รีวิวขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา Aug 2021

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าของเราและครอบครัว
ยาวมากๆเลยแต่เผื่อจะมีประโยชน์กะเพื่อนๆบ้างนะคะ ยิ้ม
 
เราขอไม่ลงรายละเอียดเรื่องวิธีการกรอก DS-160 นะคะ เพราะมีกระทู้อื่นที่เขียนอธิบายไว้ละเอียดมากๆแล้วค่ะ
(ส่วนตัวเราศึกษาการกรอก DS-160 จากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/39639272 ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆค่ะ)
 
เราสมัครพร้อมครอบครัวทั้งหมด 4 คนนะคะ มีเรา พ่อ แม่ และน้องค่ะ
(น้องทำงานประจำอายุ 31 พ่อแม่เกษียณแล้วทั้งคู่ค่ะ)
เราขอแชร์ Profile เราคร่าวๆก่อนนะคะ 
- อายุ 33
- โสด
- เคยได้ US VISA J1 และ B1/2 อย่างละรอบ, เชงเก้น 4 รอบ, อังกฤษ 2 รอบ
- เคยไปเยอรมัน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี
- เพิ่งจดทะเบียนบริษัทกับเพื่อนครบ 1 ปี ณ วันสัมภาษณ์
- ก่อนเปิดบริษัทมีช่วง Gap ว่างงาน 10 เดือน (เราใช้เวลาช่วงนั้นเตรียมการตั้งบริษัทค่ะ)
 
ซึ่งเรื่องงานนี่ทำให้เรากังวลมากๆค่ะ เพราะกลัวจะดูการงานไม่มั่นคง
เราเลยพยายามเขียนอธิบายงานของเราใน DS-160 ให้ละเอียดมากๆ
ไม่ได้เล่าแค่ว่าเราทำอะไรในบริษัทแต่เราเขียนเริ่มต้นที่ Passion ที่เรามี ซึ่งมันทำให้เราตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมาตั้งบริษัทนี้
แล้วค่อยบอกว่าบริษัทเรา offer services อะไรบ้าง มีใครเป็นลูกค้าบ้าง แล้วค่อยมาเขียนหน้าที่ของเราในบริษัทแบบเป็น bullet points ค่ะ
(ตรงนี้ไม่ได้มีรูปแบบตายตัวนะคะ เราเลือกเขียนแบบนี้เพื่อให้เห็นว่าถึงจะเพิ่งเปิดแต่เราจริงจังกะงานนี้นะ)
 
เราจ่ายค่าสมัครไปเมื่อปลายเดือนพฤษภา เข้าไปเช็คคิวในระบบทุกวัน วันละหลายรอบประมาณ 2-3 อาทิตย์ถึงได้คิวมา ซึ่งได้คิวต้นเดือนสิงหาค่ะ 
 
>> เอกสารที่เตรียมไปวันสัมภาษณ์ <<
- ใบ Confirmation ของ DS-160
- ใบ Appointment confirmation
- พาสปอร์ตทุกเล่มที่มี (แยกเล่มเก่ากะเล่มปัจจุบันไว้นะคะ ปกติใช้แต่เล่มปัจจุบัน จะมียื่นเล่มเก่าเฉพาะเมื่อจนท.ถามถึงค่ะ)
- แผนการเดินทางตามจำนวนวันที่ระบุใน DS-160
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของเรา น้องชาย และก็ของบริษัทเรา (ทั้งหมดเราขอ online นะคะ / ของพ่อแม่เราไม่ได้เตรียมไปเพราะระบุไปว่าเรากะน้องจะเป็นคน sponsor ให้ค่ะ)
 
เอกสารเพิ่มเติมของเรา (ทั้งหมดไม่ได้แปลค่ะ)
- หนังสือจดทะเบียนบริษัท
- หนังสือรับรองบริษัท (ที่มีชื่อเราเป็นกรรมการบริษัท)
- รายการชำระภาษีของบริษัทย้อนหลังทั้งหมด
- ตัวอย่างผลงาน
- ใบจองคิวทำพาสปอร์ตใหม่ เพราะใกล้หมดอายุ (เดี๋ยวอธิบายต่อด้านล่างค่ะ)
 
