ผมเป็นคนหนึ่งที่สมัยเด็กไม่ได้จัดว่าเก่งอะไรครับ เรียนกลางๆไม่ค่อยตั้งใจเรียน
ที่สังเกตุอย่างหนึ่ง เวลาเอาเนื้อหาเก่าๆกลับมาดู กลับมาอ่าน บางทีก็อ่านเข้าใจมากกว่าตอนนั้น บางวิชา
เช่น ม.4 เอาข้อสอบ pre-onet วิชาคณิตศาสตร์ ม.3 ที่โรงเรียนติวให้มาแก้ดู บางส่วนก็พอทำได้อยู่ รู้สึกเสียดายว่าเพิ่งจะมารู้อะไรตอนนี้
เพิ่งมาเรียนคณิตรู้เรื่องตอนม.4 เพราะ ม.3 เพิ่งเริ่มไปสะดุดกับ
ความเข้าใจ เช่น จำนวนเต็มบวกเต็มลบ มันเป็นยังไง ทำไม A-(-B) ได้ A+B ก็จินตนาการ วาดเสันจำนวนดู เพิ่งมาแก้ระบบสมการเชิงเส้นเป็นตอนม.4 เทอม 2 ตอนที่เรียนเรื่องเมทริกซ์ (คนอื่นเขาแก้เป็นตั้งแต่ประถม ม.ต้นแล้ว)
พอเข้ามหาวิทยาลัย
ปี 1 เรียนเขียนโปรแกรม ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยฝึกทำ lab/แก้โจทย์ --> ติด F
ขึ้นปี 2 มาเรียนวิชานี้อีกครั้ง มีคนอื่นมาสอนทำ พอเข้าใจบ้างรอดมาได้ --> ได้เกรด D แต่ก็มีปัญหากับหลายวิชาที่มีเขียนโค้ด
ขึ้นปี 3 พอเขียนโค้ดได้ดีขึ้นแล้ว (ถ้าเป็นสคริปต์ทั่วไป)
ถ้ากลับไปดูหนังสือเขียนโปรแกรมของปี 1 คงจิ๊บๆ
ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ ฝึกงานออนไลน์ของหอสมุดม.ที่ตนเองเรียนอยู่ ทำไปทำมา
ไม่รู้มีอะไรมากระตุ้นสมอง แล่นดีมาก คิดอะไรก็ดี เข้าท่า จากที่เฉื่อยๆมาหลายปี
ผมคิดว่าอาจมีหลายคนที่เป็นแบบผม โตมาเรียนอะไรก็รู้เรื่อง ไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก อาจจะเกิดจากเรียนผิดวิธี มองเป็นระบบไม่เป็น หรือไม่ตั้งใจเรียน
โตขึ้นคงมองโลกใหญ่ขึ้น รู้สึกว่าโลกแคบลง อะไรๆอาจง่ายขึ้น ง่ายๆคือ สมองจัดระบบได้ดีขึ้น
ลองให้คนที่จบตรีธุรกิจ มาเรียนต่อฟิสิกส์ควอนตัม อาจจะรู้เรื่อง Get A, ตีพิมพ์ในสุดยอดวารสารก็ยังได้
ผมเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งไม่ได้เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ไม่ติดค่ายโอลิมปิกชีววิทยา สอบไม่ติดวิศวะ เกรดปี 1-3 ต่ำมาก
ขึ้นปี 4 ซึ่งก็คือเทอมนี้ มีทั้งโปรเจคจบ ยังจะมาลงเรียนเพิ่มเกรดอีก ท้อจริงๆ อารมณ์เหมือนพวกโค้งสุดท้ายที่มาเตรียมเข้านายร้อยตอนม.3 หรือเข้าหมอตอนม.6 (สำหรับผม ปี 4 เตรียมความรู้ ความเก่ง เพื่อสมัครงาน โค้งสุดท้ายจริงๆ ไหนจะภาษาอังกฤษอีก โอ๊ยๆ)
ใครที่ตอนเด็กหรือช่วงแรกๆ ปี 1 ปี 2 ไม่ค่อยสนใจเรียน แล้วเพิ่งมาเก่งตอนปี 4 หรือตอนทำงาน (ศึกษาเอาเองทีหลัง) รู้สึกเสียใจแบบผมบ้างไหมครับ
เพิ่งมาตั้งใจเรียนตอนโต รู้สึกเสียใจไหม ?
ที่สังเกตุอย่างหนึ่ง เวลาเอาเนื้อหาเก่าๆกลับมาดู กลับมาอ่าน บางทีก็อ่านเข้าใจมากกว่าตอนนั้น บางวิชา
เช่น ม.4 เอาข้อสอบ pre-onet วิชาคณิตศาสตร์ ม.3 ที่โรงเรียนติวให้มาแก้ดู บางส่วนก็พอทำได้อยู่ รู้สึกเสียดายว่าเพิ่งจะมารู้อะไรตอนนี้
เพิ่งมาเรียนคณิตรู้เรื่องตอนม.4 เพราะ ม.3 เพิ่งเริ่มไปสะดุดกับ ความเข้าใจ เช่น จำนวนเต็มบวกเต็มลบ มันเป็นยังไง ทำไม A-(-B) ได้ A+B ก็จินตนาการ วาดเสันจำนวนดู เพิ่งมาแก้ระบบสมการเชิงเส้นเป็นตอนม.4 เทอม 2 ตอนที่เรียนเรื่องเมทริกซ์ (คนอื่นเขาแก้เป็นตั้งแต่ประถม ม.ต้นแล้ว)
พอเข้ามหาวิทยาลัย
ปี 1 เรียนเขียนโปรแกรม ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยฝึกทำ lab/แก้โจทย์ --> ติด F
ขึ้นปี 2 มาเรียนวิชานี้อีกครั้ง มีคนอื่นมาสอนทำ พอเข้าใจบ้างรอดมาได้ --> ได้เกรด D แต่ก็มีปัญหากับหลายวิชาที่มีเขียนโค้ด
ขึ้นปี 3 พอเขียนโค้ดได้ดีขึ้นแล้ว (ถ้าเป็นสคริปต์ทั่วไป)
ถ้ากลับไปดูหนังสือเขียนโปรแกรมของปี 1 คงจิ๊บๆ
ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ ฝึกงานออนไลน์ของหอสมุดม.ที่ตนเองเรียนอยู่ ทำไปทำมา ไม่รู้มีอะไรมากระตุ้นสมอง แล่นดีมาก คิดอะไรก็ดี เข้าท่า จากที่เฉื่อยๆมาหลายปี
ผมคิดว่าอาจมีหลายคนที่เป็นแบบผม โตมาเรียนอะไรก็รู้เรื่อง ไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก อาจจะเกิดจากเรียนผิดวิธี มองเป็นระบบไม่เป็น หรือไม่ตั้งใจเรียน
โตขึ้นคงมองโลกใหญ่ขึ้น รู้สึกว่าโลกแคบลง อะไรๆอาจง่ายขึ้น ง่ายๆคือ สมองจัดระบบได้ดีขึ้น
ลองให้คนที่จบตรีธุรกิจ มาเรียนต่อฟิสิกส์ควอนตัม อาจจะรู้เรื่อง Get A, ตีพิมพ์ในสุดยอดวารสารก็ยังได้
ผมเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งไม่ได้เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ไม่ติดค่ายโอลิมปิกชีววิทยา สอบไม่ติดวิศวะ เกรดปี 1-3 ต่ำมาก
ขึ้นปี 4 ซึ่งก็คือเทอมนี้ มีทั้งโปรเจคจบ ยังจะมาลงเรียนเพิ่มเกรดอีก ท้อจริงๆ อารมณ์เหมือนพวกโค้งสุดท้ายที่มาเตรียมเข้านายร้อยตอนม.3 หรือเข้าหมอตอนม.6 (สำหรับผม ปี 4 เตรียมความรู้ ความเก่ง เพื่อสมัครงาน โค้งสุดท้ายจริงๆ ไหนจะภาษาอังกฤษอีก โอ๊ยๆ)
ใครที่ตอนเด็กหรือช่วงแรกๆ ปี 1 ปี 2 ไม่ค่อยสนใจเรียน แล้วเพิ่งมาเก่งตอนปี 4 หรือตอนทำงาน (ศึกษาเอาเองทีหลัง) รู้สึกเสียใจแบบผมบ้างไหมครับ