแรก เพราะเค้าต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู (ของจริงอาจจะจ่ายไม่กี่เดือนแล้วเบี้ยว ) ลูกถ้าโตแล้ว ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ บ้านแตกเพราะพ่อ ไม่ใช่เพราะแม่ รีบหาหนทางตั้งตัวด้วยตนเองเผื่อไว้ งานขายของ งานทำอาหาร อื่นๆ อย่าหวังพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ถ้าสามีคุณเป็นเสาหลัก แล้ววันนึงทิ้งทุกอย่างไปอยู่กับเมียน้อย หรือ เกิดตายขึ้นมา คุณจะทำยังไง นี่คือสิ่งที่ต้องกล้ายอมรับ และ เตรียมตัว ชีวิตไม่ง่าย ไม่ควรประมาท
พ่อแม่ของเค้ามีมั้ย สนิทมั้ย ขู่จะเอาเรื่องไปปรึกษา หรือถ้าเค้าเข้าข้างกันก็ปล่อยไป
พ่อแม่ญาติพี่น้องคุณมีมั้ย หากต้องหย่าจริง ใครพอให้ที่พักอาศัยได้บ้างมั้ย
เรื่องพวกนี้ต้องวางแผนเอาไว้บ้างค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เอาตรงๆ นะครับ ตัดเรื่องข้างบ้านออกไปได้เลยครับ
แล้วที่คิดผิดอาจจะไม่ใช่เรื่องเลือกซื้อบ้าน แต่เป็นเลือกผัว
ผมอ่านเรื่องคุณอยู่ 2 รอบ ปัญหาคือ "ผัว" ย้ำ "ผัว" นั้นแหละปัญหา
ส่วนเรื่องลูก คุณอธิบายได้ง่ายมากครับ บอกไปครับ ว่า
"เขาอยู่แบบ 1 พ่อ 2 แม่"
แต่ต้องให้ข้อมูลประกอบกับลูกด้วยว่า
"การอยู่แบบนี้ ในหลายครอบครัวมักล้มเหลวและแตกร้าว"
ถ้าบอกลูกเด็กเกินไปจะเข้าใจ ก็บอกว่า
"ในหลายครอบครัว แบบนี้ถือว่า ไม่ดี
ที่ไม่ดีเพราะพ่อจะไม่สามารถแบ่งความรักให้แม่ได้เท่ากันๆ
อาจทำให้แม่ 1 ทะเลาะกับแม่ 2"
คือคุณบอกว่าจริงกับลูกได้เลย แต่ต้องให้ข้อมูลที่เท็จจริงกับลูกด้วยว่าข้อเสียมันคืออะไร
แล้วที่คิดผิดอาจจะไม่ใช่เรื่องเลือกซื้อบ้าน แต่เป็นเลือกผัว
ผมอ่านเรื่องคุณอยู่ 2 รอบ ปัญหาคือ "ผัว" ย้ำ "ผัว" นั้นแหละปัญหา
ส่วนเรื่องลูก คุณอธิบายได้ง่ายมากครับ บอกไปครับ ว่า
"เขาอยู่แบบ 1 พ่อ 2 แม่"
แต่ต้องให้ข้อมูลประกอบกับลูกด้วยว่า
"การอยู่แบบนี้ ในหลายครอบครัวมักล้มเหลวและแตกร้าว"
ถ้าบอกลูกเด็กเกินไปจะเข้าใจ ก็บอกว่า
"ในหลายครอบครัว แบบนี้ถือว่า ไม่ดี
ที่ไม่ดีเพราะพ่อจะไม่สามารถแบ่งความรักให้แม่ได้เท่ากันๆ
อาจทำให้แม่ 1 ทะเลาะกับแม่ 2"
คือคุณบอกว่าจริงกับลูกได้เลย แต่ต้องให้ข้อมูลที่เท็จจริงกับลูกด้วยว่าข้อเสียมันคืออะไร
ความคิดเห็นที่ 51
เป็นแม่คนแล้ว ต้องฝึกแยกแยะถูกผิด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันกับข้างบ้านเลย
เป็นที่สามีคุณ ที่อยากมีภรรยาเพิ่ม
เป็นที่ตัวคุณ ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จนต้องอยู่ในภาวะจำยอม
