สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ทุกคนอ่านกัน เริ่มจากช่วงมหาลัยชีวิตเรามีความสุขมากๆ ทั้งเรียนทั้งเล่น เป็นผญคนนึงที่ใช้ชีวิตในแบบที่ัตัวเองอยากเป็น จนเราเรียนจบเข้าสู่วัยทำงาน กลับกลายเป็นว่าเรากลายเป็นคนละคนไปเลยจากตอนที่เรียนอยู่มหาลัย เราทำแต่งาน บ้างานมาก เพราะมีเป้าหมายว่า ฉันจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ไวๆ ชีวิตนี้ทำงานถวายหัว เราเริ่มโฟกัสที่งานอย่างเดียว อยากทำงาน อยากได้เงินเยอะๆ ยิ่งเห็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันประสบความสำเร็จ เรายิ่งอยากเป็นให้ได้แบบเค้า…
ตอนนี้เราอายุจะเข้าเลข4แล้วค่ะ เรามีงานที่มั่นคง เรามีรถ มีบ้าน แต่สิ่งนึงที่เราไม่มีคือ เราไม่มีความสุข ทั้งกายและใจ เราไปหาหมอตรวจพบว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมตั้งแต่ประมาณ อายุเกือบ 30 เอาหละโรคเวรโรคกรรมมาเยือนแล้วหนึ่ง ช่วงนั้นออฟฟิศเราบังคับให้พนักงานทุกคนไปตรวจสุขภาพนี่แหละค่ะจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงของชีวิตเรา คนบ้างานอย่างเรากำลังโดนงานหันกลับมาเล่นตัวเองซะแล้ว แค่นี้ยังไม่พอออฟฟฟิศซินโดรมอยากหาเพื่อน ผลตรวจพบว่าเรายังได้ ไขมัน น้ำตาลในเลือด ความดันสูงมาอีก เรียกได้ว่า Combo set หญิงสาวในวัย 30กว่าๆ กับปัญหาสุขภาพที่ถาโถมเข้ามา นี่แหละนะทำตัวเองแท้ๆ5555
เอาหละค่ะเห็นผลตรวจแล้วลมจะจับ เราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยเพราะปกติแล้วเราเป็นคนที่ดูไม่อ้วน รวมๆแล้วก็เหมือนผญทั่วไป ใครจะคิดว่านางคนนี้ มีแต่ไขมันเลว และน้ำตาลในเลือดสูงล่ะ พวกนี้สินะที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยง่าย ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่มีความสดชื่น เอาเป็นว่าเราเป็นผญคนเดียวในออฟฟิศที่ผลตรวจออกมาแล้วแย่ที่สุด ในขณะที่แต่ละคนเฮฮฮ ว่าฉันปกติสุขภาพดี๊ดี ตัดภาพมาที่ฉันเห็นผลตรวจแล้วซึมเป็นส้วมเลยค่ะ
เราก็กลับมาคิดนะเพราะอะไร ฉันก็ใช้ชีวิตทั่วไป...
ชีวิตทั่วไปในที่นี้คือ กินชานมไข่มุกทุกวัน อาหารตามสั่ง อะไรก็ได้ขอให้กินง่ายๆ ขี้เกียจจะขยับตัว เลิกงานก็แวะซื้อข้าวหน้าปากซอยกิน แล้วก็เตรียมตัวนอนเพื่อไปสู้กับงานในวันต่อไป ชีวิตวนลูปอยู่แค่นี้ เสาร์-อาทิตย์ ก็ตื่น นอน กิน สั่ง Grab บางอาทิตย์งานเยอะๆก็หอบงานกลับบ้านมาทำที่บ้าน จนแม่บ่นว่าทำงานขนาดนี้กะจะเป็น ceo เลยหรอ 5555
ตอนแรกไม่ว่าใครจะบอกเราว่าให้กลับมาดูแลตัวเองบ้าง จะทำงานหนักมาเพื่อรักษาสุขภาพตัวเองหรอ เราไม่สนใจคำพูดพวกนั้นเลย คิดแต่ว่าฉันจะรวย จะมีอนาคต ฉันจะต้องมีบ้านมีรถ สุดท้ายเป็นไงละ มีบ้านมีรถแล้วไง ดูตัวเองตอนนี้สิสภาพคือดูไม่ได้ บวกกับเราเริ่มที่จะถึงจุดที่เหนื่อยล้ากับการทำงาน คนอะไรบ้างานมา 10 กว่าปี ไม่เอาอะไรเลย ไม่เที่ยว ไม่มีสังคม ไม่ดูแลตัวเองเลยสักกะนิดเดียว สรุปคือไม่มีความสุขเลยTT
จุดเปลี่ยนคือเห็นเพื่อนมีครอบครัว เห็นเพื่อนได้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ เราว่าชีวิตแบบนี้มันน่าอิจฉามากกว่าอีก ครั้งล่าสุดที่เราได้ไปทำเล็บทำผม ได้ไปเที่ยวมันคือตอนไหนนะ จำไม่ได้แล้ว เอาวะ!! ในเมื่อมีทุกอย่างแล้ว ควรให้รางวัลกับชีวิตบ้าง ก่อนอื่นเลยถ้าอยากจะไปซ่าอยากไปเที่ยวก็ต้องหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีก่อน อายุไม่ใช่น้อยๆแล้วถ้าจะไปเที่ยวเดินป่าขึ้นเดินเขาแบบแต่ก่อน แต่ไม่ฟิตร่างกายมาก่อน เราอาจจะได้นอนพะงาบๆอยู่กลางป่าก็ได้55555 ช่วงมหาลัยเราเที่ยวบ่อยมากกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะเดินป่าเนี่ยชอบมาก ผญสายลุย^^
มันก็แปลกนะที่อยู่ๆเราคิดจะมาดูแลสุขภาพตัวเอง คงเพราะร่างกายมันฟ้องว่าไม่ไหวแล้วแหละ ก่อนอื่นเลยคือ เรามาดูจากผลตรวจคือ เราน้ำตาลในเลือดสูง ความดันสูง ไขมันสูง พวกนี้ไม่ได้เกิดจากอะไรเลย ปัจจัยโดยตรงก็คือ เรื่องอาหาร!!! มาค่ะถึงเวลาปรับเปลี่ยน แต่ก่อนเราติด ชา กาแฟ มากๆๆๆ ต้องสั่งกินทุกวัน ยิ่งชานมนี่คือกินวันละ 2 แก้วเป็นอย่างต่ำ เพราะติดมาก ตอนเช้าซื้อที่รถไฟใต้ดินตอนกลับก็ซื้อกลับไปกินที่บ้านอีกแก้ว สุดยอดรับมงชานมเลิฟเว่อร์
เอาหละค่ะ เป้าหมายใหม่!! ตอนนี้หลังเลิกงานเราจะเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จเพื่อที่จะได้รีบกลับบ้านไปออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก โปรตีน ไขมันดี ไอพวกอาหารแปรรูปต่างๆนี่เราไม่ค่อยได้กินเลยหลังจากหันมาดูแลสุขภาพ จะคอยบอกกับตัวเองทุกวันว่าคิดดีๆก่อนเอาอะไรเข้าสู่ร่างกาย และจากตอนแรกที่ติดกาแฟชานมต่างๆเรานี่เลิกซื้อเลยค่ะ ทุกอย่างถ้าอยากกิน จะ ชง เอง พวกคอฟฟี่เมทนี่ก็ไม่กินเลย เราเปลี่ยนมากินผงธัญพืชแทน ส่วนตัวคิดว่าใช้ผงอันนี้แล้วรสชาติเครื่องดื่มอร่อยขึ้นกว่าเดิมอีก พอได้วัตถุดิบ สูตรชงชานมที่ตัวเองตามหา มันก็ยิ่งทำให้แฮปปี้ เพราะเราได้กินชานมรสชาติที่ชอบเหมือนตอนไปกินที่ไต้หวันเลย แถมมันยังมีกับสุขภาพอีก เริศ!!
