ถูกเอาเปรียบจากสามีตัวเองหรือไม่?

อยากสอบถามเรื่องสามีภรรยา เขาแต่งงานอยู่กินกันมา30ปี ฝ่ายภรรยาเป็นญาติของดิฉันค่ะ พวกเขามีลูก1คน และหลานอีก2คนก็คือลูกของลูก ต่อมาสามีไปมีเมียน้อย แล้วมาขอแบ่งสินสมรสและประกาศขายบ้าน ที่มีเมีย ลูก และ

ขอคำปรึกษา เราแต่งงานกับสามีมา20ปี สามีทำธุรกิจปัจจุบันรายรับน้อยกว่ารายจ่าย ช่วงปลายกพ.2568 เราพบสามีมีหนี้บัตรเครดิต5-6แสนบาท ใช้เงินกองกลางไปปิดบัตรหมดแล้ว พอมาวันที่16พค.2568(ผ่านมา2เดือนครึ่ง) พบ

แล้วเจียดเศษเงินให้เขาใช้ ทั้งที่เขาเป็นคนทำงาน รู้สึกว่าเอาเปรียบกันเกินไป พอยึดเงินเขาไว้ก็ข่มเขางี้ คุยโตโอ้อวดว่าผัวให้เงินเดือนทั้งหมดกับตัวเอง ผู้หญิงที่มีสิทธิ์มากกว่าอย่างคนเป็นแม่เขายังไม่ทำ

ผ่อนบ้านให้แม่สามี

เรามีแฟน คบกันคุยกันแล้วก้อไปอยู่ด้วยกันแบบผัวเมียใช้ชีวิตประจำวันด้วยกัน แต่แฟนเรามีแฟนเก่าที่ก้อนานนานๆจะติดต่อกันสักที พอแฟนเก่ารู้ว่าผู้ชายพาเรามาอยู่กินด้วยก้อเกิดอาการเหมือนจะหึงหวงแล้วก้อพยายาม

ดิฉันแต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่กินกับอดีตสามีและมีลูกสองคน และมาซื้อบ้านต่อญาติสามีแต่ไม่ได้เป็นชื่อใครเพราะเป็นที่ราชพัสดุแต่สามารถใช้สิทธิ์แทนกันได้และสามีก็คือเจ้าบ้านแต่ดิฉันก็ยังอยู่ในทะเบียนพ่อแม่

เราแต่งงานแล้วค่ะ มีลูก1คน รายรับของเราทั้งคู่ แยกกันเก็บ และจ่าย ไม่มีเงินกองกลาง มีภาระผ่อนบ้าน3ล้าน เงินผ่อนบ้าน จะได้มาจากการทำธุรกิจ โดยเงินลงทุนธุรกิจมาจากเรา (ภรรยา) แต่สามีเป็นคนบริหาร ลงสมอง

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เรากำลังจะเลิกกับสามีสาเหตุมาจาก ไม่มีเงินเก็บสามีไม่มีความสุข บอกว่าอยากทิ้งเราค่ะ เรายอมเขาเลย เพราะคุยกันมานาน6 ปีแล้วเรื่องนี้ เรา ไม่มีลูกด้วยกัน มีแค่ทะเบียนสมรส ที่เป็นบ่

เราอยากแชร์ประสบการณ์ อยู่กินกับสามีมา11ปีไม่ได้จดทะเบียนสมรส ด้วยความไว้ใจ ต่แพ้ผู้หญิงใน ตต ผู้หญิงรู้ว่ามีเมียแต่ตั้งใจจะเอาให้ได้ แอบมาหากันได้เสียกันตอนที่เราไม่อยู่ แอบคบกันได้3เดือน เราจับได้แอ

สามีภริยาไม่จดทะเบียนสมรส ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน ถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในฐานะ หุ้นส่วนสามัญแบบไม่จดทะเบียน มีเลขทึ่ผู้เสียภาษีในระบบของสรรพากร และขอยื่นแบบขอเสียภาษีเงินได้ เหมือนกับบุคคลธรรมดา