“เฟอร์นิเจอร์หนัง” ตัวเลือกในการแต่งบ้านที่สมบูรณ์แบบในการเสริมให้บ้านดูเท่อย่างมีระดับ ด้วยเอกลักษณ์ของผิวสัมผัสเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพียงแค่วางโซฟาหนังแท้ไว้ในบ้านสักชุดก็สร้างความโดดเด่นได้แล้ว อีกทั้งงานหนังจะไม่เหมือนวัสดุอื่นๆ หากได้รับการดูแลดี ยิ่งใช้ไปนานๆ ก็จะยิ่งสวย การบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หนังจึงต้องมีความละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดเสื่อมสภาพเร็วก่อนที่จะใช้ได้อย่างคุ้มค่าครับ
1. ไม่วางใกล้พื้นที่ที่มีความชื้นสูง
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์หนังในบ้าน ต้องอยู่ในจุดที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมเพื่อรักษาความชื้นที่พอดี โดยเลือกโซนวางเครื่องหนังในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก สัมผัสแดดอ่อนๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติช่วยขจัดความชื้น หลีกเลี่ยงการวางใกล้หน้าต่างหรือประตูที่มีฝนสาด เพราะจะทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังมีกลิ่นเหม็นอับ และมีความเสี่ยงเรื่องเชื้อราที่เติบโตได้ดีกับวัสดุหนังครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านบทความเกี่ยวกับฉากกั้นห้องเพิ่มเติมได้ที่ ฉากกั้นห้อง ตัวช่วยจัดสรรพื้นที่โดยไม่ต้องก่อผนัง
2. ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์หนังในที่แดดจัด
แสงแดดกับหนังเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกัน แม้ว่าแสงจะจำเป็นในการช่วยลดความชื้นแต่ต้องระวังไม่นำไปตากแดดแรงนานๆ ควรหลีกเลี่ยงการวางติดกับประตูหน้าต่างหรือประตูกระจก แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็แนะนำให้ติดตั้งม่านกันแสงในจุดที่แสงแดดส่องตรงๆ เพราะความร้อนจากแสงจะทำให้หนังแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทำให้สีของหนังเข้มขึ้น และแห้ง แข็งกระด้าง แตกลายได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านบทความเกี่ยวกับของแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ที่ 6 ไอเทมของแต่งบ้าน-แต่งห้องนั่งเล่น สไตล์ธรรมชาติ ‘Living in Nature’
อ่านบทความเกี่ยวกับ Walk in Closet เพิ่มเติมได้ที่ 10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกแบบ Walk in Closet ด้วยตัวเอง
3. หากเกิดคราบ หรือรอยเปื้อนให้เช็ดทันที
โซฟาหนังนั้นทำความสะอาดค่อนข้างง่าย ดพียงแค่เช็ดด้วยผ้าแห้งๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อไม่ให้ฝุ่นจับ โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ หรือจะใช้แปรงทำความสะอาดเครื่องหนังนุ่มๆ ขัดเบาๆ ก็จะช่วยให้หนังไม่สกปรก และไม่ดูโทรม แต่หากเห็นรอยคราบเปื้อนต้องรีบใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดทันที เพื่อไม่ให้คราบฝังแน่นจนทำความสะอาดยาก และข้อควรระวังคือ ไม่ใช้ผ้าที่เปียกจนชุ่มเช็ดทำความสะอาด เพราะจะทำให้หนังดูดความชื้น เหม็นอับ และเป็นรอยด่างน้ำได้ แนะนำว่าควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่มและซับน้ำได้ในการเช็ดทำความสะอาดครับ
4. เพิ่มความชุ่มชื้นเงางามด้วย wax หรือน้ำมันมะพร้าว
การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หนังด้วยน้ำยาต่างๆ หรือสภาพแวดล้อม อาจทำให้น้ำมันที่เคลือบผิวหนังตามธรรมชาติหายไป ทำให้หนังไม่เงางาม แข็งกระด้าง และแตกลาย วิธีการฟื้นฟูและดูแลหนังให้นุ่มและเงาอยู่เสมอจึงทำได้ด้วยการปรับสภาพหนังหลังจากทำความสะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเงา (wax) สำหรับงานหนัง หรือใช้น้ำมันมะพร้าวชุบผ้าแห้งเช็ดให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วจึงเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดอย่างเบามือ วิธีนี้จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป ทำให้หนังกลับมาเงางามและนุ่มขึ้นนั่นเองครับ
5. ไม่วางของหนักทับเฟอร์นิเจอร์หนัง
ไม่ควรนำของที่มีน้ำหนักมากมาวางทับเฟอร์นิเจอร์หนังเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้หนังยุบและคืนรูปได้ยาก ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นก็เช่นกัน ต้องปรับแรงดูดให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้แรงดูดดึงหนังหุ้มโซฟาจนหนังเสียรูปทรง ไม่สวยงามเช่นเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านบทความเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ที่ เสน่ห์ “การแต่งบ้าน NEO DÉCOR” สไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ
เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ หากผ่านการดูแลรักษาอย่างถูกต้องให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด จะยิ่งดูสวยงาม ทรงคุณค่า และยังใช้งานได้ยาวนาน สามารถถ่ายทอดความคลาสสิคจากรุ่นสู่รุ่นได้อีกด้วยครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
เคล็ดลับดูแลเฟอร์นิเจอร์หนังให้ทนทาน!
“เฟอร์นิเจอร์หนัง” ตัวเลือกในการแต่งบ้านที่สมบูรณ์แบบในการเสริมให้บ้านดูเท่อย่างมีระดับ ด้วยเอกลักษณ์ของผิวสัมผัสเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพียงแค่วางโซฟาหนังแท้ไว้ในบ้านสักชุดก็สร้างความโดดเด่นได้แล้ว อีกทั้งงานหนังจะไม่เหมือนวัสดุอื่นๆ หากได้รับการดูแลดี ยิ่งใช้ไปนานๆ ก็จะยิ่งสวย การบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หนังจึงต้องมีความละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดเสื่อมสภาพเร็วก่อนที่จะใช้ได้อย่างคุ้มค่าครับ
1. ไม่วางใกล้พื้นที่ที่มีความชื้นสูง
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์หนังในบ้าน ต้องอยู่ในจุดที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมเพื่อรักษาความชื้นที่พอดี โดยเลือกโซนวางเครื่องหนังในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก สัมผัสแดดอ่อนๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติช่วยขจัดความชื้น หลีกเลี่ยงการวางใกล้หน้าต่างหรือประตูที่มีฝนสาด เพราะจะทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังมีกลิ่นเหม็นอับ และมีความเสี่ยงเรื่องเชื้อราที่เติบโตได้ดีกับวัสดุหนังครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์หนังในที่แดดจัด
แสงแดดกับหนังเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกัน แม้ว่าแสงจะจำเป็นในการช่วยลดความชื้นแต่ต้องระวังไม่นำไปตากแดดแรงนานๆ ควรหลีกเลี่ยงการวางติดกับประตูหน้าต่างหรือประตูกระจก แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็แนะนำให้ติดตั้งม่านกันแสงในจุดที่แสงแดดส่องตรงๆ เพราะความร้อนจากแสงจะทำให้หนังแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทำให้สีของหนังเข้มขึ้น และแห้ง แข็งกระด้าง แตกลายได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. หากเกิดคราบ หรือรอยเปื้อนให้เช็ดทันที
โซฟาหนังนั้นทำความสะอาดค่อนข้างง่าย ดพียงแค่เช็ดด้วยผ้าแห้งๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อไม่ให้ฝุ่นจับ โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ หรือจะใช้แปรงทำความสะอาดเครื่องหนังนุ่มๆ ขัดเบาๆ ก็จะช่วยให้หนังไม่สกปรก และไม่ดูโทรม แต่หากเห็นรอยคราบเปื้อนต้องรีบใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดทันที เพื่อไม่ให้คราบฝังแน่นจนทำความสะอาดยาก และข้อควรระวังคือ ไม่ใช้ผ้าที่เปียกจนชุ่มเช็ดทำความสะอาด เพราะจะทำให้หนังดูดความชื้น เหม็นอับ และเป็นรอยด่างน้ำได้ แนะนำว่าควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่มและซับน้ำได้ในการเช็ดทำความสะอาดครับ
4. เพิ่มความชุ่มชื้นเงางามด้วย wax หรือน้ำมันมะพร้าว
การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หนังด้วยน้ำยาต่างๆ หรือสภาพแวดล้อม อาจทำให้น้ำมันที่เคลือบผิวหนังตามธรรมชาติหายไป ทำให้หนังไม่เงางาม แข็งกระด้าง และแตกลาย วิธีการฟื้นฟูและดูแลหนังให้นุ่มและเงาอยู่เสมอจึงทำได้ด้วยการปรับสภาพหนังหลังจากทำความสะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเงา (wax) สำหรับงานหนัง หรือใช้น้ำมันมะพร้าวชุบผ้าแห้งเช็ดให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วจึงเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดอย่างเบามือ วิธีนี้จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป ทำให้หนังกลับมาเงางามและนุ่มขึ้นนั่นเองครับ
5. ไม่วางของหนักทับเฟอร์นิเจอร์หนัง
ไม่ควรนำของที่มีน้ำหนักมากมาวางทับเฟอร์นิเจอร์หนังเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้หนังยุบและคืนรูปได้ยาก ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นก็เช่นกัน ต้องปรับแรงดูดให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้แรงดูดดึงหนังหุ้มโซฟาจนหนังเสียรูปทรง ไม่สวยงามเช่นเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ หากผ่านการดูแลรักษาอย่างถูกต้องให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด จะยิ่งดูสวยงาม ทรงคุณค่า และยังใช้งานได้ยาวนาน สามารถถ่ายทอดความคลาสสิคจากรุ่นสู่รุ่นได้อีกด้วยครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE