สวัสดีค่า ในฐานะที่เราเป็นแม่ลูกสอง ซึ่งเคยมีปัญหากับการฝึกฝนลูกๆนั่งคาร์ซีทมากๆ และวันนี้ก็ผ่านมันมาแล้วด้วยความยากลำบากและคราบน้ำตา(ของลูก)  จนตอนนี้ลูกๆทุกคนก็นั่งคาร์ซีทกันจนเป็นนิสัยไปแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าคาร์ซีทนี่เหมือนเป็นแขนที่สามของเราก็ว่าได้ เพราะมันเป็นอุปกรณ์และตัวช่วยที่จำเป็นมากสำหรับพ่อแม่ในการเดินทางกับลูกๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การใช้เวลาอยู่บนถนนในช่วงรถติดๆนี่ก็แทบจะพอๆกับการใช้เวลาอยู่บ้านแล้ว
               ก่อนหน้านี้ เราใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 36 เดือน และตอนนี้ลูกคนเล็กของเรา อายุ 3 ขวบเต็มพอดี ก็ถึงเวลาที่ต้องมองหาคาร์ซีทตัวใหม่ให้เค้าแล้ว เพราะเค้าก็เริ่มแขนขายาว ตัวสูงใหญ่ขึ้น นั่งคาร์ซีทตัวเก่าแล้วสังเกตเห็นเลยว่าเค้าไม่ค่อยสบายตัว ดูอึดอัดเต็มที่นั่งไปหมด  แต่.......อ่ะ ด้วยความงก เลยขอลองถอด support  ของคาร์ซีทตัวเดิมออก เพื่อให้พื้นที่มันกว้างขึ้น เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ แต่ด้วยความที่มันเป็นคาร์ซีทที่ผลิตมาสำหรับเด็กเล็กอ่ะเนอะ รูปทรงมันก็จะห่อๆเป็นแอ่งๆ สรีระเหมาะสำหรับปกป้องเด็กอ่อน แล้วยิ่งกว่านั้น พอถอด support ออก ปรากฏว่าเบาะกับพนักพิงก็ดันแข็งไปอีก ลูกนั่งไม่สบายโวยวายแน่นอน สุดท้ายเลยต้องทำใจ มองหาคาร์ซีทตัวใหม่ ซึ่งเราก็พยายามมองหาคาร์ซีทที่สามารถใช้ได้ยาวๆ  ไปจนถึงอายุ 11-12 ขวบได้ยิ่งดี เพื่อความคุ้มค่า ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนอีกบ่อยๆ 
               ซึ่งวันนี้เรามีผู้ใหญ่ใจดีส่งคาร์ซีทมาให้ลองใช้ ได้ลองใช้แล้วถูกใจมาก วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำคาร์ซีทที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เผื่อเป็นข้อมูลและทางเลือกให้กับพ่อแม่ท่านอื่นใช้พิจารณาต่อไปนะคะ 
คาร์ซีท ชื่อแบรนด์ Renolux  เป็นแบรนด์จากประเทศฝรั่งเศส ฟังดูเหมือนจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในไทย แต่เอาจริงๆ เค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อแม่และเด็ก มานานกว่า 40 ปีแล้วนะคะ ค่อนข้างเก๋าในวงการแม่และเด็กของยุโรปเลย


จุดเด่นของคาร์ซีทแบรนด์นี้ เท่าที่นึกออกนะคะ

1. เบาะ และรูปทรง 



            อย่างที่เกริ่นตอนแรกนะคะว่า คาร์ซีทที่ผลิตมาสำหรับเด็กเล็ก รูปทรงมันจะยกขอบข้าง ตรงกลางจะโค้งเป็นแอ่งหน่อยๆ สรีระก็เหมาะสำหรับการปกป้องเด็กอ่อนอ่ะแหละ แต่พอลูกโต ไม่ใช่เด็กอ่อนละไง เค้าก็เริ่มอิดออดๆที่จะนั่ง อาจจะเพราะมันไม่สบายตัว หรือไม่เค้าก็เริ่มจะอยากนั่งเบาะโดยสารที่เหมือนของผู้ใหญ่บ้าง  ซึ่งคาร์ซีทแบรนด์นี้ทำมาได้ตอบโจทย์นี้มากๆเลยค่ะ รูปทรงของเบาะคล้ายกับเบาะโดยสารของผู้ใหญ่เลย พนักพิงศีรษะมีขนาดใหญ่ตลอดช่วงตัว เบาะเป็นระนาบ กว้าง  ขยับลุกนั่งสบาย

