อาจจะยาวไปหน่อยนะครับ
การเลิกบุหรี่ได้นั้นจิตใจต้องเข้มแข็ง ไม่วอกแวกครับ
ก่อนนี้คิดจะเลิกมา 3ครั้งโดยการค่อยๆลดสูบ แต่ไม่สำเร็จครับ ใจไม่เเข็งพอครับ หรือหักดิบงดได้ไม่ถึงอาทิตย์ครับ
วันแรกของจุดเริ่มต้น (วันศุกร์)
เป็นการงดสูบวันที่จะไปฉีดวัคซีนโควิด เพื่อให้ร่างกายพร้อมครับ (คิดเองนะครับ)
พอถึงบ้านบ่ายๆก็สูบไป1 มวล ตกเย็นมีไข้นอนซม
วันที่ 2 (วันเสาร์)
ยังนอนซมถึงเย็นอีกวัน (ไม่ได้สูบเลย)
วันที่3 (วันอาทิตย์)
ยังมึนๆไข้ นอนพักทั้งวัน ตอนเย็นหายเป็นปกติ และมานั่งนึกว่าไม่ได้สูงมา 2-3วัน ลองตั้งใจเลิกดูอีกรอบ (ไม่ได้สูบเลย)
วันที่4 (วันจันทร์วันทำงานปกติ) และวันอื่น
ปกติกิจวัตรประจำวัน ตื่นนอนลงมา เข้าห้องน้ำ ชงกาแฟ แล้วเดินไปสูบบุหรี่ แต่วันนี้ไม่เดินออกไปสูบ และตอนไปทำงานอดใจไม่พกบุหรี่ ไฟเเซกติดตัวเลย และไม่ไปยังจุดที่ประจำที่นั่งสูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีแว๊บที่อยากออกไปสูบเพราะกลิ่นมันเย้ายวย หรือช่วงที่เป็นกิจวัตรเช่น หลังกินข้าว เป็นต้น บางครั้งแอบเปรี้ยวปาก เลยต้องหาลูกอมมาอมเวลาเกิดอาการยากสูบ ช่วยได้ในระดับนึง
เป็นแบบนี้ไปได้ 1อาทิตย์ เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่สังเกตได้
- เดินขึ้นบันได้1รอบจากเคยเหนื่อยหอบ เป็นไม่เหนื่อยหอบ แถมเดินขึ้น ลง 3 -4 รอบ มีแค่เหนื่อยแต่ไม่หอบ
- หายนอนกรน
- หายใจสะดวกขึ้น ดีขึ้น
- กลิ่นตัวหาย ปกติเสื้อใส่นอน เช้ามาจะมีกลิ่นอับๆไม่ใช่กลิ่นเหงื่อ ทั้งๆที่นอนห้องแอร์ ไม่มีติดเสื้อเลย
หลังจาก1อาทิตย์ผ่านไป
การปรับตัวเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของการสูบบุหรี่เริ่มเป็นปกติ เป็นการสร้างกิจวัตรใหม่โดยไม่ใช่เป็นช่วงเวลาของการสูบบุหรี่แต่ก็ยังมีบ้างนิดๆหน่อยๆ สัก10% บางครั้งยังมีจิตใจที่แว๊บอยากไปสูบบุหรี่เข้ามาในสมอง แต่ต้องข่มด้วยจิตใจที่ว่า
"ผลการเปลี่ยนแปลงในชีวิต และสุขภาพที่ดีขึ้น"
ก็สามารถช่วยให้ชนะความอยากไปได้ดีทีเดียว
ช่วงนี้อาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดบ้างนะครับ อะไรก็ขว้างหูขว้างตาไปหมด
หลังจากอาทิตย์ที่ 3
ความรู้สึกเรื่องกลิ่นที่เคยเย้ายวน มันกลับกลายเป็นว่าโคตรเหม็นมากๆ หรือกลิ่นโซยมาก็เหม็น หายใจไม่ค่อยออก จนต้องรีบเดินออกจากจุดนั้นๆ หรือไปอยู่เหนือลม อาการหงุดหงิดมีอยู่บ้าง แต่น้อยลง
