สวัสดีค่ะ ขอแทนตัวเองว่าเรา แทนบุคคลที่จะกล่าวถึงนี้ว่า เค้า *ถ้าใช้คำไม่เหมาะสมขอโทษด้วยนะคะ* ย้อนไปเมื่อตอนอายุ15ปี เรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น และกำลังจะไปต่อที่วิทยาลัยเทคนิคในตัวเมือง ซึ่งค่อนข้างไกลจากบ้าน พ่อเลยออกรถให้ไว้ขี่ไปวิลัย แต่ด้วยความที่ตัวเราเอง ไม่กล้าขี่ออกถนนใหญ่เลยทำให้ต้องขี่ไปจอดที่โรงรถ *ศาลารอรถเมย์* พอเรียนได้1อาทิตย์ก็เริ่มมีปัญหากับเพื่อนให้ห้อง เลยทำให้ตัดสินใจลาออก กลับมาเรียนม.ปลายใหม่ หลังจากเรียนได้1เทอม ก็ได้คุยกับเพื่อนต่างห้อง *เค้ากลับมาเรียนซ้ำ1ปี* คุยไปคุยมาตกลงเป็นเเฟนกัน ระหว่างที่คบกันอยู่เค้าก็ให้เราไปรับ-ส่งเค้าที่บ้าน *ยอมรับคะเริ่มใจแตกแล้ว* คบกันไปๆมาๆ เค้าก็ให้เราไปนอนที่บ้านเค้า ให้เราโกหกพ่อกับแม่เราว่าเรามานอนบ้านเพื่อน ทำแบบนี้อยู่เป็นเดือนๆ จนวันนึ่ง เลิกเรียนแล้วกำลังจะไแสางเค้าที่บ้านระหว่างทางก็แวะร้านค้าซื้อบุหรี่ จนเจอพ่อเราที่ขี่รถสวนมาเห็นเข้าว่าเราอยู่กับผู้ชาย พอไปส่งเสร็จเราก็รีบกลับบ้านพ่อเราก็ถาม เราก็โกหกเค้าว่าส่งเพื่อน จนเกิดการปะทะคารมกันนิดหน่อย หลังจากนั้นเราก็เริ่มไม่ไปโรงเรียน ขาดเรียนบ่อย เริ่มมาสายขึ้น จนครูที่ปรึกษาเรียกพบ ซึ่งครูก็รู้ว่าเราคบกับเค้า ครูก็ไม่ได้อะไรแค่ตักเตือน และให้มาโรงเรียน จนเค้าเริ่มไม่มาโรงเรียนขาดเริ่มเป็นว่าเลย ครูที่ปรึกษาเค้าเลยเรียกเราไปพบถามถึงเค้าทำไมไม่มาเรียน (ขอบอกก่อนนะคะ เค้าเป็นตัวแสบของโรงเรียน เป็นที่หมายปองของครูหลายๆท่าน) เป็นแบบนี้มาเรื่อยจนเราต้องลาออกและดรอปตามเค้าไป เราเปิดตัวให้พ่อแม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนคะ พ่อไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ จนมาอายุ16ปี เริ่มหาที่เรียนใหม่ไปเรียนที่อื่น เหมือนเดิมเลยคะ เรียนได้วันเดียว ไม่ไปอีกเลยทั้งที่เสียค่าเทอมแล้วจ่ายค่าเสื้อแล้ว เหตุเพราะทะเลาะกันเพราะเค้าบอกไม่ใช่ถิ่นเรา มันไม่คุนเคยบลาๆ นิสัยนักเลงต่างถิ่นนั่นแหละคะ สุดท้ายมาจบที่เรียนก.ศ.น ซึ่งตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่คะ ระหว่างที่คบกันมามีทุกครั้งค่ะที่เราทะเลาะกันแล้วทำลายข้าวของ เริ่มเข้าช่วง1ปี มีลงไม้ลงมือกับเรา จนเราต้องหอบข้าวของกลับบ้านและเล่าให้ที่บ้านฟังว่าเราเจออะไรมา จนพ่อเราจะเอาเค้าเข้าคุก ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากตอนนั้น เพราะเค้าก็ไม่เกรงกลัวอะไรเลย จนเรื่องมันปล่อยเลยตามเลย เค้ามาง้อเรา เราก็โง่คะกลับไปหาเค้า ปล่อยพ่อแม่ลอยแพ เป็นอย่างงี้มาเรื่อยๆค่ะทุบตีตบเราลำลายข้าวของ หลังมาเริ่มเข้าปีที่สอง เราอายุ17ปี ปัจจุบัน เหมือนเดิมเลยคะ ทุบตีตบเราทุกครั้งที่ทะเลาะกันหนักขึ้นก็คือ ก่อนที่เริ่มมีปากเสียงเค้าจะลุกขึ้นมาตบเราปาข้าวของใส่เรา ต่อให้เราถูกเค้าก็ไม่สน พอเริ่มมีสติก็มาขอโทษเราเหมือนเดิม คงสงสัยใช่ไหมคะ ทำไมถึงยังทนอยู่ เพราะรักละมั้งคะ รักของเด็กน้อย ที่โงหัวไม่ขึ้น หวังว่าเค้าจะปรับตัวให้ดีขึ้น มันก็เป็นได้แค่หวังเพราะครอบครัวแต่ละครอบครัวถูกสั่งสอนมาไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งเรื่องเงิน เราไม่มีเงินเราอยู่ได้ต่อให้เราห่างไกลจากพ่อแม่แค่ไหนเราก็อยู่ได้ มีอะไรกินก็กิน ต่อให้มีข้าวกับน้ำปลาก็กิน แต่สำหรับเค้าไม่เลย ต้องมีเงินเท่านั้นถึงขั้นขายโทรศัพท์กิน บอกห้ามก็แล้ว ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุเลยปล่อยเลยตามเลย ตอนเราไม่มีเงินทั้งคู่ เค้าก็ให้เราขอเงินพ่อเรามาใช้ เหมือนเค้าใช้60 เราใช้40 ทั้งๆที่เงินพ่อเรา เราเป็นคนขอเรากับใช้ไม่ถึงครึ่ง ถ้าเราไม่ขอเราก็โดนทวงบุญคุณ ทวงทุกอย่างที่เค้าให้เราถึงปากจะบอกว่าไม่ต้องห่วงจะไม่ทวงคืน ให้คือให้ ก่อนหน้านี้เราทะเลาะกันเรื่องข้าว เค้าเอารถเราไปทำงานเลิดเที่ยงคืน เมื่อเย็นมานี้มีพักเบรคเค้าให้เราเอาข้าวไปส่ง แต่ไม่มีรถไปส่งต้องยื่นหน้าไปขอรถเค้า ตังค่าข้าวเราออกให้ แถมยังติดร้านข้าวไว้อีก10บาท เพราเหลือติดตัวแค่40 กะจะซื้อข้าวกิน เราไม่ได้กินข้าวมา2วัน ยอมอดกินมาม่า กินขนม เพื่อให้เค้ามีข้าวไปกินโรงงาน เราไม่มีงานทำ มีเงินอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะแบมือขอพ่อเกาะพ่อกินไปวันๆ จากน้ำหนักก่อนคบอยู่ที่45 หลังคบกับเค้าเหลือ39 ที่เราไม่ยอมไปสักทีไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งๆที่เค้าทำกับเราเหมือนไม่ใช่แฟน ทุกคำที่ด่าเราคือเราเป็นตัวอะไรไม่รู้เลย ข่มเราทุกวัน เราเหนื่อยนะ แต่เหมือนเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเราไม่รู้ทำให้เราออกจากตรงนี้ไม่ได้ ทุกวันที่อยู่กับเค้าเราคือเป็นขี้ข้า เป็นมือเป็นตีนให้ ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็ข่มทำลายข้าวของ ตบเรา ถ้าเราสู้ทุกอย่างจะจบที่เราเป็นคนผิดหมด คนรอบข้างไม่มีใครช่วยเราได้เลยตอนเราโดนกระทำ ไม่มีใครอยากช่วย พอเรื่องมันจบทุกคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งแรกที่เราจะได้รับตอนเค้ามีสติคือขอโทษไม่ได้ตั้งใจอารมณ์พาไป เคยคิดที่อยากจะหนีออกไปให้ไกลๆ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะความโง่หลงขิงตัวเองทุกวันนี้เลยเหมือนตายทั้งเป็น
ความรักของเด็กอายุ17ปี