JJNY : 5in1 วิโรจน์ทวงไฟเซอร์│หมอชี้แพทย์หลายคนพลาดสิทธิ│2ผู้สูงวัยตายคาบ้าน│สาวเครียดแทงคอดับ│เชื่อมั่นศก.ก.ค.ลดทุกภาค

'วิโรจน์' ฮึ่ม ทวงไฟเซอร์ให้ด่านหน้า ข้องใจทำไมรัฐต้องสร้างเงื่อนไขให้ยุ่งยาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2859831
 
 
‘วิโรจน์’ ฮึ่ม ทวงไฟเซอร์ให้ด่านหน้า ข้องใจทำไมรัฐต้องสร้างเงื่อนไขให้ยุ่งยาก

“วิโรจน์” ขอทวงไฟเซอร์ให้ด่านหน้า ข้องใจทำไมรัฐต้องสร้างเงื่อนไขให้ยาก

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เขียนข้อความแสดงความเห็น แสดงความข้องใจ กรณีเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรแพทย์ด่านหน้า โดยระบุว่า
 
ทำไมพยาบาล แพทย์ และบุคลากรด่านหน้า จะได้ Pfizer ฉีดเป็นเข็มที่ 3 นี่มันยากจังนะ
ขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ไม่ได้ถูกทำลายลงเพราะการอภิปรายของผมหรอกครับ

ถ้าจะถูกทำลาย มันน่าจะมาจาก สิ่งที่รัฐบาลนี้ปฏิบัติกับพวกเขามากกว่า
 
ทำไมรัฐบาลไม่ยืนยันความจำเป็นที่จะต้องฉีด Pfizer ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน
เหมือนกับที่ยืนกรานมาตลอดว่า การซื้อเรือดำน้ำมันจำเป็น (-ะ)
 
ง่ายๆ คือ เอา Pfizer ที่ได้รับบริจาค มาฉีด Boost ให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่แสดงความประสงค์มา ก็คือ จบ
เมื่อเขาทำงานที่เสี่ยงที่สุด รัฐก็ต้องมอบความปลอดภัยที่สูงสุดให้กับพวกเขา
 
ทำไมต้องมาสร้างเงื่อนไขอะไรให้ยากด้วยนะ
 
#ทวงPfizerให้หน่วยด่านหน้า
 
https://twitter.com/wirojlak/status/1421134471122735108
https://twitter.com/wirojlak/status/1421331366747119616



หมอพิมพ์ใจ ชี้ เกณฑ์ไฟเซอร์ ทำแพทย์หลายคนพลาดสิทธิ หวังทุกคนได้วัคซีนมีประสิทธิภาพ
https://www.matichon.co.th/local/news_2859678
 
หมอพิมพ์ใจ เผยเกณฑ์ไฟเซอร์ ทำบุคลากรทางการแพทย์หลายคนถูกตัดสิทธิ หวังถูกใช้อย่างคุ้มค่าจริงๆ
 
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พญ.พิมพ์ใจ เดชรุ่งเรือง แพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Mhor Pimjai ถึงประเด็นการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ โดยระบุว่า
 
“วันนี้ตื่นมาพบกับข่าวยอดผู้ติดเชื้อแตะ 18,912 คน และที่น่าเศร้าคือมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 178 คน
 
แต่ข่าวการเข้ามาของวัคซีน Pfizer ก็พอจะทำให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่พอได้อ่านเกณฑ์ในการได้รับวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์แล้วก็ใจแป้วเลย เพราะจะต้องเป็นบุคลการที่ได้รับ Sinovac 2 เข็ม ถึงจะมีสิทธิเข้าเกณฑ์นี้
 
ข้อกำหนดที่ตั้งมานี้ทำให้มีบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากที่ไม่เข้าเกณฑ์ ทั้งคนที่ได้รับ Sinovac มาเข็มเดียว หรือ AstraZeneca เข็มเดียวและ 2 เข็ม อีกทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์อีกหลายคนที่ตัดใจเลือกฉีด AstraZeneca กระตุ้นเป็นเข็มที่สามไปก่อน เพราะต้องทำงานกับความเสี่ยงตลอดเวลาและไม่อยากรอ Pfizer ที่ไม่มีใครการันตีให้เลยว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่
 
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าไม่มีวัคซีนไหนมีประสิทธิภาพป้องกันได้ 100% แต่ก็มีรายงานการศึกษาต่างๆ ออกมามากมายที่พอจะเป็นแนวทางในการบริหารจัดการวัคซีนได้ เช่น การใช้ AstraZeneca แล้วตามด้วย Pfizer ก็สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันได้ดีมากกว่า AstraZeneca 2 เข็ม
 
เราเพียงแค่อยากขอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อลดการติดเชื้อในโรงพยาบาลที่เป็นปราการสำคัญ เพราะหากบุคลากรทางการแพทย์ติดแล้ว เราจะสูญเสียกำลังการทำงานไปเยอะมากๆ ดังเช่นที่ต้องปิดวอร์ดต่างๆ หรือปิดห้องฉุกเฉินเพราะมีบุคลากรติดเชื้อ และหากติดแล้วไม่มีอาการก็อาจจะนำไปติดในคนไข้รายอื่นต่อได้
 
สุดท้ายนี้หวังว่าวัคซีนที่เข้ามาจะถูกนำไปใช้ให้คุ้มค่ากับบุคคลกรด่านหน้าจริงๆ รวมไปถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ได้มากที่สุดนะคะ และในอนาคตก็อยากจะให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเร็วๆนี้เช่นเดียวกัน”
 
https://www.facebook.com/MhorPimjai/posts/564682988226447
 

 
สลดใจ2ผู้สูงวัยตายคาบ้านพัก ญาติสงสัยฉีดวัคซีนได้8วันแต่กลับติดโควิดดับ
https://www.dailynews.co.th/news/111682/

เจ้าหน้าที่เข้าเก็บศพ 2 ตายาย วัย 68 ปี หลังป่วยโควิด-19 แล้วอาการทรุดหนักสิ้นใจในบ้านพักตัวเอง ขณะที่น้องชายผู้ตายติดเชื้อนอนหมดแรงไปด้วยกัน ภายหลังญาติตั้งข้อสงสัยเพิ่งไปฉีดวัคซีนได้ 8 วัน กลับติดเชื้อเสียชีวิต
 
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ร.ต.อ.เอกชัย สึรวิกรานต์ รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขตหนองแขม กรุงเทพฯ  จึงประสานเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ชุดปฏิบัติการพิเศษโควิด-19 เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะทาวน์โฮม ตรวจสอบภายในบ้านพบหญิงอายุ 68 ปี นอนหงายเสียชีวิตที่หน้าห้องน้ำ และพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นชาย อายุ 68 ปี นั่งเสียชีวิตอยู่บนชักโครกภายในห้องน้ำ นอกจากนี้ยังพบชายอีก 1 ราย อายุ 58 ปี นั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเก้าอี้ไม้ จากการสอบถามพบว่า หญิงที่นอนเสียชีวิตคือพี่สะใภ้ ส่วนชายที่เสียชีวิตในห้องน้ำ คือ พี่ชาย
 
โดย น.ส เอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี หลานสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ 3 คน คือ ตา, ยาย และน้องชายของตา ส่วนตัวหลานเองพักอยู่ที่บ้านอีกหลังใกล้กัน โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา หลานสาวได้พายายไปฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เมื่อกลับถึงบ้าน ช่วงกลางดึก ยายได้โทรศัพท์มาบอกว่ามีอาการไม่สบาย ตัวร้อน จึงคิดว่าเป็นอาการข้างเคียงปกติของผู้ที่ได้รับวัคซีน แต่พบว่า ยายยังมีอาการไข้ ตัวร้อน และเหนื่อยง่าย อีกหลายวัน นอกจากนี้คนที่เหลือภายในบ้านก็มีอาการในลักษณะเดียวกัน
 
