สลดคุณตาวัย 78 ป่วยติดเตียง-ติดโควิด อาการทรุดรอรักษาไม่ไหวดับคาบ้าน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6552217
สลดคุณตาวัย 78 ป่วยติดเตียง-ติดโควิด อาการทรุดรอรักษาไม่ไหวดับคาบ้าน เผยคนในบ้านเช่าเดียวกันก็ติด-รอลุ้นผลตรวจอีกหลายราย
เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 7 ส.ค.64 ตำรวจ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ภายในซอยประชาอุทิศ 79 จึงเร่งรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่พร้อมแพทย์นิติเวช พบเหตุเกิดภายในบ้านพัก ซอยประชาอุทิศ 79 แยกย่อยซอยที่ 21 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า มีรั้วรอบขอบชิด และภายในรั้วเดียวกันยังมีบ้านอีก 3 หลัง จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุดังกล่าวบริเวณชั้นล่างของตัวบ้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนาย
จำรัส อายุ 78 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 10 ปี
จากการตรวจสอบโรคของสาเหตุการเสียชีวิตพบมีใบตรวจโรคโควิด จากศูนย์อนามัยแห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ มีผลบ่งบอกว่าเป็นผู้ติดเชื้อจากโควิดแล้วจากการตรวจสอบอย่างละเอียดภายในห้องพักไม่พบการถูกรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นพร้อมกับแพทย์นิติเวชให้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด จึงต้องดำเนินการฌาปนกิจอย่างเร่งด่วน
สอบถาม
นางกิ่งแก้ว อายุ 49 ปีลูกสาว เล่าว่า พ่อมีอาการ จึงพาไปตรวจที่อนามัย แล้วส่งตัวไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลตากสิน ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.แล้วก็กลับมาพักที่บ้านและให้พยายามหาเตียง เพราะพ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไปโรงพยาบาลสนามไม่ได้ ต้องไปอยู่โรงพยาบาลอย่างเดียว หลังจากนั้นติดต่อที่อนามัยด้วย ก็ให้ไปรับยามากินได้ประมาณ 3 วัน แล้วติดต่อมูลนิธิกระจกเงา เพื่อขอถังออกซิเจน ก็มาเปลี่ยนทุก 3 ชั่วโมง ตนก็มาดูแลเปลี่ยนให้ พอมาวันนี้ประมาณบ่าย 3 ครึ่งตนเปลี่ยนเสร็จก็กลับไปบ้าน แล้วแม่ก็ไปตามบอกพ่อไม่ไหวแล้ว ตนจึงติดต่อหมออนามัยเรื่องอาการตลอด แต่พอค่าออกซิเจนต่ำลงถึง 60 กว่าคือขั้นวิกฤตแล้ว แล้วช่วงก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต โรงพยาบาลแจ้งมาว่าได้เตียงแล้ว แต่พ่อไม่ไหวและไม่ได้ไป สุดท้ายสิ้นใจในบ้าน
ส่วน
นางแดง อายุ 61 ปี เป็นคนเช่าห้องอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน เล่าว่า ในบ้านมีติดหลายคน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนยังรอผล รอเจ้าหน้าที่ติดต่อมายืนยันอีกครั้ง ส่วนเด็กเริ่มจะมีอาการแล้ว ตนรับยามาจากอนามัยมากินตามที่หมอบอก ได้ประมาณ 3 วันเหมือนกัน
สลด ลูกชายติดโควิดตายเพียงวันเดียว พ่อวัย 66 ปี เสียชีวิตคาบ้านอีกคน
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2160731
โชเฟอร์แท็กซี่วัย 66 ปี ที่สมุทรปราการ เลิกงานกลับมานอนบ้าน อีกวันลูกสาวไปเรียก พบพ่อตัวแข็งทื่อ เสียชีวิตแล้ว เผยลูกชายคนโตของเพิ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดเพียงวันเดียว ครอบครัวเตรียมไปตรวจหาเชื้อ แต่พ่อก็มาตายไปอีกคน
เวลา 15.30 น.วันที่ 7 สิงหาคม พ.ต.อ.
เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากนาย
สิทธิ์ปกรณ์ จุลแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ ว่ามีชายสูงอายุซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 710 / 366 หมู่ 5 ซอย 8 จัดสรรเสนาะ ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวซึ่งภายในแบ่งเป็น 3 ห้อง ที่บริเวณห้องที่ 2 ได้พบร่างของนายสุโพธิ์ พรรณกุล อายุ 66 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากการสอบถามลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า พี่ชายคนโตของตนเพิ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ไปเมื่อวานนี้ โดยที่ตนและคนในครอบครัวรวมทั้งพ่อ เตรียมที่จะไปตรวจหาเชื้อในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยพ่อมีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง หลังจากที่เมื่อเช้า พ่อได้กลับมาจากขับแท็กซี่ได้เข้านอนตามปกติ จนกระทั่งบ่าย ตนได้เข้าไปเรียกพ่อเพื่อให้มากินข้าว แต่เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น จึงได้ไปเขย่าตัวพบว่าพ่อตัวแข็ง และไม่หายใจ จึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้น นาย
สิทธิ์ปกรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลท้ายบ้านใหม่ ได้กำชับให้คนในบ้านกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน พร้อมจัดถุงยังชีพและข้าวกล่องมามอบให้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ให้รับตัวผู้ที่อาศัยในบ้านหลังนี้ไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำไปชันสูตร ที่ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ดูกันชัดๆ! การรถไฟฯ กางหนังสือตร.ขอตู้โบกี้ไปใช้กับโควิด ไม่ใช่เอาไปขวางม็อบ
https://www.dailynews.co.th/news/135769/
รฟท. เปิดหนังสือตำรวจขอตู้โบกี้รถไฟ-ตู้เชื้อเพลิงไปใช้ป้องกันโควิด ไม่ใช่ใช้เป็นแนวป้องกันขวางม็อบ เตรียมประสานขอความชัดเจนเรื่องนี้ ยันที่ผ่านมา รฟท. ให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนเกี่ยวกับโควิดมาโดยตลอด
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีการนำตู้โบกี้รถไฟและตู้เชื้อเพลิงที่ปลดระวางแล้วไปใช้เป็นแนวป้องกันขัดขวางการชุมนุมว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้ทำหนังสือมาถึง รฟท. ที่ ตช 0001(มค 3)/570 ลงวันที่ 6 ส.ค.64 เรื่องขอความอนุเคราะห์ตู้โบกี้รถไฟและตู้เชื้อเพลิง โดยได้ระบุวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ในการทำกิจกรรมในลักษณะที่เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และไม่ได้มีการระบุแนวทางของการนำไปใช้ วันเวลา หรือสถานที่ที่จะนำตู้โบกี้และตู้เชื้อเพลิงไปใช้ ซึ่ง รฟท. ไม่ทราบรายละเอียดของการนำไปใช้เป็นแนวป้องกันขัดขวางการชุมนุม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รฟท. แจ้งต่อว่า ที่ผ่านมา รฟท. มุ่งเน้นที่จะช่วยดำเนินการในทุกๆ ทางที่เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยเหลือดูแลประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดให้ใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานที่ในการฉีดวัคซีน รวมทั้งการร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขในการส่งผู้ป่วยติดเชื้อกลับภูมิลำเนา ดังนั้น รฟท. ขอยืนยันอีกครั้งว่า รฟท. เป็นหน่วยงานที่พร้อมจะให้การบริการดูแลประชาชนคนไทยทุกคน โดย รฟท. จะดำเนินการประสานไปยัง สตช. เพื่อความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป.
JJNY : 4in1 คุณตาติดเตียง-ติดโควิดดับคาบ้าน│ลูกชายติดโควิดตาย พ่อเสียคาบ้านอีก│การรถไฟฯ กางหนังสือ│ส.อ.ท.ขอนำเข้าวัคซีน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6552217
เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 7 ส.ค.64 ตำรวจ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ภายในซอยประชาอุทิศ 79 จึงเร่งรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่พร้อมแพทย์นิติเวช พบเหตุเกิดภายในบ้านพัก ซอยประชาอุทิศ 79 แยกย่อยซอยที่ 21 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า มีรั้วรอบขอบชิด และภายในรั้วเดียวกันยังมีบ้านอีก 3 หลัง จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุดังกล่าวบริเวณชั้นล่างของตัวบ้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายจำรัส อายุ 78 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 10 ปี
จากการตรวจสอบโรคของสาเหตุการเสียชีวิตพบมีใบตรวจโรคโควิด จากศูนย์อนามัยแห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ มีผลบ่งบอกว่าเป็นผู้ติดเชื้อจากโควิดแล้วจากการตรวจสอบอย่างละเอียดภายในห้องพักไม่พบการถูกรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นพร้อมกับแพทย์นิติเวชให้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด จึงต้องดำเนินการฌาปนกิจอย่างเร่งด่วน