มองใหม่ให้กว้างๆ ตัดอคติเพราะคนนั้นเป็นสามีคุณ มองด้วยสายตาของบุคคลอื่น
ไม่อย่างนั้น ลูกคุณจะมีทํศนะในการพิจารณา เป็นแบบคุณ อาจจะเป็นผลให้เขาพลาดในอนาคต เจอคนไม่เหมาะสม มาสนิท แล้วแยกแยะไม่ได้ เพราะอคติบังเหตุผล
ลองพิจารณาดูใหม่นะ
เป็นที่สามีคุณ ที่อยากมีภรรยาเพิ่ม
เป็นที่ตัวคุณ ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จนต้องอยู่ในภาวะจำยอม
มองใหม่ให้กว้างๆ ตัดอคติเพราะคนนั้นเป็นสามีคุณ มองด้วยสายตาของบุคคลอื่น
ไม่อย่างนั้น ลูกคุณจะมีทํศนะในการพิจารณา เป็นแบบคุณ อาจจะเป็นผลให้เขาพลาดในอนาคต เจอคนไม่เหมาะสม มาสนิท แล้วแยกแยะไม่ได้ เพราะอคติบังเหตุผล
ลองพิจารณาดูใหม่นะ
แสดงความคิดเห็น
ข้างบ้านอยู่กินกันแบบ 3 คนผัวเมีย แล้วพลอยทำให้ครอบครัวมีปัญหา โดยเฉพาพกับสามี เครียดมากไม่รู้จะจัดการยังไง
เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันกับสามีแต่งงานกันมาเกือบ 12 ปี และพึ่งซื้อบ้านใหม่และย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรค์แห่งนี้
ครอบครัวดิฉันมีลูก 3 คน ลูกชายคนโตกำลังจะเป็นวัยรุ่น
บ้านหลังอื่นๆ ในโซนนี้ถูกซื้อไปแล้วแต่ยังไม่มีใครย้ายเข้ามาอยู่ ยกเว้นบ้านหลังสุดท้ายซึ่งติดกับบ้านดิฉัน
เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกหลังนี้ ส่วนหนึ่งเพราะวันที่เข้ามาดูเจอกับน้องข้างบ้าน คนที่พูดถึงนี่แหละค่ะ น้องเค้าเข้ามาอยู่เป็นหลังแรกๆ
น้องอัธยาศัยดีมาก ได้พูดคุยเลยได้รู้ว่าน้องอยู่กับแฟน ไม่กินเหล้า ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ ได้คุยแล้วสบายใจมาก นิติก็คอนเฟิร์มว่าน้องนิสัยดีมากค่ะ
ตอนมาอยู่ใหม่ๆ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี รู้สึกดีที่เลือกบ้านหลังนี้
ข้างบ้านที่ว่า ช่วงแรกๆ ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยนัก มีคนอยู่ 3 คน น้องผู้ชายวัยกลางคนกับผู้หญิงวัยรุ่นอีกสองคน (ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นคู่แฟนกับเพื่อน หรือพี่น้องกัน)
ผ่านไปได้ประมาณ 2 เดือน ก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น น้องผู้ชายมาช่วยซ่อมอินเตอร์เน็ต ซ่อมทีวีให้ แต่ก็ไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องส่วนตัวมากมาย
รู้แค่ว่าทำงานออนไลน์กันทั้งหมด จึงไม่ค่อยได้ออกไปไหน (ตอนนั้นได้รู้ว่าน้องเป็นแฟนกัน แต่เข้าใจว่าอีกคนคือเพื่อน)
จนต่อมาก็ได้รู้จากร้านอาหารหน้าหมู่บ้านว่าน้องทั้ง 3 คนเป็นแฟนกัน ดิฉันกับสามีได้ยินก็ตกใจมาก แต่สามีดูจะสนใจเรื่องนี้แบบออกนอกหน้านอกตา
ช่วงที่มาอยู่แรกๆ ก็แอบเห็นสามีชอบไปยืนริมหน้าต่างห้องลูก เหมือนจะแอบมองน้องผู้หญิงออกกำลังในบ้าน แต่ดิฉันคิดว่าไม่มีอะไร ได้แค่สงสัยเท่านั้น
หลังจากนั้นสามีเหมือนเริ่มตีสนิทน้องผู้ชาย บางครั้งถึงขั้นอาสาขับรถไปส่งทำธุระ ซื้อของมาฝากบ้าง ซึ่งปกติสามีไม่ค่อยตีสนิทใคร
ดิฉันเริ่มแน่ใจในความผิดปกติ เพราะสามีชอบพูดชมน้องผู้หญิงทั้งสองว่าน่ารักบ่อยๆ ชอบพูดเชิงตั้งคำถามประมาณว่าเขาดูมีความสุขดูรักกันดีนะ ช่วยกันทำงาน ไม่ทะเลาะกันเลย
ลูกก็เริ่มตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของคนข้างบ้าน ใครเป็นแฟนกับใคร ทำไมวันนั้นเห็นเขาเดินจับมือกับอีกคน ซึ่งหลายคำถามดิฉันเองก็ตอบแบบเลี่ยงๆ ไป
จุดที่มีปัญหาจนทะเลาะกันก็คือสามีพยายามหว่านล้อมเรื่องขอมีภรรยาอีกคน โดยเอาเรื่องน้องข้างบ้านมาอ้างว่าเค้าอยู่กันได้ตั้งนาน
พยายามโน้มน้าวดิฉันสารพัด สัญญาว่าจะไม่เกิดปัญหา โดยข้ออ้างหนึ่งสามีอ้างว่าดิฉันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้เต็มที่
แถมยังชอบเอาเรื่องของข้างบ้านไปพูดกับเพื่อนบ่อยๆ อีกด้วย
พักหลังๆ ก็เริ่มหมกมุ่นกับการเล่นทวิตเตอร์ เริ่มพูดถึงการแลกคู่ และความสัมพันธ์แนวนั้นมากขึ้นทุกวัน
สามีได้ไม่ได้มีรสนิยมแลกคู่ แต่เขาพยายามยกตัวอย่างว่ามีความสัมพันธ์แบบนี้ และคู่เขาก็ยังดูรักกันดี อยากให้ดิฉันเปิดใจ
แต่ก่อนสามีไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ กินเหล้าบ้าง เที่ยวผู้หญิงบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาจนทะเลาะกันหนักขนาดนี้
จนดิฉันเองเริ่มทนไม่ไหว อยากจะย้ายหนีไปไกลๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้กล้ำกลืนฝืนทนอยู่ต่อไป รู้สึกเสียใจที่คิดผิดเลือกซื้อบ้านหลังนี้
ตอนนี้ดิฉันสับสนไปหมด ไม่รู้จะเริ่มจัดการปัญหาอย่างไร เพราะสามีหมกมุ่นกับเรื่องนี้เอามากๆ จนคุยกันไม่รู้เรื่องถึงขั้นทะเลาะไม่คุยกัน
ไม่เคยคิดว่าเรื่องที่ได้ดูในรายการโหนกระแส จะมาเกิดขึ้นคล้ายๆ กันในชีวิตครอบครัวดิฉัน
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น ที่ทำให้ดิฉันเห็นทางออก ดิฉันพลาดที่บอกรายละเอียดไม่หมด ต้องขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
- ดิฉันไม่ได้คิดว่าสามีดิฉันไม่ผิด แต่ก่อนหน้านี้ดิฉันเชื่อว่าความสัมพันธ์ของข้างบ้านเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี คนปกติเขาไม่มีใครเขาทำกัน และพฤติกรรมหลายอย่างที่คนหัวโบราณอย่างดิฉันไม่เข้าใจจนมองว่าเป็นปัญหา โดยเฉพาะการแต่งตัวโป๊ตลอดเวลา บางครั้งน้องก็ใส่แค่เสื้อกล้ามเอวลอยออกมาทำอะไรหน้าบ้านหรือที่ระเบียง บางครั้งก็เจอน้องโนบราที่เซเว่น ซึ่งมันขัดแย้งกับสิ่งที่ดิฉันพยายามสอนลูกเรื่องการแต่งตัวมาตลอด
สามีดิฉันก็น่าเกลียดจริงๆ ที่ไปแอบดูน้องเขา แต่ถ้าคิดตามความเป็นจริง คือมันก็ล่อตาล่อใจที่มีสาววัยรุ่นหุ่นดีสองคนแต่งตัวโป๊อยู่ข้างบ้าน
มันคงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจปนอิจฉา เพราะสามีชอบพูดทำนองว่า น้องผู้ชายก็ไม่ได้ดีกว่าเขาสักเท่าไหร่ บ้านรถยังต้องผ่อนอยู่เลย
ผู้หญิงก็ไม่ใช่ไก่กา เรียนจบจาก ม.ดัง ทั้งคู่ ยังมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ได้เลย ทำไมฉันจะมีแบบนี้บ้างไม่ได้
- ไหนจะความก๋ากั่นของน้องผู้หญิงที่ชอบเล่นทะลึ่งแล้วลูกได้เห็นได้ยิน หลายครั้งมองเห็นได้จากในบ้านและเจอกันข้างนอก
ดิฉันต้องคอยตอบคำถามของลูกตลอดจนทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่ดิฉันก็ไม่เคยไปพูดอะไรกระทบข้างบ้านนะคะ
ตอนนี้พอจะเข้าใจแล้ว ว่าโลกมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ดิฉันก็ต้องปรับตัวให้ทันค่ะ
- รายได้เกือบทั้งหมดมาจากส่วนแบ่งจากกิจการของที่บ้านสามี สามีทำงานที่บ้านเกือบจะ 100% ส่วนดิฉันทำงานอื่นไม่เป็นเลยนอกจากงานบ้าน ทำอาหาร และงานธุรการเล็กน้อย ยอมรับว่าดิฉันกลัวลำบากค่ะ
- สามีเป็นคนพูดจาดี แต่คนที่เหวี่ยงใส่จนทะเลาะคือดิฉันเอง เรื่องที่เขาขอ ถ้าดิฉันไม่ยอมเขาก็จะไม่ทำ
แต่จะพูดจนดิฉันยอม ที่ทะเลาะเพราะเขาพูดตื้อเรื่อยๆ นิสัยเขาคือจะพูดอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ
เรื่องการไปกินเหล้าหรือเที่ยวผู้หญิง ดิฉันเป็นคนยอมเอง แต่ไม่ได้บ่อยและไม่ได้เที่ยวมาหลายปีแล้วค่ะ
- เรื่องลูก สามีบอกว่าถ้าดิฉันยอมเปิดใจ เขาจะค่อยๆ ทำให้ลูกเปิดใจตาม เขาจะพูดตลอดว่า เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา
- ตอนนั้นเครียดมาก เพราะบ้านหลังนี้ซื้อและตกแต่งเป็นจำนวนเงินที่มาก เป็นทรัพย์สินเดียวที่มีชื่อร่วมกัน
ตอนนี้ดิฉันคิดว่าคงต้องทนยอมรับการตื้อของสามีไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเลิกตื้อไปเอง หรือถ้าเกิดเขาจะมีจริงๆ ก็คงต้องปล่อยเขาไป แต่อย่างน้อยก็จะไม่พาเข้ามาในบ้านหากดิฉันไม่ยินยอม
ดิฉันรู้สึกโง่ ที่ตัดสินใจเลือกสามีผิด แต่ก็ต้องทนอยู่กันแบบนี้ต่อไป ถึงเขาจะดูแลครอบครัวดีทุกอย่าง แต่ก็ยังเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวมากค่ะ