บ่นลูกเรื่องเรียนออนไลน์ลูกไม่คุยด้วยอีกเลย

คือช่วงนี้ลูกต้องเรียนออนไลน์ เราตามงานกับคุณครูตลอด เวลาถามครูครูกจะบอกว่าลูกเราไม่ค่อยส่งงานไม่ค่อยเข้าเรียน ที่ต้องเช็คเพราะกลัวเขาไม่จบ ตอนนี้อยู่ป.6 ค่ะ  ลูกผู้หญิงค่ะ   เราก็จะโทรบ่นเขา ว่าทำไมต้องให้แม่คอยตามคอยจี้ แม่ทำงานก็เหนื่อยแล้วยังต้องมาตามงานกับหนูอีก  เราพูดเท่านี้ลูกก็ตัดสายไปเลย  เย็นมาก็ไม่คุยกับเรา  เราไปห็นเขาโพส ว่าทำไมไม่เข้าใจเรียนก็เหนื่อยพอแล้วยังต้องมาเจอแบบนี้อีก  เราว่าเขาน่าจะว่าเราแหละ  เราเสียใจนะที่ลูกไม่คุยด้วย   คือพูดอะไรไปเขาไม่รับฟังเลย แต่เขาจะคุยกับเพื่อนๆเขาในโทรศัพท์ตลอดมีความสุขตลอด แต่พอกับเราจะทำหน้าบึ้งตึง ไม่สนใจ   เราพูดดีด้วยก็แล้ว อธิบายด้วยเหตุผลก็แล้วว่าทำไมแม่ถึงต้องจี้ เขาก็ไม่ฟังเหมือนเขาไม่อยากรับรู้เรื่องที่เราสอน พยายามทุกอย่างไม่โมโหใส่เขา เขาก็ยังไม่คุยด้วย   ตอนนี้เครียดมากค่ะ ร้องไห้คนเดียว  เราควรปล่อยไปแบบนี้ไหมคะ ในเมื่อเขาไม่อยากคุย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
จขกท ไม่ได้คุยกับลูกค่ะ
คุณบ่นลูก

เอาง่ายๆ
ใครมันจะไปอยากคุยกับคนที่บ่นเราตลอด
มันบั่นทอนจิตใจนะคะ

คิดถึงใจเขาใจเรา เรียกลูกกลับมาให้ได้ ก่อนจะหมดใจไปมากกว่านี้
ความคิดเห็นที่ 15
ปัญหาคือ
คนไทยเข้าใจว่าการสอน มีแต่วิธีการในเชิงลบ ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีเท่านั้น
แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีการสอนในเชิงบวกอยู่

ไม่เพียงเท่านั้น หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการสอนในเชิงบวก คือการไม่สอนอีก หรือการสอนให้เป็นลูกเทวดาไปซะงั้น

ทั้งที่จริงการสอนให้ลูกเป็นเทวดา คือการสอนให้เข้าใจผิดในเรื่องผิดชอบชั่วดีต่างหาก ไม่ใช่สอนด้วยวิธีการเชิงบวก

ซึ่งการสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดีไม่มีความจำเป็นต้องลงโทษหรือดุด่า การกระทำเช่นนั้นจะมำให้เกิดการต่อต้านแทน
ซึ่งหลายครั้งเขารู้อยู่แล้วว่าไม่ดี แต่เพราะลงโทษหรือดุด่าเลยทำให้เขาต่อต้านแทน
(ค่อนข้างละเอียดอ่อน ดูเพิ่มที่เพจเลี้ยงลูกต่าง ๆ เพิ่มละกัน)

ส่วนใครกังวลว่าเดี๋ยวเด็กจะไม่รู้จักความยากลำบาก
1. ความยากลำบากทางจิตใจ... อย่าหาทำ ถ้าคุณทำให้เด็กรู้สึกลำบากทางจิตใจ เด็กจะไม่รู้สึกว่าคุณพึ่งพาได้แทน
2. ความยากลำบากทางร่างกาย ให้เขาเลือกที่อยากจะลำบากแทน ด้วยที่มีเป้าหมายอยู่ปลายทางความลำบากนั่น ไม่ใช่ทำให้เรื่องมันยากขึ้นโดยไม่จำเป็น

----

ส่วนเคสนี้ ควร "ทำความเข้าใจ" ว่าปัญหาของเด็กคืออะไรก่อน ด้วยการสอบถามแล้วฟังเพียงอย่างเดียว โดยไม่ขัดไม่แย้ง แล้วก็ค่อยให้กำลังใจต่อ ถ้าเขายังติดปัญหาก็ช่วยเขา ใช้เวลาร่วมกับเขา ให้เขารู้ว่าเราพร้อมที่จะร่วมลำบากไปกับปัญหาของเขา

การไปบ่น ๆ ๆ แล้ว "สั่ง" สอน แบบไม่รับฟังจะทำให้เกิดการต่อต้านมากกว่าอยากทำตาม
ความคิดเห็นที่ 10
ถามลูกว่า ลูกมีปัญหาอะไรรึเปล่า อยากให้แม่ช่วยอะไรมั้ย
ความคิดเห็นที่ 3
คุณเลี้ยงลูกแบบไม่ได้ใจลูกเลย ลูกอ้างว้างจนเขารู้สึกว่าเพื่อนคือที่พึ่งทางใจไม่ใช่แม่
แบบนี้ไม่ได้แล้ว
เรียกลูกมาคุยให้ได้
มีอะไรต้องคุยกันให้เข้าใจ จะหนีหน้าแบบนี้ไม่ได้
คุณต้องทำให้ลูกรู้ว่าเขาจะทำตัวแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ชีวิตมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ
ถ้าคุณเป็นแม่ไม่สามารถควบคุมลูกที่อยู่แค่ ป.6 ได้ ต่อไปเมื่อลูกโตกว่านี้คุณจะทำอะไรไม่ได้แล้ว
ความคิดเห็นที่ 16
ด้วยความเคารพคุณแม่ อยากเรียนรบกวน

1. ลองไปนั่งเรียน ออนไลน์กับลูกซักวัน (ทั้งวัน) นั่งฟังเหมือนนั่งเรียนในห้องนั้นเงียบๆนะครับ
2. ลองพิจารณาว่าลูกเค้าต้องทำงานกะการบ้านอะไรบ้าง กี่วิชา กี่งาน

ตรงนี้คุณจะเข้าใจลูกเต็มที่ว่าวันนึงเค้าต้อง เรียนอะไรบ้าง เจออะไรบ้าง
อย่าลืมนะครับ การเรียนออนไลน์ กับสถานการณ์ covid ออกไปไหนไม่ได้ ไม่ต่างกับการถูกขังอยู่แต่ในบ้าน

ให้เวลาเค้าเรียนหรือทำกิจกรรมออนไลน์ให้เต็มที่ เด็ก gen นี้เค้าเรียนรู้อะไร ไวกว่า gen เราเยอะ
เค้ากำลังโต หน้าที่เรา ไม่ควรไปเร่ง จ้ำจี้จำไช สิ่งที่ควรทำคือให้กำลังใจ ดูแล เอาใจใส่

อาจจะเตรียมน้ำ เตรียมขนม พูดคุย หยอกล้อ เพื่อลดช่องว่าง
แบ่งเวลา หากิจกรรม ให้เค้าละจากหน้าจอบ้าง วันนึงซักชั่วโมง สองชั่วโมง ก็ยังดี

ทำให้เค้าเชื่อใจและอยากปรึกษาเรา ไม่ใช่บังคับให้ปรึกษาเราครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่