สวัสดีค่าา สาวๆ โต๊ะเครื่องแป้ง ต้องขอเกริ่นก่อนว่าเรามีปัญหาฝ้า ปกติใช้เครื่องสำอางปกปิดได้ แต่โดยพื้นฐานเป็นคนขี้เกียจค่ะ ไม่ค่อยอยากจะเสียเวลาแต่งหน้ากลบความบกพร่องที่เกิดขึ้นบนหน้าเท่าไหร่ เราเลยเลือกใช้วิธีรักษาและป้องกันดีกว่า เพราะคุณแม่เองเป็นฝ้าแล้วรักษายาก เลยกลัวค่ะ
พวกฝ้า กระของเราเริ่มขึ้นมาช่วงที่ WFH ตั้งแต่ปีที่แล้วนี่แหละค่ะ และด้วยสถานการณ์โควิดเนอะทำให้คลินิกปิด ซึ่งพอคลินิกปิดเราก็ไปเลเซอร์ไม่ได้ เซ็งมากค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านั้น (ตอนที่คลินิกยังเปิดให้บริการปกติ) หมอเคยทักว่าหน้าเริ่มมีฝ้า กระเล็กๆ ขึ้นแล้วนะ แต่เราก็ยังไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่ามันยังเห็นไม่ชัด และคิดว่าเดี๋ยวค่อยซื้อคอร์สเลเซอร์เพิ่มเอา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อค่ะ T T เพราะคลินิกเปิดทำการไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เราก็ต้องช่วยตัวเองไปก่อนเบื้องต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าส่วนใหญ่จะเกิดจากที่ผิวหน้าของเราเจอกับแสงแดดมากไปหน่อย และนอกจากแสงแดดแล้ว แสงไฟในบ้าน แสงจากจอมือถือ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ อ้อออออ แล้วก็จริงๆ แล้วเราแทบทุกคนมีฝ้า กระ นะคะเพียงแต่ว่ามันยังอยู่ใต้ชั้นผิวของเรา ยังไม่ปรากฎออกมาสู่สายตาสาธารณชน
ซึ่งวิธีรักษาฝ้าของเราที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในตอนนี้คือ
1. มาส์กหน้าด้วยวัตถุธรรมธรรมชาติ
ซึ่งวัตถุดิบนั้นก็คือมะนาวนั่นเอง หรือบางคนอาจจะผสมน้ำผึ้งลงไปสักเล็กน้อย คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วพอกลงไปบนหน้าเลยค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำอาทิตย์ละครั้งพอนะคะ เดี๋ยวผิวหน้าจะบางเอา และสำหรับใครที่ผิวหน้าบางอยู่แล้วอาจจะหลีกเลี่ยงไปใช้สูตรอื่นๆ แทนค่าา
2. ทาครีมรักษาฝ้า
อีกหนึ่งตัวช่วยรักษาผิวหน้าเป็นฝ้า กระ ของเรา ครีมทาฝ้า 3 ตัวนี้เป็นตัวที่เราไปลองใช้มาหมดแล้ว (ใช้ทีละยี่ห้อนะคะ ไม่ได้ใช้พร้อมกัน)
Melamii Anti-Melasma Perfect White and Spot Corrector
คำเคลม: ล้ำกว่าอาร์บูติน 80 เท่า ใช้แล้วผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ฝ้าและจุดด่างดำดูลดเลือนลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของสารกัดผิวจึงอ่อนละมุนต่อผิว
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้ที่เห็นชัดคือผิวใสขึ้น เห็นผลค่อนข้างดีเลยค่ะ ฝ้าจางลงแบบเห็นได้ชัด แต่มันไม่ได้หายไปเลยนะคะ แบบค่อยๆ จางและเล็กลง ใช้แล้วไม่แสบผิว หน้าไม่บางด้วย เนื้อครีมบางเบา ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่ายซึมไว ให้ความชุ่มชื้นนิดหน่อยค่ะ
Jula’s Herb Longan Melasma Serum
คำเคลม: นวัตกรรมใหม่เซรัมเนื้อบางเบา ดูแลปัญหาฝ้า กระได้อย่างตรงจุด มีสารสกัดจากเมล็ดลำไย ช่วยลดเลือนฝ้า กระ ความหมองคล้ำ และริ้วรอยเหี่ยวย่น
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้ช่วงแรกค่อนข้างเฉยๆ สำหรับเรานะคะ ไม่ได้เห็นผลแบบว้าวมากเท่าไหร่นัก แต่พอใช้มาเกือบเดือนเห็นผลกระจ่างใสขึ้นค่ะ หลังจากที่ครีมซึมเข้าสู่ผิวแล้วยังรู้สึกว่าผิวหน้าตงความชุ่มชื้นอยู่ และก็ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าค่ะ เนื้อเซรั่มเค้าค่อนข้างเบาเลย เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอม รู้สึกเหมาะกับการเป็นมอยส์เจอร์
Concept Anti Melasma Cream
คำเคลม: ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวที่เป็นฝ้า ช่วยลดเลือนฝ้าให้แลดูจางลงอย่างได้ผล และยังช่วยลดเลือนกระ และจุดด่างดำให้ดูจางลงด้วย ไม่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดเรทิโนอิก ไม่ทำให้ผิวหน้าบาง
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้เรารู้สึกว่าผลลัพธ์เรื่องรอยฝ้าจางลงไวกว่าจุฬาเฮิร์บหน่อยนึง ใช้แล้วไม่แสบไม่คัน เนื้อครีมมีกลิ่นเล็กน้อย แนะนำให้ทาบางๆ หากต้องการแต่งหน้าทับนะคะ เพราะนางเป็นขุยง่ายมาก
3. หมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เลยนะคะทุกคน หลายๆ คนพอ WFH ก็เลิกทาไปเลยเพราะคิดว่าไม่เจอแดดเพราะวันๆ อยู่แต่บ้าน แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าสาเหตุของการเกิดฝ้าไม่ได้มีแค่แดดอย่างเดียวนะคะ T T แสงจากคอมพ์และมือถือก็มีรังสีเช่นเดียวกันกับแสงแดด ทำร้ายผิวหน้าของเราให้เกิดฝ้าได้เหมือนกัน ใครที่ยังไม่เปิดฝ้าก็ทาป้องกันไว้ก่อนค่ะ ส่วนคนที่เป็นก็ต้องทาควบคู่กับครีมทาฝ้าไปด้วย เพราะอย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้เป็นฝ้าเพิ่ม
4. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม
อย่างตัวเราเองช่วงแรกที่เริ่มรักษาฝ้า กระ ก็ใช้แต่ครีมทาฝ้า ไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์จนไปอ่านเจอว่ายิ่งผิวแห้งยิ่งไวต่อแดด เสี่ยงเป็นฝ้า กระได้ง่าย เลยหามอยส์เจอร์มาใช้ร่วมด้วยค่ะ
และนี่คือทั้งหมดที่เราใช้ดูแลผิวหน้าฝ้าในช่วงที่คลินิกปิดค่ะ หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะพอเป็นประโยชน์กับสาวๆ โต๊ะเครื่องแป้งที่มีปัญหาฝ้า กระเหมือนเรานะคะ ขอบคุณที่ตามอ่านมาถึงตอนจบค่ะ สวัสดีค่าาา
[CR] รวมวิธีรักษาฝ้า ฉบับผิวแพ้ง่าย และครีมทาฝ้าที่ใช้ กระทู้นี้บอกหมดเปลือก
พวกฝ้า กระของเราเริ่มขึ้นมาช่วงที่ WFH ตั้งแต่ปีที่แล้วนี่แหละค่ะ และด้วยสถานการณ์โควิดเนอะทำให้คลินิกปิด ซึ่งพอคลินิกปิดเราก็ไปเลเซอร์ไม่ได้ เซ็งมากค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านั้น (ตอนที่คลินิกยังเปิดให้บริการปกติ) หมอเคยทักว่าหน้าเริ่มมีฝ้า กระเล็กๆ ขึ้นแล้วนะ แต่เราก็ยังไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่ามันยังเห็นไม่ชัด และคิดว่าเดี๋ยวค่อยซื้อคอร์สเลเซอร์เพิ่มเอา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อค่ะ T T เพราะคลินิกเปิดทำการไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เราก็ต้องช่วยตัวเองไปก่อนเบื้องต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าส่วนใหญ่จะเกิดจากที่ผิวหน้าของเราเจอกับแสงแดดมากไปหน่อย และนอกจากแสงแดดแล้ว แสงไฟในบ้าน แสงจากจอมือถือ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ อ้อออออ แล้วก็จริงๆ แล้วเราแทบทุกคนมีฝ้า กระ นะคะเพียงแต่ว่ามันยังอยู่ใต้ชั้นผิวของเรา ยังไม่ปรากฎออกมาสู่สายตาสาธารณชน