สูตรชงชานมไต้หวันคลีนของเรา
1.ชาอูหลง Choui Fong 1 ซอง
2.ผงธัญพืช Nua 1 ซอง
3.น้ำร้อน
4.น้ำแข็ง
วิธีการทำ
1.แช่ถุงชาอูหลงในน้ำร้อนไว้ประมาณ 5 นาที หรือแล้วแต่ความเข้มที่ทุกคนชอบ
2.เทผงธัญพืช Nua ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3.เทน้ำแข็งใส่ลงไปตามใจชอบ
เสร็จแล้วว ใช้แค่ของ 4 อย่างก็ได้ชานมอร่อยๆกินแล้ว ทำง่ายมากๆเลยค่ะ หรือถ้าใครชอบกินชาแบบไหนก็ลองไปเลือกซื้อชาที่ตัวเองชอบกันนะคะ เราชอบชาอู่หลงเพราะไม่ได้ติดกินชารสเข้ม ชาตัวนี้จะเบาๆไม่เข้ม สีชานมของเราเลยจะออกมาสีน้ำตาลอ่อนๆ แต่บอกเลยว่ารสชาติเหมือนตอนที่ไปกินที่ไต้หวันเลย>< ส่วนถ้าใครชอบชาเข้มๆก็อาจจะต้องลองเปลี่ยนไปซื้อพวก balck tea ดูนะคะ ส่วนผงธัญพืชที่เราใช้ชงชาตัวนี้ก็เหมาะมากกับคนที่รักสุขภาพ สามารถนำมาใช้แทนคอฟฟี่เมทได้ หรือถ้าใครแพ้นมวัวก็ใช้ผงธัญพืชตัวนี้ทดแทนได้เลยค่ะ เราชอบเพราะว่าเค้าธรรมชาติมาก ทำมาจาก ถั่วเหลือง ข้าวหอมมะลิ ข้าวโพดหวาน และอีกหลายตัวเลยค่ะ อย่างคุณแม่เราเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ยิ่งผู้สูงอายุหรือใครที่ต้องการควบคุมปริมาณไขมันและคอเรสเตอรอลยิ่งเหมาะมากๆ เอามาทำอาหารก็ได้นะ ใช้แทนกะทิ นมข้นจืดค่ะ

เรื่องอาหารช่วงนี้เราก็จะชอบทำอาหารเองค่ะ เพราะตื่นทัน555 พอเราออกกำลังกายมันทำให้หลับง่าย ผลพลอยได้คือตื่นเช้าไปอีก เราเลยใช้เวลานั้นมาทำอาหารกินเองเลย ยกตัวอย่างกุ้งผัดข้าวโพดเห็ดเข็มทองเมนูโปรด มีท็อปปิ้งเป็นไข่ข้น กินกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมข้าวหอมมะลิ เป็นเมนูที่ทำง่ายและดีต่อสุขภาพสุดๆ ปรุงรสอ่อนๆค่ะ จากตอนแรกติดกินรสชาติจัดๆ พอหลังๆปรับตัวได้ก็รู้สึกว่าชิลล์เลย
เราเริ่มออกกำลังกาย เริ่มจากการเดินไวบ้าง เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เดินขึ้นลงบันได ออกกำลังกายแทบทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี อย่างน้อยเดินให้ได้สักวันละครึ่งชั่วโมง จนปัจจุบันเราวิ่งทุกวัน 1 ชั่วโมงสลับกับบอดี้เวทกับโยคะทำเองที่บ้านดูคลิปตามยูทูป เราทำแบบนี้ติดต่อกันมาประมาณ 3-4 เดือน ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ เรารู้สึกเลยว่าร่างกายเราแข็งแรงขึ้น ร่างกายเฟิร์มขึ้น ไขมันลดลง เพราะเราเปลี่ยนแปลงทั้งอาหารการกินและหันมาออกกำลังกาย จากแต่ก่อนตอนที่เรายังไม่หันมาดูแลตัวเอง เราจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่กระฉับกระเฉง ไม่สดชื่น สมองคิดไรก็ตื้อๆช้าๆ แต่หลังจากออกกำลังกายคุมอาหาร ปล่อยวางเรื่องบางเรื่อง เรานี่แทบไม่มีอาการเหล่านั้นเลยค่ะ รู้สึกดีกับตัวเองมากก