สอบถามนางกิ่งแก้ว อายุ 49 ปีลูกสาว เล่าว่า พ่อมีอาการ จึงพาไปตรวจที่อนามัย แล้วส่งตัวไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลตากสิน ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.แล้วก็กลับมาพักที่บ้านและให้พยายามหาเตียง เพราะพ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไปโรงพยาบาลสนามไม่ได้ ต้องไปอยู่โรงพยาบาลอย่างเดียว หลังจากนั้นติดต่อที่อนามัยด้วย ก็ให้ไปรับยามากินได้ประมาณ 3 วัน แล้วติดต่อมูลนิธิกระจกเงา เพื่อขอถังออกซิเจน ก็มาเปลี่ยนทุก 3 ชั่วโมง ตนก็มาดูแลเปลี่ยนให้ พอมาวันนี้ประมาณบ่าย 3 ครึ่งตนเปลี่ยนเสร็จก็กลับไปบ้าน แล้วแม่ก็ไปตามบอกพ่อไม่ไหวแล้ว ตนจึงติดต่อหมออนามัยเรื่องอาการตลอด แต่พอค่าออกซิเจนต่ำลงถึง 60 กว่าคือขั้นวิกฤตแล้ว แล้วช่วงก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต โรงพยาบาลแจ้งมาว่าได้เตียงแล้ว แต่พ่อไม่ไหวและไม่ได้ไป สุดท้ายสิ้นใจในบ้าน
ส่วนนางแดง อายุ 61 ปี เป็นคนเช่าห้องอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน เล่าว่า ในบ้านมีติดหลายคน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนยังรอผล รอเจ้าหน้าที่ติดต่อมายืนยันอีกครั้ง ส่วนเด็กเริ่มจะมีอาการแล้ว ตนรับยามาจากอนามัยมากินตามที่หมอบอก ได้ประมาณ 3 วันเหมือนกัน
สลด ลูกชายติดโควิดตายเพียงวันเดียว พ่อวัย 66 ปี เสียชีวิตคาบ้านอีกคน
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2160731
เวลา 15.30 น.วันที่ 7 สิงหาคม พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากนายสิทธิ์ปกรณ์ จุลแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ ว่ามีชายสูงอายุซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 710 / 366 หมู่ 5 ซอย 8 จัดสรรเสนาะ ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวซึ่งภายในแบ่งเป็น 3 ห้อง ที่บริเวณห้องที่ 2 ได้พบร่างของนายสุโพธิ์ พรรณกุล อายุ 66 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากการสอบถามลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า พี่ชายคนโตของตนเพิ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ไปเมื่อวานนี้ โดยที่ตนและคนในครอบครัวรวมทั้งพ่อ เตรียมที่จะไปตรวจหาเชื้อในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยพ่อมีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง หลังจากที่เมื่อเช้า พ่อได้กลับมาจากขับแท็กซี่ได้เข้านอนตามปกติ จนกระทั่งบ่าย ตนได้เข้าไปเรียกพ่อเพื่อให้มากินข้าว แต่เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น จึงได้ไปเขย่าตัวพบว่าพ่อตัวแข็ง และไม่หายใจ จึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้น นายสิทธิ์ปกรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลท้ายบ้านใหม่ ได้กำชับให้คนในบ้านกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน พร้อมจัดถุงยังชีพและข้าวกล่องมามอบให้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ให้รับตัวผู้ที่อาศัยในบ้านหลังนี้ไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำไปชันสูตร ที่ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ดูกันชัดๆ! การรถไฟฯ กางหนังสือตร.ขอตู้โบกี้ไปใช้กับโควิด ไม่ใช่เอาไปขวางม็อบ
https://www.dailynews.co.th/news/135769/
รฟท. เปิดหนังสือตำรวจขอตู้โบกี้รถไฟ-ตู้เชื้อเพลิงไปใช้ป้องกันโควิด ไม่ใช่ใช้เป็นแนวป้องกันขวางม็อบ เตรียมประสานขอความชัดเจนเรื่องนี้ ยันที่ผ่านมา รฟท. ให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนเกี่ยวกับโควิดมาโดยตลอด
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีการนำตู้โบกี้รถไฟและตู้เชื้อเพลิงที่ปลดระวางแล้วไปใช้เป็นแนวป้องกันขัดขวางการชุมนุมว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้ทำหนังสือมาถึง รฟท. ที่ ตช 0001(มค 3)/570 ลงวันที่ 6 ส.ค.64 เรื่องขอความอนุเคราะห์ตู้โบกี้รถไฟและตู้เชื้อเพลิง โดยได้ระบุวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ในการทำกิจกรรมในลักษณะที่เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และไม่ได้มีการระบุแนวทางของการนำไปใช้ วันเวลา หรือสถานที่ที่จะนำตู้โบกี้และตู้เชื้อเพลิงไปใช้ ซึ่ง รฟท. ไม่ทราบรายละเอียดของการนำไปใช้เป็นแนวป้องกันขัดขวางการชุมนุม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รฟท. แจ้งต่อว่า ที่ผ่านมา รฟท. มุ่งเน้นที่จะช่วยดำเนินการในทุกๆ ทางที่เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยเหลือดูแลประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดให้ใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานที่ในการฉีดวัคซีน รวมทั้งการร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขในการส่งผู้ป่วยติดเชื้อกลับภูมิลำเนา ดังนั้น รฟท. ขอยืนยันอีกครั้งว่า รฟท. เป็นหน่วยงานที่พร้อมจะให้การบริการดูแลประชาชนคนไทยทุกคน โดย รฟท. จะดำเนินการประสานไปยัง สตช. เพื่อความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป.