[CR] แชร์ Skincare Routine ลดฝ้า ลดรอยหมองคล้ำที่ใช้แล้วได้ผล

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์จากสกินแคร์ที่ตัวเองใช้อยู่ช่วงกักตัวอยู่บ้าน เพราะคลินิกที่ไหนก็ปิดหมด ไปหาหมอไม่ได้ 555 เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ต้องเจอหลายๆ ปัญหาผิวเหมือนเราในช่วงนี้ ลองไปดูกันค่ะว่ามีตัวไหนเด็ด ตัวไหนน่าโดนบ้าง
 
ขอเกริ่นก่อนว่าปัญหาที่เราเจอส่วนใหญ่คือ สิว ฝ้า และผิวหมองคล้ำค่ะ ซึ่งค่อนข้างเป็นมานานพอสมควร ประกอบกับที่ไม่ค่อยได้ดูแลผิวเท่าไหร่ เน้นแต่งหน้าปกปิดเอา 555 (ซึ่งมันไม่ดีนะคะ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ) จนมาช่วงนี้ที่ต้อง WFH เห็นหน้าสดตัวเองทุกวัน ก็เริ่มคิดแล้วว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะเอาจริงๆ เหนื่อยกับการแต่งหน้าค่ะ 555 วันละครึ่ง ชม. ก็คือไม่ไหว อยากหน้าใสๆ เวลาออกจากบ้าน แบบแค่แต่งหน้านิดๆ หน่อยๆ พอ เลยเริ่มมองหาสกินแคร์ที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวที่เรามีอยู่อย่างจริงจังค่ะ
 
มาดูสภาพผิวเรากันก่อนนะคะ จะเห็นว่าเรามีสิวกระจายอยู่ทั่วใบหน้าค่ะ แถมมีรอยสิวอีก T T ส่วนที่แก้มจะมีฝ้าอยู่พอสมควร ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ ดูหมองคล้ำมาก บอกตรงๆ เครียดมากค่ะ




หลังจากที่หาข้อมูล รีวิวต่างๆ จากกูเกิ้ลแล้ว ว่าใครใช้ตัวไหนแล้วดี ตัวไหนน่าใช้ เราก็ไม่รอช้าค่ะ กวาดมาลองหมด 555 เรียกได้ว่าสกินแคร์ลดสิว ลดฝ้า หน้าใส คือลองมาเยอะมาก ล้มลุกคลุกคลานมาพอสมควร จนมาตกหลุมรักกับอเวนเจอร์กลุ่มนี้ ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวเราได้ดีมาก และเห็นผลที่โอเคสุด (แอบกระซิบว่าของที่ลองใช้มา Texture ที่เวิร์กกับผิวหน้าเราจะเป็นน้ำหรือครีมนะคะ เราไม่ค่อยถูกกับพวกออยล์เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าใช้แล้วอุดตันค่ะ ยิ่งใช้สิวยิ่งเพิ่ม)

และนี่ก็หน้าหน้าตาของแต่ละตัว เราขอเรียงตามลำดับการใช้เลยนะคะ
 
STEP 1: Thayers Witch Hazel สูตร Lemon (690.-)
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ตัวดัง เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาตัวนี้บ้างแล้วละ ตัวนี้เราใช้มาตลอดเลย ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ต้องใช้ตัวนี้เช็ดหน้าทุกวันค่ะ เช้า-ก่อนนอน เพราะเราเชื่อว่าหน้าที่สะอาดจะช่วยทำให้เราไม่มีปัญหาผิวตามมาในอนาคตค่ะ
 
เนื้อของเค้าจะเป็นน้ำใสๆ วิธีการใช้เราจะเทใส่สำลี และเช็ดหน้าทุกครั้งหลังล้างหน้าเสร็จ เพื่อให้มั่นใจว่าผิวหน้าของเราสะอาดแล้วจริงๆ ก่อนลงสกินแคร์ตัวต่อๆ ไป แต่ก่อนเราใช้สูตร Rose Petal ค่ะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาลองเป็นสูตร Lemon แทน เพราะอยากให้หน้ากระจ่างใส และลดริ้วรอยต่างๆ ค่ะ
 
STEP 2: SoS Hyaluron Concentrate Serum X3 (770.-)
เซรั่มยืนหนึ่งเรื่องคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยความที่เรามีปัญหาสิว เลยเลือกใช้เจลล้างหน้าที่ลดความมันบนใบหน้าค่ะ แต่พอให้แล้วนางลดมากไปหน่อย 555 ผิวแห้งค่ะ ตัวนี้คือตอบโจทย์คนผิวแห้ง
 
เนื้อของเค้าเป็นเซรั่มค่ะ เหมือนน้ำใสๆ ทาแล้วใช้เวลานวดบนหน้านิดนึงแล้วจะซึมลงไปในผิวเลย ไม่ทิ้งความมันหรือความลื่นไว้บนใบหน้านะคะ สำหรับเราคือชอบมาก หลังจากใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดูชุ่มน้ำขึ้น ตื่นมาแล้วผิวดูวาวเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 ลิตรมาตลอดชีวิต 555 ผิวอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ใช้แล้วหน้าไม่แห้งหรือลอกเป็นขุยเหมือนแต่ก่อนค่ะ
 
STEP 3: SoS Hyaluron & Ceramide X3 (490.-)
ตัวนี้เป็นตัวบำรุงหน้านะคะ ให้ผิวแข็งแรง เนื้อของเค้าเป็นเจลค่ะ เกลี่ยง่ายระดับปานกลาง ซึมเข้าผิวได้โอเคอยู่ ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้านะ เค้าจะช่วยทำให้ผิวของเราลดอาการแพ้ต่างๆ ช่วยลดการอักเสบของสิวด้วย ช่วงไหนที่เป็นสิวเยอะๆ หรือรู้สึกว่าสิวกำลังจะขึ้นคือทาตัวนี้เน้นๆ เลยค่ะ ลดการอักเสบได้ดี และช่วงให้ผิวดูสว่างขึ้นด้วย เลิฟมาก
 
STEP 4: Melamii Anti-Melasma Cream (229.-)
ด้วยความที่นอกจากสิวแล้ว เรามีปัญหาฝ้าด้วยตรงบริเวณโหนกแก้มกระจายอยู่หลายจุด ตัวนี้เป็นครีมทาฝ้าที่เราเลิฟมากๆ ตัวนึง ใช้ได้ทั้งฝ้า กระ หรือจุดด่างดำนะคะ ตอนแรกที่ตัดสินใจลองซื้อตัวนี้มาใช้ เพราะในหลายๆ รีวิวบอกไว้ว่าช่วยทำให้ฝ้าจางลงได้ภายในอาทิตย์เดียว เราก็เลยลองสิคะ รอไร! 5555 พอเอามาใช้จริงแล้วคือดีเลยค่ะ ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดีในเรื่องของการลดฝ้า ภายในอาทิตย์แรกที่ใช้รู้สึกว่าฝ้าเริ่มจางลงค่อนข้างชัดมากค่ะ ที่ชัดเจนมากคือผิวใสเนียนขึ้นค่ะ
 
เนื้อของเค้าจะเป็นครีม ทาแล้วไม่ทิ้งความมันไว้บนหน้าเลย มี SPF20 ด้วย แต่งหน้าทับได้สบาย ไม่เป็นคราบ แต่แนะนำให้ทาบางๆ พอนะคะ ส่วนก่อนนอนก็โบกลงไปตามที่ต้องการเลยค่ะ เน้นตรงฝ้าหน่อย 
 
STEP 5: Puricas Advanced Formula Anti-Acne Gel (250.-)
จัดการฝ้าไปแล้ว มาจัดการสิวกันต่อค่ะ จะบอกว่าตัวนี้เป็นเจลแต้มสิวที่เราใช้มานานมาก ยิ่งตอนนี้คือขาดไม่ได้ เพราะจะออกไปไหนมาไหนก็ต้องใส่แมสก์ตลอดเวลา ทำให้สิวขึ้นง่ายกว่าเดิม ยิ่งเราชอบมีสิวอักเสบกับอุดตันขึ้นบ่อย ตัวดีช่วยได้ดีมาก เราใช้ทาทุกวันตรงที่เป็นสิวนะคะ เนื้อดี เกลี่ยง่ายชอบตรงที่ทาแล้วไม่แสบผิว ผิวตรงบริเวณสิวไม่ลอก สิวยุบไวดีค่ะ และหลังจากสิวยุบแล้วไม่ค่อยทิ้งรอยไว้ให้ช้ำใจเท่าไหร่ 555
 
STEP 6: Eucerin Sun Dry Oil Control SPF50+ PA+++ (1,400.-)
ปิดท้ายด้วยกันแดดที่เลิฟสุดๆ ไม่สามารถนอกใจได้เลยจริงๆ กันแดดได้ดีเยี่ยม ส่วนมากเราจะใช้ในวันที่แดดแรงจริงๆ คือปกป้องผิวจากแดดได้ดีมาก ตัวนี้ไม่ต้องพูดเยอะ ใช้แล้วหน้าไม่มัน ไม่เมือก ไม่เหนียว ซึมลงผิวไว จบๆ ค่ะ ย้ำว่ากันแดดสำคัญมากๆ นะคะ อยู่บ้านก็ควรทาเหมือนกัน


ผลลัพธ์หลังจากใช้เซทนี้มาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ จะบอกว่าหน้าดีขึ้นมากๆ ค่ะ เริ่มจากสิวขึ้นน้อยลง รอยสิวหายดีมากขึ้น ตอนนี้แทบจะไม่ค่อยมีสิวให้เห็นแล้ว แต่จริงๆ เราก็มีสิวมาเรื่อยๆ นะ 555 ยิ่งตอนนี้ต้องอยู่ในแมสก์คือทำใจไว้แล้ว แต่ก็พยายามดูแลต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนฝ้าจางลงไปเยอะพอสมควร จากที่เคยมีค่อนข้างชัดตรงบริเวณโหนกแก้ม สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกันมากขึ้นค่ะ และผิวดูชุ่มชื้นขึ้นด้วย
 
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เลยอยากมาแชร์ไว้ให้ทุกคนได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบชัดๆ และดีใจมากที่เราเองสามารถกู้หน้าพังมาได้ขนาดนี้ เห็นตัวเองในกระจกละแฮปปี้สุดๆ ตอนนี้ก็แต่งหน้าเบาๆ บอกลาคอนซีลเลอร์ไปแล้วล่าสุดดดดด
ชื่อสินค้า:   Melamii , Sos , Thayers , puricas , Eucerin
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่