คิดละเอียด vs คิดมาก แบบไหนจึงจะ ประสบความสำเร็จ และรวย เร็ว
💡💡เมื่อคุณมีไอเดียอยากทำธุรกิจ และตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างนึง
คุณใช้เวลาคิดนานแค่ไหน หรือว่า คุณไม่คิดเลยแล้วลงมือทำทันที‼️
👉คุณอาจเคยได้ยินว่า การทำธุรกิจหรือเป็นผู้ประกอบการ SME อะไรสักอย่างนึง คุณต้องไม่เป็นคนที่คิดมาก เพราะถ้าหากคุณคิดมาก “คุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที” 😭
บางคนถึงขั้น คิดแค่ว่า “อยากจะทำ”
ก็ทำเลย ซึ่งผมอยากจะบอกว่าสิ่งนี้คือ “คุณไม่ได้คิดมาก แต่ คุณคิดน้อยเกินไป” เพราะคนที่คิดน้อยเกินไป แล้วอยากทำธุรกิจอะไรสักอย่าง มักจะไม่ดูรอบข้าง ไม่ดูกลุ่มลูกค้า กระแส เศรษฐกิจการเมืองหรือตลาดต่างประเทศแต่อย่างใด ซึ่งการที่คิดแล้วทำเลยแบบนี้อาจทำให้ธุรกิจของคุณผิดพลาดได้ง่ายจนไปถึงขั้นที่ธุรกิจของคุณอาจจะเจ๊งและขาดทุนย่อยยับเลยก็เป็นได้…😰
👉และถ้าหากคุณดันคิดมากเกินไปหลังจากที่คุณคิดน้อยเกินไปล่ะ คุณก็ต้องมาดูว่าปัจจัยหลักในการทำธุรกิจและสิ่งต่าง ๆ รอบข้างมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการตลาด กลุ่มเป้าหมาย กระแส เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถเรียนรู้และหาข้อมูลได้อย่างตายตัว เช่น เรื่องเศรษฐกิจ
✌️ซึ่งคุณไม่มีทางสามารถวิเคราะห์ให้อยู่ในระดับเดียวกันได้ตลอด เพราะเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะขึ้นหรือดีได้ตลอด ทุกอย่างมันมีขึ้นมีลงกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหากคุณหมกมุ่นกับสิ่งเหล่านี้มากเกินไปคุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที
แต่‼️ก็ยังดีกว่าคนคิดน้อยเกินไปตรงที่ “คุณไม่กล้าลงมือทำก็เท่ากับคุณไม่เสียเงิน” เพราะคนคิดน้อยนอกจากจะเสียเงินแล้วยังไม่มีเงินเก็บ บางคนถึงขั้นไปกู้หนี้ ยืมสินมากันถ้วนหน้า ทุกอย่างเลยต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดี
🌟🌟เพราะฉะนั้น จึงอาจจะสรุปได้ว่า การที่คุณจะทำธุรกิจหรือเป็นผู้ประกอบการ คุณจำเป็นที่จะต้อง “คิดให้ละเอียด”
แต่การจะเป็นคนคิดให้ละเอียดนั้น คุณก็ต้องหาข้อมูลให้เป็นซึ่งมีอยู่ดังนี้
✅✅ศึกษาข้อมูล : ว่าธุรกิจของเราจะสามารถขับเคลื่อนไปได้ไหมในเศรษฐกิจแบบนี้ โดยบางครั้งคุณก็ต้องเอาตัวเองไปเดินเซอร์เวย์ดู คุณอาจจะเอะใจ!! ว่าทำไหมลูกค้าไม่เดิน ร้านค้าดูเงียบ เป็นเพราะอะไรกัน…
✅✅หาข้อมูล : เมื่อคุณเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ คุณก็ต้องหาข้อมูล ที่ร้านออฟไลน์เงียบเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี หรือ คนเปลี่ยนมาซื้อขายในช่องทางออนไลน์แทนรึเปล่า❓❓ โดยคุณก็สามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากอินเทอร์เน็ต
✅✅วิเคราะห์ข้อมูล : เมื่อคุณรู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร คุณก็ต้องมาวิเคราะห์แล้วว่า เมื่อคนส่วนใหญ่หันมาเปลี่ยนช่องทางการซื้อขาย คุณจะต้องมาโฟกัสตรงจุดไหน แพลตฟอร์มไหนขายดี สินค้าอะไรที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้คนหมู่มากได้บ้าง และไอเดียของคุณก็จะมาเอง
💡💡ดังนั้น เวลาคุณอยากจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างคุณควร “คิดให้ละเอียด” ทำอะไรแต่พอดี มากกว่าที่คุณจะมานั่งมัวแต่ “คิดมาก” ในเรื่องที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ และสุดท้ายคุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที และที่สำคัญคุณก็อย่า “คิดน้อยมากจนเกินไป” เพราะนอกจากจะผิดพลาดได้แล้วคุณก็จะเสียเงินของคุณไปโดยที่เงินของคุณไม่ย้อนกลับมา…
💚💚เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เมื่อคุณอ่านมาถึงตอนนี้ คุณรู้สึกว่าคุณคิดน้อยเกินไปหรือเปล่า❓❓ และคิดมากไปหรือไม่❓❓เพราะที่จริงแล้วการทำธุรกิจไม่ได้เป็นสิ่งที่ยาก และก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่าย จนคุณไม่สามารถทำได้ เพียงแค่คุณต้องมีสติและ “คิดให้ละเอียด” มากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วคุณคิดว่าสิ่งที่ผมพูดจริงหรือไม่สามารถคอมเมนต์ตามด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ☺️
👇👇
==============
วรัทภพ รชตนามวงษ์
คิดละเอียด vs คิดมาก แบบไหนจึงจะ ประสบความสำเร็จ และรวย เร็ว💵👍
💡💡เมื่อคุณมีไอเดียอยากทำธุรกิจ และตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างนึง
คุณใช้เวลาคิดนานแค่ไหน หรือว่า คุณไม่คิดเลยแล้วลงมือทำทันที‼️
👉คุณอาจเคยได้ยินว่า การทำธุรกิจหรือเป็นผู้ประกอบการ SME อะไรสักอย่างนึง คุณต้องไม่เป็นคนที่คิดมาก เพราะถ้าหากคุณคิดมาก “คุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที” 😭
บางคนถึงขั้น คิดแค่ว่า “อยากจะทำ”
ก็ทำเลย ซึ่งผมอยากจะบอกว่าสิ่งนี้คือ “คุณไม่ได้คิดมาก แต่ คุณคิดน้อยเกินไป” เพราะคนที่คิดน้อยเกินไป แล้วอยากทำธุรกิจอะไรสักอย่าง มักจะไม่ดูรอบข้าง ไม่ดูกลุ่มลูกค้า กระแส เศรษฐกิจการเมืองหรือตลาดต่างประเทศแต่อย่างใด ซึ่งการที่คิดแล้วทำเลยแบบนี้อาจทำให้ธุรกิจของคุณผิดพลาดได้ง่ายจนไปถึงขั้นที่ธุรกิจของคุณอาจจะเจ๊งและขาดทุนย่อยยับเลยก็เป็นได้…😰
👉และถ้าหากคุณดันคิดมากเกินไปหลังจากที่คุณคิดน้อยเกินไปล่ะ คุณก็ต้องมาดูว่าปัจจัยหลักในการทำธุรกิจและสิ่งต่าง ๆ รอบข้างมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการตลาด กลุ่มเป้าหมาย กระแส เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถเรียนรู้และหาข้อมูลได้อย่างตายตัว เช่น เรื่องเศรษฐกิจ
✌️ซึ่งคุณไม่มีทางสามารถวิเคราะห์ให้อยู่ในระดับเดียวกันได้ตลอด เพราะเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะขึ้นหรือดีได้ตลอด ทุกอย่างมันมีขึ้นมีลงกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหากคุณหมกมุ่นกับสิ่งเหล่านี้มากเกินไปคุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที
แต่‼️ก็ยังดีกว่าคนคิดน้อยเกินไปตรงที่ “คุณไม่กล้าลงมือทำก็เท่ากับคุณไม่เสียเงิน” เพราะคนคิดน้อยนอกจากจะเสียเงินแล้วยังไม่มีเงินเก็บ บางคนถึงขั้นไปกู้หนี้ ยืมสินมากันถ้วนหน้า ทุกอย่างเลยต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดี
🌟🌟เพราะฉะนั้น จึงอาจจะสรุปได้ว่า การที่คุณจะทำธุรกิจหรือเป็นผู้ประกอบการ คุณจำเป็นที่จะต้อง “คิดให้ละเอียด”
แต่การจะเป็นคนคิดให้ละเอียดนั้น คุณก็ต้องหาข้อมูลให้เป็นซึ่งมีอยู่ดังนี้
✅✅ศึกษาข้อมูล : ว่าธุรกิจของเราจะสามารถขับเคลื่อนไปได้ไหมในเศรษฐกิจแบบนี้ โดยบางครั้งคุณก็ต้องเอาตัวเองไปเดินเซอร์เวย์ดู คุณอาจจะเอะใจ!! ว่าทำไหมลูกค้าไม่เดิน ร้านค้าดูเงียบ เป็นเพราะอะไรกัน…
✅✅หาข้อมูล : เมื่อคุณเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ คุณก็ต้องหาข้อมูล ที่ร้านออฟไลน์เงียบเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี หรือ คนเปลี่ยนมาซื้อขายในช่องทางออนไลน์แทนรึเปล่า❓❓ โดยคุณก็สามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากอินเทอร์เน็ต
✅✅วิเคราะห์ข้อมูล : เมื่อคุณรู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร คุณก็ต้องมาวิเคราะห์แล้วว่า เมื่อคนส่วนใหญ่หันมาเปลี่ยนช่องทางการซื้อขาย คุณจะต้องมาโฟกัสตรงจุดไหน แพลตฟอร์มไหนขายดี สินค้าอะไรที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้คนหมู่มากได้บ้าง และไอเดียของคุณก็จะมาเอง
💡💡ดังนั้น เวลาคุณอยากจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างคุณควร “คิดให้ละเอียด” ทำอะไรแต่พอดี มากกว่าที่คุณจะมานั่งมัวแต่ “คิดมาก” ในเรื่องที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ และสุดท้ายคุณก็ไม่ได้ลงมือทำสักที และที่สำคัญคุณก็อย่า “คิดน้อยมากจนเกินไป” เพราะนอกจากจะผิดพลาดได้แล้วคุณก็จะเสียเงินของคุณไปโดยที่เงินของคุณไม่ย้อนกลับมา…
💚💚เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เมื่อคุณอ่านมาถึงตอนนี้ คุณรู้สึกว่าคุณคิดน้อยเกินไปหรือเปล่า❓❓ และคิดมากไปหรือไม่❓❓เพราะที่จริงแล้วการทำธุรกิจไม่ได้เป็นสิ่งที่ยาก และก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่าย จนคุณไม่สามารถทำได้ เพียงแค่คุณต้องมีสติและ “คิดให้ละเอียด” มากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วคุณคิดว่าสิ่งที่ผมพูดจริงหรือไม่สามารถคอมเมนต์ตามด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ☺️
👇👇
==============
วรัทภพ รชตนามวงษ์