อยากทราบว่า เกาหลีใต้ทำอย่างไรในการเผยแพร่กีฬาเทควันโดให้แพร่หลายและผลักดันจนทำให้ได้รับการบรรจุเป็นกีฬาโอลิมปิกได้
ตามประวัติแล้ว เทควันโดได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 โดยพัฒนาจากศิลปะการต่อสู้พื้นเมืองของเกาหลี ต่อมาได้เผยแพร่ไปต่างประเทศ ขั้นแรกผ่านทหารอเมริกันที่ได้ไปประจำการในเกาหลีใต้ และทหารเกาหลีใต้ที่ได้ไปรบในสงครามเวียดนามได้นำไปเผยแพร่ให้กับทหารอเมริกันและชาติต่างๆ ก่อนจะเผยแพร่ไปทั่วโลก ต่อมาได้เป็นกีฬาสาธิตในกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 ที่โซล และปี 1992 ที่บาร์เซโลนา ก่อนจะได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการในปี 2000 ที่ซิดนีย์ จะเห็นได้ว่าค่อนข้างเร็วมาก เมื่อเทียบกับกีฬาต่อสู้ที่ใกล้เคียงกันของญี่ปุ่นอย่างคาราเต้ ซึ่งญี่ปุ่นและคาราเต้นั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักในหมู่ชาติตะวันตกมาก่อนเกาหลีใต้ ทว่าเพิ่งได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิกในปี 2020 ที่โตเกียว (ซึ่งครั้งต่อไป ปี 2024 ก็จะไม่ได้จัดแข่ง โดยทางฝ่ายจัดการแข่งขันบรรจุกีฬาเบรคแดนซ์หรือ Breaking แทน เพราะมองว่ากีฬาต่อสู้มีมากแล้ว และมองว่ากีฬาเบรคแดนซ์จะสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้มากกว่า ต้องคอยดูว่าคาราเต้จะกลับมาสู่โอลิมปิกอีกครั้งเมื่อใด)
จขกท. เคยตั้งกระทู้ถามเมื่อนานมาแล้วว่าทำไมคาราเต้ถึงได้รับการบรรจุเข้าในกีฬาโอลิมปิกช้ากว่าเทควันโด เร็วๆนี้ได้อ่านบทความหนึ่งจากเพจหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเพจ Marketeer เลยสรุปมาได้ใจความประมาณนี้ กล่าวคือ คาราเต้นั้นมีรากฐานเดิมมาจากริวกิว ซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นอาณาจักรอิสระมาก่อน ต่อมาได้ถูกผนวกรวมกับจักรวรรดิญี่ปุ่น ต่อมาคาราเต้ได้เผยแพร่เข้าไปในญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ ทว่าในช่วงแรกก็ไม่ได้รับการยอมรับมากนัก เนื่องจากมีความรุนแรง ต่อมาในช่วงประมาณทศวรรษที่ 1920 ได้มีการปรับให้ความรุนแรงลดลง ทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพสหรัฐฯเข้าปกครองญี่ปุ่น คาราเต้เป็นศิลปะการต่อสู้เดียวที่อนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นฝึกได้ เพราะว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดบูชิโดหรือลัทธิทหารของญี่ปุ่น ต่อมาคาราเต้ได้เผยแพร่เข้าไปในสหรัฐฯผ่านทหารอเมริกันที่เคยประจำการในญี่ปุ่น ก่อนจะเผยแพร่ไปทั่วโลก และเป็นที่นิยมหลังจากมีกระแสจากภาพยนตร์เรื่อง The Karate Kid ปี 1984 มีการจัดตั้งองค์กรเพื่อควบคุมดูแล ทว่าการทำงานนั้นไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนัก (และน่าแปลกที่องค์กรนั้นตั้งอยู่ที่สเปนแทนที่จะเป็นญี่ปุ่นชาติต้นกำเนิด) อีกทั้งไม่ได้จริงจังกับการเสนอให้ได้รับการบรรจุเข้ากีฬาโอลิมปิกเท่าใดนัก เนื่องจากพอใจที่มีการแข่งขันระดับนานาชาติในหลายประเทศอยู่แล้ว การดำเนินงานที่ไม่เป็นเอกภาพนั้นยังดำเนินอยู่มาจนก่อนจะได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิก โดยนายกรัฐมนตรีซูกะได้พยายามช่วยประสานงานจนได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิกในที่สุด นี่คือสาเหตุที่ทำให้เพิ่งได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิก ส่วนยูโดนั้นได้รับการบรรจุครั้งแรกใน ปี 1964 ที่โตเกียว เว้นไปครั้งหนึ่งในปี 1968 ที่เม็กซิโกซิตี้ ก่อนจะกลับมาเป็นกีฬาโอลิมปิกในปี 1972 ที่มิวนิค และได้เป็นกีฬาโอลิมปิกทุกครั้งมาตั้งแต่นั้น (คหสต. จขกท.มองว่า การที่คาราเต้มีต้นกำเนิดมาจากริวกิว อาจทำให้ทางทีมงานจัดโอลิมปิก 1964 มองว่ายูโดมีความเป็น "ญี่ปุ่นแท้" มากกว่า เลยบรรจุยูโดก่อน)
จากที่สรุปมา สาเหตุคือทางหน่วยงานของคาราเต้ในระดับโลกทำงานไม่เป็นเอกภาพและไม่ได้เสนออย่างจริงจัง เลยสงสัยว่าทางเกาหลีใต้เขาทำอย่างไรในการเผยแพร่เทควันโดให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาโอลิมปิก นอกจากทำกันอย่างจริงจังแล้ว คิดว่าน่าจะมีปัจจัยอื่นๆอีก เมื่อเร็วๆนี้ก็ได้อ่านบทความอีกบทหนึ่งของ New York Times เกี่ยวกับเทควันโด (ในบทความกล่าวถึงน้องเทนนิสด้วย) สรุปได้ว่า เป็นการส่งออกทางวัฒนธรรมที่สำเร็จชิ้นแรกๆของเกาหลีใต้ ก่อนกระแส Korean Wave, Korean Drama และ K - Pop โดยในบทความนั้นกล่าวอีกว่า กีฬานี้ทำให้ประเทศเล็กๆที่มีโอกาสได้เหรียญน้อยได้เหรียญเพิ่ม หลายประเทศได้เหรียญแรก ได้เหรียญทองแรกจากกีฬานี้ และนักกีฬาผู้เชิญธงชาติเข้าสนามในพิธีเปิดหลายคนก็เป็นนักกีฬาเทควันโด บ่งบอกได้เลยว่ากีฬานี้ค่อนข้างแพร่หลายในหลายประเทศเลยทีเดียว คหสต.เห็นว่าครั้งหลังสุดนี้ มีแค่ไทยกับอุซเบกิสถานที่เป็นเอเชียที่ได้เหรียญทอง นอกจากนั้นมาจากยุโรปกับอเมริกา (ครั้งนี้รัสเซียได้เหรียญทองมากที่สุด) ชาติที่มักได้เหรียญทองเช่นเกาหลีใต้กับจีนได้เพียงเหรียญเงินกับทองแดง และเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้ไม่ได้เหรียญทองจากกีฬานี้เลย การที่ชาติต้นกำเนิดหรือชาติเอเชียไม่สามารถผูกขาดเหรียญได้แบบเมื่อก่อน แสดงให้เห็นว่ากีฬานั้นมีความแพร่หลายค่อนข้างมาก
คหสต.จขกท. มองว่า การที่เกาหลีพยายามผลักดันเทควันโดก็อาจมีเหตุผลคล้ายๆกับการส่งออก K - Pop ของเขา ที่ต้องการให้ประเทศเขาเป็นที่รู้จัก เพราะในสมัยก่อนเกาหลีคืออะไร ชาวต่างชาติโดยเฉพาะโลกตะวันตกไม่รู้จัก แม้แต่ทหารอเมริกันที่มารบในเกาหลีก็ไม่รู้ว่าเกาหลีอยู่ตรงไหน โดยมากรู้จักแค่จีนกับญี่ปุ่น อาจารย์เทควันโดชาวเกาหลีในอเมริกาช่วงแรกๆก็เรียกเทควันโดว่า Korean Karate เพราะชาวอเมริกันรู้จักคาราเต้มาก่อน ก่อนจะใช้ชื่อเทควันโดแทน ซึ่งการเผยแพร่เทควันโด รวมไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีในตอนนี้ได้บรรลุผลแล้วในส่วนที่ทำให้ประเทศเป็นที่รู้จัก จากเดิมที่ตะวันตกรู้จักเพียงจีนกับญี่ปุ่นก็มารู้จักเกาหลีใต้เพิ่มอีกประเทศหนึ่ง
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ
เกาหลีใต้ทำอย่างไรในการเผยแพร่กีฬาเทควันโดให้แพร่หลายและผลักดันจนทำให้ได้รับการบรรจุเป็นกีฬาโอลิมปิกได้
ตามประวัติแล้ว เทควันโดได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 โดยพัฒนาจากศิลปะการต่อสู้พื้นเมืองของเกาหลี ต่อมาได้เผยแพร่ไปต่างประเทศ ขั้นแรกผ่านทหารอเมริกันที่ได้ไปประจำการในเกาหลีใต้ และทหารเกาหลีใต้ที่ได้ไปรบในสงครามเวียดนามได้นำไปเผยแพร่ให้กับทหารอเมริกันและชาติต่างๆ ก่อนจะเผยแพร่ไปทั่วโลก ต่อมาได้เป็นกีฬาสาธิตในกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 ที่โซล และปี 1992 ที่บาร์เซโลนา ก่อนจะได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการในปี 2000 ที่ซิดนีย์ จะเห็นได้ว่าค่อนข้างเร็วมาก เมื่อเทียบกับกีฬาต่อสู้ที่ใกล้เคียงกันของญี่ปุ่นอย่างคาราเต้ ซึ่งญี่ปุ่นและคาราเต้นั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักในหมู่ชาติตะวันตกมาก่อนเกาหลีใต้ ทว่าเพิ่งได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิกในปี 2020 ที่โตเกียว (ซึ่งครั้งต่อไป ปี 2024 ก็จะไม่ได้จัดแข่ง โดยทางฝ่ายจัดการแข่งขันบรรจุกีฬาเบรคแดนซ์หรือ Breaking แทน เพราะมองว่ากีฬาต่อสู้มีมากแล้ว และมองว่ากีฬาเบรคแดนซ์จะสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้มากกว่า ต้องคอยดูว่าคาราเต้จะกลับมาสู่โอลิมปิกอีกครั้งเมื่อใด)
จขกท. เคยตั้งกระทู้ถามเมื่อนานมาแล้วว่าทำไมคาราเต้ถึงได้รับการบรรจุเข้าในกีฬาโอลิมปิกช้ากว่าเทควันโด เร็วๆนี้ได้อ่านบทความหนึ่งจากเพจหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเพจ Marketeer เลยสรุปมาได้ใจความประมาณนี้ กล่าวคือ คาราเต้นั้นมีรากฐานเดิมมาจากริวกิว ซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นอาณาจักรอิสระมาก่อน ต่อมาได้ถูกผนวกรวมกับจักรวรรดิญี่ปุ่น ต่อมาคาราเต้ได้เผยแพร่เข้าไปในญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ ทว่าในช่วงแรกก็ไม่ได้รับการยอมรับมากนัก เนื่องจากมีความรุนแรง ต่อมาในช่วงประมาณทศวรรษที่ 1920 ได้มีการปรับให้ความรุนแรงลดลง ทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพสหรัฐฯเข้าปกครองญี่ปุ่น คาราเต้เป็นศิลปะการต่อสู้เดียวที่อนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นฝึกได้ เพราะว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดบูชิโดหรือลัทธิทหารของญี่ปุ่น ต่อมาคาราเต้ได้เผยแพร่เข้าไปในสหรัฐฯผ่านทหารอเมริกันที่เคยประจำการในญี่ปุ่น ก่อนจะเผยแพร่ไปทั่วโลก และเป็นที่นิยมหลังจากมีกระแสจากภาพยนตร์เรื่อง The Karate Kid ปี 1984 มีการจัดตั้งองค์กรเพื่อควบคุมดูแล ทว่าการทำงานนั้นไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนัก (และน่าแปลกที่องค์กรนั้นตั้งอยู่ที่สเปนแทนที่จะเป็นญี่ปุ่นชาติต้นกำเนิด) อีกทั้งไม่ได้จริงจังกับการเสนอให้ได้รับการบรรจุเข้ากีฬาโอลิมปิกเท่าใดนัก เนื่องจากพอใจที่มีการแข่งขันระดับนานาชาติในหลายประเทศอยู่แล้ว