และเพิ่มเติมของน้องเรา เนื่องจากน้องเพิ่งเริ่มงานใหม่ได้ 2 วัน ขอหนังสือรับรองการทำงานไม่ทัน ก็เลยเตรียมเป็นสัญญาการจ้างงานแทนค่ะ
 
>>วันสัมภาษณ์<<
เราไปถึงสถานทูตล่วงหน้าประมาณ 20 นาทีค่ะ
ด้านหน้าสถานทูตแทบไม่มีคิวเลยค่ะ (ช่วงโควิด เค้าเปิดรับคิวต่อวันน้อยมากๆ)
จนท.จะเช็คชื่อ เวลานัด และขอพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันของทุกคน 
แล้วจนท.จะติดใบปะหน้า EMS มาที่หลังพาสปอร์ตของแต่ละคนเลย
ตรงนี้ถ่ายใบปะหน้าของทุกคนเก็บไว้นะคะ จะได้เอาTracking numberไว้เช็คสถานะตอนรอพาสปอร์ตค่ะ
 
จากนั้นเค้าจะให้เข้าไปscan กระเป๋า และฝากโทรศัพท์โดยใช้บัตรประชาชนค่ะ 
เค้าห้ามนำอุปกรณ์ electronic ทุกชนิดรวมถึง power bank เข้านะคะ น้ำและอาหารทุกอย่างก็ห้ามเอาเข้าค่ะ (ด้านในเราเห็นมีขายเครื่องดื่มนะคะ)
ถุงผ้าใส่เอกสาร กระเป๋าใบเล็กให้เอาเข้าได้ค่ะ
แล้วก็เดินตามเส้นสีแดงเข้าไปด้านในเลยค่ะสำหรับวีซ่าท่องเที่ยว 
เข้าใจว่าปกติพอเข้าไปแล้วจะต้องนั่งรอก่อนตรงโซนที่เป็น open air แล้วเค้าจะประกาศเรียกเป็นรอบๆตามเวลานัดอีกที 
แต่ช่วงโควิดนี่ไม่ต้องนั่งรอประกาศค่ะ สามารถเดินต่อเข้าไปในโซนที่เป็นห้องแอร์ตามเส้นสีแดงได้เลย
 
ตอนเราไปข้างในมีคนอยู่ 4-5 คิวค่ะ
แต่เราเนื่องจากรูปที่เรามีผมบังหูไว้ รูปพ่อแม่ก็เก่ามากๆ 5555 ไม่ผ่านแน่นอน
(เราตั้งใจมาถ่ายใหม่ที่นี่อยู่แล้ว เพราะไม่อยากออกไปไหนเลยช่วงนี้ คิดว่ามาแล้วก็ถ่ายทีเดียวไปเลย)
เข้าไปแล้วเราเลยเลี้ยวไปถ่ายรูปที่ตู้ก่อนค่ะ คนละ 150 บาท (เครื่องไม่ทอนตังค์นะคะ)
เมื่อเดินเข้าไปแล้วตู้ถ่ายรูปจะอยู่ทางขวามือนะคะ ที่ตู้จะมีรายละเอียดทุกอย่างแปะไว้แล้ว ใช้ง่ายมากๆค่ะ
และถ้ามีปัญหาอะไรให้ใช้โทรศัพท์ในตู้โทรตามเบอร์ที่แปะไว้เลยค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยอีกที
 
แล้วเราค่อยเดินกลับมาหาจนท.คนไทยตามเส้นสีแดงอีกทีค่ะ
ซึ่งกว่าจะถ่ายเสร็จก็ไม่มีคิวเหลือละค่ะ ทั้งห้องเหลือแค่ครอบครัวเรา
จนท.จะขอพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันของทุกคน ขอรูปถ่าย และสอบถามข้อมูลเบื้องต้น เช่น จะไปทำอะไร ไปกี่วัน 
เรากะพ่อเคยได้วีซ่าอเมริกาแล้วในพาสปอร์ตเล่มเก่า จนท.ก็จะขอดูวีซ่าเก่านะคะ 
วีซ่าที่เราเคยได้ล่าสุดคือ J1 เค้าก็มีถามว่าไปอะไร เราก็ตอบตามความจริงคือไป Work & Travel ค่ะ 
จากนั้นก็จะให้สแกนนิ้วทั้ง 10 นิ้วทีละคน
ตรงนี้ถ้าคุณพ่อคุณแม่ใครอายุเยอะแล้ว ลายนิ้วมือไม่ค่อยมี แนะนำให้พก hand cream ไปเผื่อนะคะ 
 
เสร็จปุ๊ปก็เดินตามเส้นสีแดงต่อ ไปเจอของจริงค่ะ
วันที่ไปมีจนท.กงศุลเปิด 2 ช่องนะคะ เป็นผู้ชายทั้งคู่ เราได้สัมภาษณ์กับคนที่หนุ่มๆหน่อยค่ะ
โดยสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
 
จนท.: สวัสดีครับ ขอพาสปอร์ตครับ
เรา: นี่ค่ะ (ส่งพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันของทุกคนให้) 
จนท.: ขอสแกนนิ้วข้างซ้ายอีกรอบนะครับ 
แล้วก็ขอสแกนของทุกคน แต่ของพ่อแม่เราสแกนยังไงก็ไม่ผ่าน ต้องสแกนใหม่หมดทั้ง 10 นิ้วค่ะ 
จนท.: จะไปทำอะไรกันครับ
เรา: ท่องเที่ยวค่ะ 
น้องเรา: พอดีอยากไปเที่ยวช่วงวันหยุดครับ
จนท.: ไปกันกี่วันครับ
เรา: สองอาทิตย์ค่ะ
จนท.: ไปช่วงไหนครับ
เรา: ประมาณเดือนตุลาค่ะ
จนท.: คุณทำงานอะไรครับ
เรา: เจ้าของบริษัททำโฆษณากะเพื่อนค่ะ ทำพวกโฆษณาทีวี และ Digital ค่ะ (ตื่นเต้นเลยตอบสั้นมากค่ะ)
จนท.: แล้วคุณละครับ (หันไปถามน้องเรา)
น้องเรา: (อธิบายงานให้ฟังคร่าวๆ)
จนท.: แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะครับ
เรา: เกษียณแล้วทั้งคู่ค่ะ
จนท.: ช่วง 5 ปีนี้มีไปเที่ยวไหนกันมาบ้างครับ
เรากะน้องช่วยกันตอบ: มีไปเยอรมัน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน แล้วก็สิงคโปร์ด้วยกันมาค่ะ/ครับ
จนท.: โอเคครับ (แล้วก็หันกลับไปพิมพ์หน้าคอมอยู่พักใหญ่ๆ)
จนท.: โอเค ทุกอย่างดูโอเค วีซ่าของคุณได้รับการอนุมัติแล้วครับ ประมาณ 5-7 จะจัดส่งวีซ่าไปให้ครับ
เรา กะน้อง: ขอบคุณค่ะ / ขอบคุณครับ 
 
เท่านี้เลยค่ะ ไม่ได้มีการขอดูเอกสารอะไรเลย เราเองก็ไม่ได้เสนอด้วย ลืมหมด 5555 
วันนี้ (หลังสัมภาษณ์ 2 วัน) ได้รับพาสปอร์ตคืนละค่ะ ได้ 10 ปีทุกคนค่ะ
 
เราว่าเราค่อนข้างโชคดีเพราะขอเป็นครอบครัว และอีกอย่างคือเราตั้งใจเขียนมากๆใน DS-160 ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่จนท.อ่านตอนสัมภาษณ์นะคะ
  
มาถึงตรงนี้เราขอแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดถึงข้อสงสัย-คำถามที่เรามีตอนช่วงเตรียมนะคะ
 
- สามารถกรอก DS-160 ใหม่ได้ถึงจะจ่ายเงิน และจองคิวไปแล้ว
โดยจะต้องนำเลข DS-160 ใหม่ไปอัพเดตในระบบที่จองคิวนะคะ กดตรง update profile
แต่!!! ถ้าสมัครเป็นครอบครัวแบบเราจะสามารถ update เลข DS-160 ในระบบได้แค่ของเราคนเดียว 
ของครอบครัวคนอื่นๆจะต้องเมลล์ไปแจ้งทางสถานทูตที่ support-thailand@ustraveldocs.com 
โดยเราเขียนวันที่สัมภาษณ์ไปด้วยที่ subject เพื่อให้จนท.ช่วยเร่งจัดการให้ทันค่ะ 
ในอีเมลล์เราระบุ ชื่อ เลขพาสปอร์ต, เลข DS-160 เก่า/ใหม่ 
และ attach หน้าพาสปอร์ต, ใบ confirmation DS-160 ทั้งเก่าและใหม่ (อันนี้แนะนำ ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์ให้ชัดเจนว่าอันไหนเก่า/ ใหม่ และเป็นของใคร) 
ของเราจนท.ใช้เวลา 3 วันในการอัพเดตข้อมูลในระบบให้ค่ะ
****ทั้งหมดจะต้องทำให้เสร็จก่อนวันสัมภาษณ์ 3 วันนะคะ****
 
- การจองคิวเป็นครอบครัว 4 คนอย่างเรามีข้อดีค่ะเพราะน่าจะผ่านง่ายกว่า แต่ช่วงนี้ก็จะหาคิวยากมากๆ
เพราะระบบนับเป็น 4 คิวนะคะ คือ จะต้องมีคิวว่าง 4 คิวในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้นระบบถึงจะโชว์ให้จองได้ค่ะ
อาจจะต้อง weight ดูว่าถ้าแยกกันสัมภาษณ์ profile เราจะดีพอมั้ย (ซึ่งก็ไม่มีใครทราบเกณฑ์การตัดสินที่แท้จริงค่ะ)
 
- รูปที่อัพโหลดในระบบไม่จำเป็นต้องเป็นรูปเดียวกะที่ใช้จริงวันสัมภาษณ์ค่ะ 
สามารถใช้รูปเท่าที่มีไปก่อน ลอง upload เข้าระบบดูก่อน (กฎบางข้อระบบจะ detect ไม่ได้ เช่น ความเก่า-ใหม่ของรูป หรือเห็นใบหูมั้ย)
ถ้าระบบ approve แล้วเราค่อยไปถ่ายรูปใหม่ให้ถูกต้องตามกฎด้านในได้เลย
 
- เรื่องอายุพาสปอร์ต ที่จริงใน website ของทางสถานทูตระบุว่าจะต้องใช้ "A passport valid for travel to the United States with a validity date at least six months beyond your intended period of stay in the United States."
ซึ่งแปลว่าเราควรมีพาสปอร์ตที่มีอายุเกิน 6 เดือนหลังวันเดินทางกลับที่ตั้งใจไว้
แต่ของเราเนี่ยถ้านับจากวันสัมภาษณ์ พาสปอร์ตจะมีอายุเกิน 6 เดือนมาแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น
และถ้านับจากวันเดินทางพาสปอร์ตจะมีอายุแค่ 4 เดือนค่ะ
ซึ่งที่จริงน่าจะถือว่าผิดกฎแต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่ทำพาสปอร์ตในกทม.ปิดหมดมาเป็นเดือนแล้ว 
เรามีลองโทรไปปรึกษาทางสถานทูต จนท.ที่รับสายก็บอกว่าให้คำตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ Consular Officer จะพิจารณาค่ะ 
เราเลยทำ booking คิวต่ออายุพาสปอร์ตไว้ที่ตจว. ให้เป็นก่อนวันเดินทางเผื่อไว้ กะว่าถ้าถามขึ้นมาก็จะใช้โชว์ให้จนท.ดูค่ะ 
แต่สุดท้ายจนท.ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรนะคะ ซึ่งอันนี้เราก็ว่าเราโชคดีเหมือนกันค่ะ
 
จบแล้วค่ะ และต้องขอโทษด้วยนะคะ เราไม่เคยตั้งกระทู้แบบนี้ เลยเขียนยาวมากๆเลย
แต่อยากแชร์ หวังจริงๆว่าจะมีประโยชน์กะเพื่อนๆนะคะ 
 
ถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรลองถามมาได้นะคะ ถ้าเราพอรู้จะช่วยตอบให้นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่