2. มาตรฐานโครงสร้างภายใน 


                 ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44-04  และได้รับคะแนน “4 ดาว” (เกณฑ์ระดับดี) จากสมาคมความปลอดภัยยานยนต์  ADAC (ศูนย์ทดสอบในประเทศเยอรมนี) และ TCS (ศูนย์ทดสอบในประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ดังนั้น เรามั่นใจในความคงทน แข็งแรงแน่นอน เพราะเป็นโครงสร้างที่ทำจากเหล็ก ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สามารถรองรับแรงกระแทกที่รุนแรงกรณีเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้  แต่ไม่ต้องกังวลว่าโครงสร้างเป็นเหล็กแล้วเบาะจะแข็งนะคะ เพราะที่เจ๋งคือข้อ 3. ที่จะบอกต่อไปนี่แหละค่ะ 

3. สัมผัสนุ่ม นั่งสบาย 


                    สิ่งที่จะทำให้ลูกของเรานั่งคาร์ซีทในระหว่างการเดินทางได้นานที่สุด โดยไม่โวยวายบ่นกระปอดกระแปด และพาลจะไม่นั่งเอาดื้อๆถ้าเริ่มมูดดี้ ก็คือเบาะต้องนั่งสบายที่สุด สิ่งนี้สำคัญไม่แพ้ความแข็งแรงของโครงสร้างที่นั่งเลยทีเดียวเชียว  ซึ่งแบรนด์นี้เค้าก็ยังทำได้ดีมากๆ ต่างจากคาร์ซีทรุ่นอื่นๆที่เราเคยไปลองจับมา  เพราะเบาะใช้เทคโนโลยีโฟมโพลียูรีเทนความหนาแน่นสูง  ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Renolux ด้วยนะเออ ที่นั่งเลยมีความนุ่มเป็นพิเศษ ลูกนั่งแล้วสบาย แฮปปี้ตลอดทาง ส่งผลดีต่อสมาธิการขับรถของเราด้วยไปอีกกรุบ 

4. ปรับพนักพิงได้

                  เนื่องจากรุ่นนี้เป็นคาร์ซีทเด็กโตที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้ำหนัก 15 – 36 KG. (ประมาณอายุ 3 – 11 ปี) เค้าเลยใส่ฟังก์ชั่นการปรับพนักพิงของคาร์ซีทได้สูงถึง 15 เซนติเมตร เพื่อรองรับการเติบโตของเด็กในทุกช่วงวัย ใช้กันยาวๆไปเลยลูกจ๋า เซฟเงินในกระเป๋าแม่ด้วย  

5. ปรับองศาการนอนได้


                ในวัยสามขวบ เค้าก็ยังต้องนอนกลางวันอยู่เนอะ แล้วก็ต้องเริ่มไปโรงเรียนเป็นครั้งแรกด้วย ดังนั้น การถูกปลุกตื่นแต่เช้าตรู่ และการนอนในรถระหว่างเดินทาง นี่มันเป็นเรื่องที่ต้องมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คาร์ซีทแบรนด์นี้เค้าก็สามารถทำให้ปรับเอนนอนได้ตามองศาของเบาะรถยนต์เลย การนอนในรถของลูกแบบคอพับคออ่อน ง่อกไปง่อกมา น่าสงสาร จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลุ้มใจอีกต่อไป ลูกสามารถเอนนอนยาว หลับสบายจนถึงที่หมายเลยล่ะ ยิ่งลูกเรานอนสบายแค่ไหน พ่อแม่อย่างพวกเราก็ได้เวลาสงบหูเท่านั้นเนอะ 

6. วิธีการติดตั้ง


               คาร์ซีทอันเก่าของเราเป็นแบบที่ต้องใช้สายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ มาพาดล็อคกับตัวคาร์ซีท ซึ่งมันเหนื่อยมากในการติดตั้งแต่ละที เพราะบ้านเรามีรถยนต์สองคัน การย้ายคาร์ซีทจากรถคันนึงมาอีกคัน แล้วต้องมาเสียเวลาติดตั้ง ดึงสายมาล็อคคาร์ซีทกับเบาะ บ่อยๆครั้งเข้า เอาจริงๆมันก็สร้างความเหนื่อยและความเบื่อหน่ายให้เรากลายๆเหมือนกันนะ ยิ่งเวลาร้อนๆคือเหงื่อแตกหงุดหงิดไปเลยอ่ะ บางทีเราคิดว่าติดตั้งแน่นแล้ว แต่คาร์ซีทก็ยังเคลื่อนบ้าง ยิ่งช่วงหลังๆ เราต้องแยกรับส่งลูกสองคนกับแฟน เพราะอยู่กันคนละโรงเรียน ทำให้เราต้องติดตั้ง เคลื่อนย้ายคาร์ซีทเองคนเดียว ไปไหนมาไหนโดยไม่มีพ่อบ้านมาช่วย พอมาใช้คาร์ซีทแบรนด์นี้ซึ่งใช้ระบบ Isofix ยอมรับเลยว่ามันง่ายและสะดวกรวดเร็วมากๆ เพราะระบบ ISOFIX เป็นการยึดติดคาร์ซีทด้วยตัวยึดที่อยู่ในเบาะรถยนต์ โดยไม่ต้องใช้สายเข็มขัดนิรภัย  แค่เสียบแกนเหล็กเข้าไปก็เสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องง้อพ่อบ้านอีกต่อไป 
               แต่ถ้าใครไม่มีรถยนต์ที่ไม่มีระบบ isofix  ก็ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เพราะว่าก็ยังสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยในการติดตั้งได้เช่นเดียวกัน รถยนต์ที่บ้านเราสองคันก็มีทั้งแบบมีและไม่มีระบบ isofix ก็สามารถติดตั้งได้ทั้งคู่ไม่มีปัญหาค่ะ 

สรุป 
   
                 คาร์ซีท ชื่อแบรนด์ Renolux  เป็นคาร์ซีทเด็กโต น้ำหนักระหว่าง 15 – 36 KG. ที่เหมาะกับแม่ๆซึ่งอาจจะต้องเดินทางคนเดียวกับลูกบ่อยๆ  เพราะสามารถติดตั้งคาร์ซีทด้วยตัวเองง่ายๆ  และจากการที่เราใช้งานมาสักระยะ ประมาณ 2 เดือน (ลูกต้องเดินทางด้วยคาร์ซีททุกอาทิตย์)  พบว่าลูกดูแฮปปี้ขึ้นกับการนั่งคาร์ซีทนานๆ ในรถยนต์ เพราะเบาะกว้าง นั่งและนอนสบาย แล้วยิ่งในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เราก็ตั้งใจจะใช้งานเค้าไปได้ยาวๆยันลูกอายุ 10-12 ขวบเลยทีเดียวค่ะ พ่อแม่ท่านไหนที่กำลังมองหาคาร์ซีท ที่มีทั้งความปลอดภัยแล้วก็ความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแบบนี้ ก็ลองเอาข้อมูลแบรนด์นี้ไปพิจารณากันนะคะ หรือจะเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม และคลิปวิดิโอสาธิตสินค้าที่เว็ปไซต์ก็ได้ค่ะ จะได้เห็นภาพมากขึ้น  https://www.babygiftretail.com/renofix/  
               สุดท้ายนี้ ขอให้พ่อแม่และลูกๆทุกครอบครัวมีความสุขกับการเดินทางโดยปลอดภัยนะคะ 😊