Band-Maid เมื่อสาวเมดเกิดอยากทำวงดนตรี



เมื่อสาวเมดคนนึง ที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ไปออดิชั่น ก็ไม่สำเร็จสักที ท้ายที่สุดเธอเลย เกิดไอเดีย ที่จะทำวงธีมสาวเมดนี่แหละ แต่ไปๆมาๆ สมาชิกที่เข้าวงมาแต่ละคน ล้วนแล้วแต่ฝีมือระดับเทพ จนจากความฝันที่อยากเป็นนักร้อง ไปไกลถึงขั้นออกทัวร์ต่างประเทศกันได้เลย

ฟังเหมือนพล็อตหนัง แต่เป็นเรื่องจริงกับวง Band-Maid วงหญิงล้วนจากประเทศญี่ปุ่น ที่ใส่ชุดเมดเล่นดนตรี แต่ฝีไม้ลายมือแต่ละคน ทำเอาคนที่ได้ฟัง ล้วนแล้วแต่ตกหลุมรักวงนี้ไปอย่างถอนตัวไม่ขึ้น 



ดูจากรูปแล้ว ถ้าคนไม่รู้จักมาเห็น ก็คงคิดว่า พวกเธอคงจะเล่นดนตีไสตล์ป็อป หรือเพลงอนิเมะ หรือแนวเพลงแบบ วงไอดอลทั่วๆไป แต่ในความจริงแล้ว พวกเธอเล่นเพลงสไตล์ฮาร์ดร็อคอันหนักหน่วง จนบางเพลงนี่ ออกจะไปถึงเฮฟวี่เมทัลด้วยซ้ำ
มาดูสมาชิกวงแต่ละคน กันว่ามีใครบ้าง

คนแรก มิกุ โคบาโตะ Miku Kobato (小鳩 ミク)





เป็นผู้ก่อตั้งวง Band-Maid ซึ่งดูจากความน่ารักและบุคลิกแล้ว เธอน่าจะเป็นไอดอลซะมากกว่า แต่เหมือนโชคชะตาจะให้มาเป็นสาวร็อค เพราะไปออดิชั่นไอดอลแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่หวัง มิกุนั้น ทำงานเป็นเมดคาเฟ่ และเธอก็รักอาชีพเมดมาก แต่อีกความฝันนึงของเธอคืออยากเป็นนักร้อง ก็เลยอยากเอา สิ่งที่เธอรักสองอย่างมารวมกัน คือเมดกับดนตรี ฟังดูไม่น่าเชื่อว่า ไอเดียแปลกๆนี้ จะสร้างวงร็อคสุดโหดขึ้นมาได้ และเมื่อเธออยากตามความฝัน เลยจำเป็นต้องหาเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเธอได้ไปเจอกับคลิปของ คานามิ ที่เล่นกีตาร์ลงบน Youtube เธอเลยติดต่อไปทาบทาม คาซามิมาเข้าวง เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวงเลย ตัวมิกุนั้น เวลาพูดจะลงท้ายด้วย โปะทุกประโยค เพราะว่า ชื่อของเธอนั้น ใช้ตัวคันจิที่แปลว่า นกพิราบตัวน้อย เธอเลยเอาสิ่งนี้มาเป็นคาแร็กเตอร์ประจำตัวเธอไป เพราะคำว่าโปะ คือเสียงนกพิราบ ของญี่ปุ่นนั่นเอง

คนที่สอง คานามิ โทโนะ Kanami Tōno (遠乃 歌波)





มือกีตาร์ สุดโหด ที่ มิกุไปพบบน Youtube ตัวคานามินั้น ไม่มีปัญหากับการจะใส่ชุดเมด เพราะเคยใส่ชุดเมดเล่นดนตรีสมัยเรียนมัธยมมาแล้ว และที่เธอตัดสินใจร่วมกับมิกุนั้น เพราะชอบในความน่ารักของมิกุ รวมถึงแนวเพลงที่ตรงใจกับเธอพอดี ถึงตอนพบกันครั้งแรกเธอจะว่า มิกุเป็นสาวแปลกก็เถอะ และช่วงนั้น เธอก็เป็นนักแต่งเพลงอยู่ด้วย ทำให้มาร่วมวงได้ ไม่มีปัญหา และพอ คานามิตัดสินใจเข้าร่วมวงตามคำชวนของ มิกุ เธอก็เลยไปชวน อาคาเนะ มือกลองที่เคยมาเล่นซัพพอร์ทให้กับเธอ มาร่วมด้วย

คนที่สาม อาคาเนะ ฮิโรเซะ Akane Hirose (廣瀬 茜)