ซึ่งวิธีรักษาฝ้าของเราที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในตอนนี้คือ
ซึ่งวัตถุดิบนั้นก็คือมะนาวนั่นเอง หรือบางคนอาจจะผสมน้ำผึ้งลงไปสักเล็กน้อย คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วพอกลงไปบนหน้าเลยค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำอาทิตย์ละครั้งพอนะคะ เดี๋ยวผิวหน้าจะบางเอา และสำหรับใครที่ผิวหน้าบางอยู่แล้วอาจจะหลีกเลี่ยงไปใช้สูตรอื่นๆ แทนค่าา
คำเคลม: ล้ำกว่าอาร์บูติน 80 เท่า ใช้แล้วผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ฝ้าและจุดด่างดำดูลดเลือนลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของสารกัดผิวจึงอ่อนละมุนต่อผิว
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้ที่เห็นชัดคือผิวใสขึ้น เห็นผลค่อนข้างดีเลยค่ะ ฝ้าจางลงแบบเห็นได้ชัด แต่มันไม่ได้หายไปเลยนะคะ แบบค่อยๆ จางและเล็กลง ใช้แล้วไม่แสบผิว หน้าไม่บางด้วย เนื้อครีมบางเบา ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่ายซึมไว ให้ความชุ่มชื้นนิดหน่อยค่ะ
คำเคลม: นวัตกรรมใหม่เซรัมเนื้อบางเบา ดูแลปัญหาฝ้า กระได้อย่างตรงจุด มีสารสกัดจากเมล็ดลำไย ช่วยลดเลือนฝ้า กระ ความหมองคล้ำ และริ้วรอยเหี่ยวย่น
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้ช่วงแรกค่อนข้างเฉยๆ สำหรับเรานะคะ ไม่ได้เห็นผลแบบว้าวมากเท่าไหร่นัก แต่พอใช้มาเกือบเดือนเห็นผลกระจ่างใสขึ้นค่ะ หลังจากที่ครีมซึมเข้าสู่ผิวแล้วยังรู้สึกว่าผิวหน้าตงความชุ่มชื้นอยู่ และก็ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าค่ะ เนื้อเซรั่มเค้าค่อนข้างเบาเลย เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอม รู้สึกเหมาะกับการเป็นมอยส์เจอร์
คำเคลม: ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวที่เป็นฝ้า ช่วยลดเลือนฝ้าให้แลดูจางลงอย่างได้ผล และยังช่วยลดเลือนกระ และจุดด่างดำให้ดูจางลงด้วย ไม่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดเรทิโนอิก ไม่ทำให้ผิวหน้าบาง
ความรู้สึกหลังใช้: ตัวนี้เรารู้สึกว่าผลลัพธ์เรื่องรอยฝ้าจางลงไวกว่าจุฬาเฮิร์บหน่อยนึง ใช้แล้วไม่แสบไม่คัน เนื้อครีมมีกลิ่นเล็กน้อย แนะนำให้ทาบางๆ หากต้องการแต่งหน้าทับนะคะ เพราะนางเป็นขุยง่ายมาก
3. หมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เลยนะคะทุกคน หลายๆ คนพอ WFH ก็เลิกทาไปเลยเพราะคิดว่าไม่เจอแดดเพราะวันๆ อยู่แต่บ้าน แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าสาเหตุของการเกิดฝ้าไม่ได้มีแค่แดดอย่างเดียวนะคะ T T แสงจากคอมพ์และมือถือก็มีรังสีเช่นเดียวกันกับแสงแดด ทำร้ายผิวหน้าของเราให้เกิดฝ้าได้เหมือนกัน ใครที่ยังไม่เปิดฝ้าก็ทาป้องกันไว้ก่อนค่ะ ส่วนคนที่เป็นก็ต้องทาควบคู่กับครีมทาฝ้าไปด้วย เพราะอย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้เป็นฝ้าเพิ่ม
4. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม
อย่างตัวเราเองช่วงแรกที่เริ่มรักษาฝ้า กระ ก็ใช้แต่ครีมทาฝ้า ไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์จนไปอ่านเจอว่ายิ่งผิวแห้งยิ่งไวต่อแดด เสี่ยงเป็นฝ้า กระได้ง่าย เลยหามอยส์เจอร์มาใช้ร่วมด้วยค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้