ถึงตอนนี้ระยะเวลาเกือบจะ 2 เดือนที่เลิกสูบบุรี่มา แต่ก็ยังมีแว๊บเล็กๆอาทิตย์ละ1-2 ครั้งที่อยากจะสูบ แต่ก็ชนะได้ง่ายๆ
แต่...................มีเสียอยู่บ้างครับ
เคยได้ยินและเห็นอย่างดาราหลายคนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วอ้วนขึ้นนั้น ตอนนั้นในใจว่าไม่เชื่อเท่าไร
ตอนนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆครับ
พอเลิกสูบแล้วกลับกลายเป็นว่าอยากกินของหวานมากขึ้น จากเป็นคนไม่ค่อยชอบของหวานเท่าไร ตอนนี้อยากกินไปหมด
แถมชอบกินจุกจิก ตอนนี้ขึ้นมา5โลกว่าเลยฮือๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้เริ่มควบคุมอาหารแล้วครับ
แล้วมานั่งๆนอนๆคิดดูว่า ประหยัดเงินชื้อบุหรี่วันละ 60 บาท เดือนๆนึงก็ 1800-2000 บาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว
สรุปว่าการที่จะเลิกบุหรี่ อยู่ที่จิตใจล้วน จิตใจต้องเข้มเเข็ง แน่วแน่ มุ่งมั่น มันจะลำบาก หงุดหงิดบ้างในช่วงเวลาสั้นๆ
การเลิกแบบค่อยๆลดนั้น ไม่ได้ผลครับ อย่างไงตั้งหักดิบไปเลยครับ
สุดท้ายนี้ เป็นกำลังใจให้สำหรับใครที่อยากเลิกบุหรี่นะครับ
ปล. ผมสูบมา20กว่าปีครับ
วิธีเลิกบุหรี่ ไม่ง่าย ไม่ยาก มีทั้งดีและเสีย
การเลิกบุหรี่ได้นั้นจิตใจต้องเข้มแข็ง ไม่วอกแวกครับ
ก่อนนี้คิดจะเลิกมา 3ครั้งโดยการค่อยๆลดสูบ แต่ไม่สำเร็จครับ ใจไม่เเข็งพอครับ หรือหักดิบงดได้ไม่ถึงอาทิตย์ครับ
วันแรกของจุดเริ่มต้น (วันศุกร์)
เป็นการงดสูบวันที่จะไปฉีดวัคซีนโควิด เพื่อให้ร่างกายพร้อมครับ (คิดเองนะครับ)
พอถึงบ้านบ่ายๆก็สูบไป1 มวล ตกเย็นมีไข้นอนซม
วันที่ 2 (วันเสาร์)
ยังนอนซมถึงเย็นอีกวัน (ไม่ได้สูบเลย)
วันที่3 (วันอาทิตย์)
ยังมึนๆไข้ นอนพักทั้งวัน ตอนเย็นหายเป็นปกติ และมานั่งนึกว่าไม่ได้สูงมา 2-3วัน ลองตั้งใจเลิกดูอีกรอบ (ไม่ได้สูบเลย)
วันที่4 (วันจันทร์วันทำงานปกติ) และวันอื่น
ปกติกิจวัตรประจำวัน ตื่นนอนลงมา เข้าห้องน้ำ ชงกาแฟ แล้วเดินไปสูบบุหรี่ แต่วันนี้ไม่เดินออกไปสูบ และตอนไปทำงานอดใจไม่พกบุหรี่ ไฟเเซกติดตัวเลย และไม่ไปยังจุดที่ประจำที่นั่งสูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีแว๊บที่อยากออกไปสูบเพราะกลิ่นมันเย้ายวย หรือช่วงที่เป็นกิจวัตรเช่น หลังกินข้าว เป็นต้น บางครั้งแอบเปรี้ยวปาก เลยต้องหาลูกอมมาอมเวลาเกิดอาการยากสูบ ช่วยได้ในระดับนึง
เป็นแบบนี้ไปได้ 1อาทิตย์ เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่สังเกตได้
- เดินขึ้นบันได้1รอบจากเคยเหนื่อยหอบ เป็นไม่เหนื่อยหอบ แถมเดินขึ้น ลง 3 -4 รอบ มีแค่เหนื่อยแต่ไม่หอบ
- หายนอนกรน
- หายใจสะดวกขึ้น ดีขึ้น
- กลิ่นตัวหาย ปกติเสื้อใส่นอน เช้ามาจะมีกลิ่นอับๆไม่ใช่กลิ่นเหงื่อ ทั้งๆที่นอนห้องแอร์ ไม่มีติดเสื้อเลย
หลังจาก1อาทิตย์ผ่านไป
การปรับตัวเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของการสูบบุหรี่เริ่มเป็นปกติ เป็นการสร้างกิจวัตรใหม่โดยไม่ใช่เป็นช่วงเวลาของการสูบบุหรี่แต่ก็ยังมีบ้างนิดๆหน่อยๆ สัก10% บางครั้งยังมีจิตใจที่แว๊บอยากไปสูบบุหรี่เข้ามาในสมอง แต่ต้องข่มด้วยจิตใจที่ว่า
"ผลการเปลี่ยนแปลงในชีวิต และสุขภาพที่ดีขึ้น"
ก็สามารถช่วยให้ชนะความอยากไปได้ดีทีเดียว
ช่วงนี้อาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดบ้างนะครับ อะไรก็ขว้างหูขว้างตาไปหมด
หลังจากอาทิตย์ที่ 3
ความรู้สึกเรื่องกลิ่นที่เคยเย้ายวน มันกลับกลายเป็นว่าโคตรเหม็นมากๆ หรือกลิ่นโซยมาก็เหม็น หายใจไม่ค่อยออก จนต้องรีบเดินออกจากจุดนั้นๆ หรือไปอยู่เหนือลม อาการหงุดหงิดมีอยู่บ้าง แต่น้อยลง
ถึงตอนนี้ระยะเวลาเกือบจะ 2 เดือนที่เลิกสูบบุรี่มา แต่ก็ยังมีแว๊บเล็กๆอาทิตย์ละ1-2 ครั้งที่อยากจะสูบ แต่ก็ชนะได้ง่ายๆ
แต่...................มีเสียอยู่บ้างครับ
เคยได้ยินและเห็นอย่างดาราหลายคนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วอ้วนขึ้นนั้น ตอนนั้นในใจว่าไม่เชื่อเท่าไร
ตอนนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆครับ
พอเลิกสูบแล้วกลับกลายเป็นว่าอยากกินของหวานมากขึ้น จากเป็นคนไม่ค่อยชอบของหวานเท่าไร ตอนนี้อยากกินไปหมด
แถมชอบกินจุกจิก ตอนนี้ขึ้นมา5โลกว่าเลยฮือๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้เริ่มควบคุมอาหารแล้วครับ
แล้วมานั่งๆนอนๆคิดดูว่า ประหยัดเงินชื้อบุหรี่วันละ 60 บาท เดือนๆนึงก็ 1800-2000 บาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว
สรุปว่าการที่จะเลิกบุหรี่ อยู่ที่จิตใจล้วน จิตใจต้องเข้มเเข็ง แน่วแน่ มุ่งมั่น มันจะลำบาก หงุดหงิดบ้างในช่วงเวลาสั้นๆ
การเลิกแบบค่อยๆลดนั้น ไม่ได้ผลครับ อย่างไงตั้งหักดิบไปเลยครับ
สุดท้ายนี้ เป็นกำลังใจให้สำหรับใครที่อยากเลิกบุหรี่นะครับ
ปล. ผมสูบมา20กว่าปีครับ