มือกลอง ที่เรียกว่า ตอนนี้เธอเข้าไปเป็นมือกลองที่ แฟนชาวร็อค ยกให้เธอเป็นมือกลองที่มีฝีมือระดับต้นๆ และที่โดดเด่นก็คือ เธอตีกลองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตลอด แม้ว่า การกระหน่ำของเธอจะหนักแน่นและรวดเร็วก็ตาม เก่งขนาด จิมมี่ เพจ มือกีตาร์จากวง Led Zeppelin วงร็อคระดับตำนานของอังกฤษ ได้ไปชมการเล่นสดในโตเกียวเมื่อปี 2016 ถึงกับตองขอไปถ่ายรูปกับ อาคาเนะ และบอกว่า เธอเล่นได้ราวกับเป็น John Bonham อดีตมือกลองของวงที่เสียชีวิตไปเลยทีเดียว

ตัวอาคาเนะนั้น ตอนแรกก็ตะขิดตะขวงใจกับการต้องใส่ชุดเมด แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงร่วมวง เพราะชอบแนวเพลงของวง และแน่นอนว่า มีนักร้อง มือกลอง มือกีตาร์แล้ว ก็ต้องหามือเบส เธอเลยชวน มิสะ ซึ่งเรียนที่โรงเรียนดนตรีมาด้วยกัน เข้ามาร่วมวง

คนที่สี่ มิสะ Misa




มือเบส สาวห้าว ประจำวง เสียงเบสของเธอนั้นโดดเด่นในหลายๆเพลง เทคนิคการเล่นเบสระดับหาตัวจับยาก รวมถึงคาแร็กเตอร์ที่ดูเป็นสาวมั่น รวมถึงสายแอกอฮอลล์ เวลาถ่ายรูป หลายๆครั้ง เธอจะถือกระป๋องเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่นอยู่ด้วย เรียกว่า คาแร็กเตอร์ของมิสะ นั้น จะตรงข้ามกับมิกุเลยทีเดียว แต่กลับไปด้วยได้ ตอนแรก มิสะก็ไม่โอเคกับชุดเมด แต่ก็แบบฟังดนตรีที่ มิกุกับคานามิเล่นแล้วก็อยากร่วมด้วย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจยอมใส่ชุดเมดก็ได้ แต่ปัจจุบันเธอเปลียนมาใส่ชุดสีดำแล้ว ซึ่งก็ดูลงตัวกับวงอยู่ดี และตรงกับคาแร็กเตอร์สาวห้าวของเธอ

พอมีนักร้อง มือเบส มือกีตาร์ กลอง ก็ครบวงแล้ว แต่พอเล่นจริงปัญหาคือ เสียงของมิกุนั้น ซอฟท์เกินไปสำหรับดนตรีร็อค เธอเลยตัดสินใจ หานักร้องเพิ่ม ส่วนเธอเปลี่ยนไปเล่นกีตาร์และเป็นนักร้องซัพพอร์ทแทน แต่ปัญหาคือ มิกุนั้น ไม่เคยเล่นกีตาร์มาก่อนเลย แต่แน่นอนว่า คานามินั้นยินดีสอนมิกุเต็มที่ เพราะถ้ามีกีตาร์สองคน เธอจะได้เป็นลีดกีตาร์ได้ตามที่เธอต้องการ จากสาวผู้ไม่เคยเล่นกีตาร์มากอน มาตอนนี้ เธอมีกีตาร์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของตัวเองแล้ว เรียกว่า พัฒนามามากจริงๆ

คนที่ห้า ไซกิ Saiki Atsumi (厚見 彩姫)





สมาชิกทั้ง 4 คนนั้น เกิดจากการชวนต่อๆกันมา แต่ไซกินั้นไม่มีใครรู้จักมาก่อน เหมือนๆไซกิจะมาออดิชั่นที่ค่ายเดียวกันพอดี พอพวกมิกุได้ฟังเสียงของไซกินั้น ก็คิดว่าเหมาะกับวงมาก มิกุก็เลยชวนเธอมาเข้าวง แต่ยังไม่บอกเรื่องต้องใส่ชุดเมด เพราะว่า นอกจากคาซามิแล้ว คนอื่นล้วนแล้วแต่ลังเลกับชุดเมดแต่ด้วยความที่รู้จักกัน ก็เลยตอบตกลง แต่ไซกินั้นไม่ได้มาจากคนรู้จัก เธอเลยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ จนถึงวันซ้อมจริงนั่นแหละ  ไซกิถึงได้รู้ว่าต้องใส่ชุดเมด แต่ก็แบบหลวมตัวเข้ามาแล้ว ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องใส่ชุดเมดไป มาตอนนี้ ชุดเธอใส่ไม่ใช่ชุดเมดล่ะ เป็นชุดสีดำ ทำให้ เวลาถ่ายรูปออกมา ดูรูปวงจะเด่นขึ้นมาอีก

เมื่อครบทั้ง 5 คนแล้ว วงดนตรี ที่คอนเซ็ปต์ ชุดเมดกับฮาร์ดร็อคก็เกิดขึ้น ในปี 2013 