หลานสาวเปิดเผยอีกว่า กระทั่งวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบ Antigent test มาตรวจ ยายก็พบว่า ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะประสานโรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ เนื่องจากเป็นการยืนยันผลโดยซื้อที่ตรวจมาตรวจเอง จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางมาเยี่ยมตาและยาย เมื่อตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงเข้าไปดูในบ้านพบยายนอนเสียชีวิตหน้าห้องน้ำ ตาก็เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ ส่วนน้องชายตา มีอาการไม่มีเรี่ยวแรง จึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ
 
ทั้งนี้ ญาติยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของการฉีดวัคซีนด้วยหรือไม่ ที่ทำให้มีอาการป่วยทรุดหนัก เพราะทางผู้สูงอายุสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว คุณตาและน้องชายก็มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดัน หัวใจ และคุณยายก็มีโรคประจำตัวในเรื่องไขข้อกระดูก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำร่าง คุณตาและคุณยาย ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางม่วง จ.นนทบุรี ส่วนน้องชายคุณตาถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ.วิชัยเวชอ้อมน้อย เรียบร้อยแล้ว.



สาวเครียดป่วยโควิด-ไร้งานทำ คว้ามีดแทงคอตัวเองดับคาดาดฟ้าแฟลตย่านบางแค
https://www.dailynews.co.th/news/111792/
 
สาวใหญ่วัย 50 ปี เกิดอาการเครียดจัดหลังเพิ่งไปรับการรักษาโควิด-19 คว้ามีดแทงคอตัวเองดับคาดาดฟ้า แฟลตย่านบางแค
 
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ร.ต.อ.ธิระสาร นรินทร์สรศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในแฟลตแห่งหนึ่ง ย่านเพชรเกษม ถนนเพชรเกษม ต.บางแคเหนือ เขต บางแค กรุงเทพฯ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลธิป่อเต็กตึ๊งชุดปฏิบัติการพิเศษโควิด-19 ที่เกิดเหตุอยู่บนดาดฟ้าแฟลตดังกล่าว พบร่าง น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาว จ.มหาสารคาม สภาพสวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นลายปลาสีขาวดำ มีมีดทำครัวยาว 20 ซม. ปักที่ลำคอ เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
 
จากการสอบสวน ด้าน นางจันดา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี แม่บ้านของตึกดังกล่าวให้การว่า ผู้ตายเป็นพนักงานโรงงานเย็บผ้า พักอาศัยอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกก็อยู่ที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับไต ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง 
โดยก่อนหน้านี้ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก็พบว่าผลเป็นบวก จึงได้ประสานรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา และเข้าขั้นตอนการกักตัว ครบ 14 วัน จนกลับมาห้องพักเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้ตายบ่นว่าอาการไม่ดีขึ้น แขนขาอ่อนแรง จึงบอกให้ผู้ตายพักอยู่แต่ในห้องไม่ต้องออกมา และจะส่งอาหารให้ จนกระทั่งวันนี้ ขณะที่ผู้พักอาศัยในแฟลตกำลังขึ้นไปเก็บผ้าที่ตากไว้บนดาดฟ้า ก็เห็นผู้ตายขณะนั้นกำลังเอามีดปาดคอตัวเอง ด้วยความตกใจจึงรีบลงมาตามหาแม่บ้าน และตะโกนขอความช่วยเหลือ ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ผู้ตายเคยบ่นว่ารู้สึกเหนื่อยและท้อแท้กับชีวิต ที่มีโรคประจำตัว และไม่มีงานทำ ก่อนตัดสินใจจบชีวิต เบื้องต้นตำรวจจะนำร่างส่งนิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนประสานญาติเพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่