การดำเนินงานที่ไม่เป็นเอกภาพนั้นยังดำเนินอยู่มาจนก่อนจะได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิก โดยนายกรัฐมนตรีซูกะได้พยายามช่วยประสานงานจนได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิกในที่สุด นี่คือสาเหตุที่ทำให้เพิ่งได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิก ส่วนยูโดนั้นได้รับการบรรจุครั้งแรกใน ปี 1964 ที่โตเกียว เว้นไปครั้งหนึ่งในปี 1968 ที่เม็กซิโกซิตี้ ก่อนจะกลับมาเป็นกีฬาโอลิมปิกในปี 1972 ที่มิวนิค และได้เป็นกีฬาโอลิมปิกทุกครั้งมาตั้งแต่นั้น (คหสต. จขกท.มองว่า การที่คาราเต้มีต้นกำเนิดมาจากริวกิว อาจทำให้ทางทีมงานจัดโอลิมปิก 1964 มองว่ายูโดมีความเป็น "ญี่ปุ่นแท้" มากกว่า เลยบรรจุยูโดก่อน)
จากที่สรุปมา สาเหตุคือทางหน่วยงานของคาราเต้ในระดับโลกทำงานไม่เป็นเอกภาพและไม่ได้เสนออย่างจริงจัง เลยสงสัยว่าทางเกาหลีใต้เขาทำอย่างไรในการเผยแพร่เทควันโดให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาโอลิมปิก นอกจากทำกันอย่างจริงจังแล้ว คิดว่าน่าจะมีปัจจัยอื่นๆอีก เมื่อเร็วๆนี้ก็ได้อ่านบทความอีกบทหนึ่งของ New York Times เกี่ยวกับเทควันโด (ในบทความกล่าวถึงน้องเทนนิสด้วย) สรุปได้ว่า เป็นการส่งออกทางวัฒนธรรมที่สำเร็จชิ้นแรกๆของเกาหลีใต้ ก่อนกระแส Korean Wave, Korean Drama และ K - Pop โดยในบทความนั้นกล่าวอีกว่า กีฬานี้ทำให้ประเทศเล็กๆที่มีโอกาสได้เหรียญน้อยได้เหรียญเพิ่ม หลายประเทศได้เหรียญแรก ได้เหรียญทองแรกจากกีฬานี้ และนักกีฬาผู้เชิญธงชาติเข้าสนามในพิธีเปิดหลายคนก็เป็นนักกีฬาเทควันโด บ่งบอกได้เลยว่ากีฬานี้ค่อนข้างแพร่หลายในหลายประเทศเลยทีเดียว คหสต.เห็นว่าครั้งหลังสุดนี้ มีแค่ไทยกับอุซเบกิสถานที่เป็นเอเชียที่ได้เหรียญทอง นอกจากนั้นมาจากยุโรปกับอเมริกา (ครั้งนี้รัสเซียได้เหรียญทองมากที่สุด) ชาติที่มักได้เหรียญทองเช่นเกาหลีใต้กับจีนได้เพียงเหรียญเงินกับทองแดง และเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้ไม่ได้เหรียญทองจากกีฬานี้เลย การที่ชาติต้นกำเนิดหรือชาติเอเชียไม่สามารถผูกขาดเหรียญได้แบบเมื่อก่อน แสดงให้เห็นว่ากีฬานั้นมีความแพร่หลายค่อนข้างมาก
คหสต.จขกท. มองว่า การที่เกาหลีพยายามผลักดันเทควันโดก็อาจมีเหตุผลคล้ายๆกับการส่งออก K - Pop ของเขา ที่ต้องการให้ประเทศเขาเป็นที่รู้จัก เพราะในสมัยก่อนเกาหลีคืออะไร ชาวต่างชาติโดยเฉพาะโลกตะวันตกไม่รู้จัก แม้แต่ทหารอเมริกันที่มารบในเกาหลีก็ไม่รู้ว่าเกาหลีอยู่ตรงไหน โดยมากรู้จักแค่จีนกับญี่ปุ่น อาจารย์เทควันโดชาวเกาหลีในอเมริกาช่วงแรกๆก็เรียกเทควันโดว่า Korean Karate เพราะชาวอเมริกันรู้จักคาราเต้มาก่อน ก่อนจะใช้ชื่อเทควันโดแทน ซึ่งการเผยแพร่เทควันโด รวมไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีในตอนนี้ได้บรรลุผลแล้วในส่วนที่ทำให้ประเทศเป็นที่รู้จัก จากเดิมที่ตะวันตกรู้จักเพียงจีนกับญี่ปุ่นก็มารู้จักเกาหลีใต้เพิ่มอีกประเทศหนึ่ง
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