แน่นอนว่า การแสดงในไลฟ์เฮาฟ์ครั้งแรก ผู้ชมก็ถึงกับงง เพราะการใส่ชุดเมด ในไอเดียของทุกคนคือเพลงป็อปร็อคธรรมดา แต่กลับกลายเป็นเล่นดนตรีร็อค แต่ด้วยฝีไม้ลายมือ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร จนปี 2014 จึงออก มินิอัลบั้มแรก Maid in Japan และปลายปีก็ออกซิงเกิ้ล "Ai to Jōnetsu no Matador"
ในปี 2015 ออกมินิอัลบั้ม New Beginning ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ได้ขึ้นชาร์ต โอริก้อนอันดับ 64 หลังจากนั้นพวกเธอก็ต้องตระเวนเล่นไปทั่วโตเกียวเพื่อโปรโมทวง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ บัตรคอนเสริตของพวกเธอสามารถขายหมดได้

ในญี่ปุ่นนั้น ดูเหมือนฐานแฟนคลับของวงยังไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่  แต่ในต่างประเทศ กลับตรงกันข้าม เพราะ มิวสิควีดีโอเพลง Thrill ได้ถูกแนะนำโดยรายการวิทยุของอังกฤษ และหลังจากนั้นยอดวิวก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทางวงดูเหมือนว่าจะไปได้ดีนอกเกาะญี่ปุ่น จนในที่สุด วงก็ได้ไปเล่นต่างประเทศที่เมกาเป็นที่แรก

พอวงเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ในปี 2016 มินิอัลบั้มที่ 3 ทางวงจึงย้ายค่ายไปสังกัด Nippon Crown Stones และสำหรับยุโรปคือ JPU Records โดยขื่ออัลบั้มคือ Brand new maid โดยอัลบั้มนี้ขึ้นชาร์ตโอริกอนไปถึงอันดับ 19 และเริ่มทัวร์รอบโลก แต่ว่า ก็ไม่ใช่เวทีระดับใหญ่อะไร แต่พวกเธอก็ใส่เต็มทุกครั้งกับการแสดงสด จนถือว่าเป็นวงที่แสดงสดได้มันส์มากๆวงนึง แต่ มิกุนั้นก็เอาวัฒนธรรมเมดใส่ไปด้วย โดยเฉพาะ โมเอะ โมเอะ คิวท์ กับแฟนๆชาวร็อค ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะไปกันได้ แถมไปกันได้ดีด้วย

ปี 2017 วงก็ได้ออกอัลบั้มเต็มเป็นครั้งแรก หลังจากออมาแต่ มินิอัลบั้ม โดยอัลบั้มชื่อ Just Bring It โดยขึ้นถึงอันดับ 16 ของ โอริกอนชาร์ต ในปีเดียวกันก็ปล่อยซิงเกิล Daydreaming/Choose Me 

ปี 2018 ออกอัลบั้มเต็มในชื่อว่า World Domination ซึ่งอัลบั้มนี้ ดนตรีเริ่มหนักแน่นขึ้นจากเดิมขึ้นไปอีก โดยอัลบั้มนี้ขึ้นถึงอันดับ 9 ของโอริกอนชาร์ต และได้นำเอาอัลบั้มแรกของวง Maid in Japan มาวางขายใหม่ พร้อมเพิ่มเพลงไปอีกสองเพลง โดยอัลบั้มนี้ ขึ้นไปอันดับ 26 ของโอริกอนชาร์ต และประกาศออกทัวร์ไปทั่วโลก ทั้งเล่นในงานเทศกาลดนตรี หรือตามไลฟ์เฮาท์ทั้งในเมกาและยุโรป รวมถึงเอเชียด้วย

ปี 2019 ออกซิงเกิล Glory และ Bubble แและในวันที่ 1 เมษายน แกล้งแฟนๆโดยโดยเปลี่ยนชื่อวงเป็น Band-Miko พร้อมบอกว่า จะเปลี่ยนจากชุดเมด เป็นชุดไมโกะแทน พร้อมออก MV ซิงเกิลมา 1 เพลง ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็น Band-Maid เหมือนเดิม และก็ออกอัลบั้ม Conqueror ในช่วงปลายปี

ปี 2020 จากสถาณการณ์โควิด ทำให้ทางวงก็เหมือนๆวงอื่นๆคือ จำต้องหยุดพักการออกคอนเสริตไป ตั้งแต่ช่วงกลางปี รวมถึงอัลบั้มที่ปีนี้ไม่มีวางจำหน่ายออกมา แต่ก็มีซิงเกิล Difference ออกมาช่วงปลายปี

ปี 2021 ช่วงต้นปีออกอัลบั้ม Unseen world ออกมาอีก 1 อัลบั้ม และ ตัวมิกุ ก็ได้ไปทำลงเดี่ยวของตัวเองออกาถึง สองเพลง แต่เป็นออกแนวป็อบใสๆ สไตล์ญี่ปุ่น ไม่ใช่ร็อคหนักหน่วง เหมือนกับที่ทำกับวง Band-Maid



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่