เอาจริงๆพอเริ่มมาดูแลสุขภาพเราก็มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น วันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเช้าเราก็จะตื่นมาทำอาหารง่ายๆเอง สนุกดีเหมือนกันนะ แต่เราก็ไม่ได้ฟิกซ์มากนะ ยังพาตัวเองไปกินในสิ่งที่อยากกินให้รางวัลกับการทำงานที่เหนื่อยมาทั้งอาทิตย์ นอนพักบ้างหาซีรี่ส์ดูพักผ่อนสมอง ตอนเย็นๆก็ออกไปเดินเล่น สูดอากาศ ไปกินข้าวกับครอบครัว บางอาทิตย์ก็ไปเที่ยวเดินป่าบ้าง สนองNeed ของตัวเอง รีบไปเที่ยวตอนนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาส ชีวิตเราสั้นลงทุกๆวันไปเที่ยวเถอะ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง ไปเปิดหูเปิดตา ไปพบเจอธรรมชาติให้ธรรมชาติบำบัดบ้าง ตอนนี้ร่างกายพร้อมแล้วค่ะ ใช้เวลากลับมาฟิตได้เกือบปี นานหน่อยค่อยๆเป็นค่อยๆไปแต่ก็แฮปปี้กับชีวิตตอนนี้มาก

ความสุขของเรามันก็แค่นี้แหละนะ ได้ดูแลตัวเอง ได้เห็นตัวเองสุขภาพดี ได้ไปพักผ่อน หันมาตั้งเป้าหมายกับชีวิตบ้างวางแผนว่าชีวิตของเราจะไปในทางไหน ค้นหาความสุขที่แท้จริงของตัวเอง ใช้ชีวิตให้สนุก เพื่อนๆละอายุ 30+ แล้วเริ่มหันมาดูแลสุขภาพตัวเองบ้างรึยัง? ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากทำบ้างรึยัง? ในช่วงที่ทำงานก็เต็มที่แต่ถึงเวลาพักก็ต้องหยุดเพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักเหมือนกัน การบ้างานมากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผลดี ร่างกายเจ็บป่วยขึ้นมามันไม่คุ้มกับความเหนื่อยหรอกค่ะ ขอบคุณออฟฟิศในวันนั้นที่(บังคับ)ไปตรวจสุขภาพ55555 ถึงได้รู้ว่า เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ร่างกายไม่ได้สู้เหมือนแต่ก่อน หันมาดูแลสุขภาพบ้าง สุดท้ายร่างนี้มันก็จะอยู่กับเราไปตลอด ใช้ชีวิตแบบ Work life balance ถึงเวลาเที่ยวก็เที่ยว ถึงเวลาพักก็พัก สุดท้ายแล้วอยากให้ทุกคนหันมารักตัวเอง การไม่เจ็บป่วย การมีสุขภาพกายและใจที่ดี คือเป้าหมายสูงสุดของเราแล้วค่ะ
ในวัย 30 กว่าๆ พวกคุณกำลังใช้ชีวิตแบบไหน? ของเราเป็นแบบนี้ค่ะ...
ตอนนี้เราอายุจะเข้าเลข4แล้วค่ะ เรามีงานที่มั่นคง เรามีรถ มีบ้าน แต่สิ่งนึงที่เราไม่มีคือ เราไม่มีความสุข ทั้งกายและใจ เราไปหาหมอตรวจพบว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมตั้งแต่ประมาณ อายุเกือบ 30 เอาหละโรคเวรโรคกรรมมาเยือนแล้วหนึ่ง ช่วงนั้นออฟฟิศเราบังคับให้พนักงานทุกคนไปตรวจสุขภาพนี่แหละค่ะจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงของชีวิตเรา คนบ้างานอย่างเรากำลังโดนงานหันกลับมาเล่นตัวเองซะแล้ว แค่นี้ยังไม่พอออฟฟฟิศซินโดรมอยากหาเพื่อน ผลตรวจพบว่าเรายังได้ ไขมัน น้ำตาลในเลือด ความดันสูงมาอีก เรียกได้ว่า Combo set หญิงสาวในวัย 30กว่าๆ กับปัญหาสุขภาพที่ถาโถมเข้ามา นี่แหละนะทำตัวเองแท้ๆ5555
1.ชาอูหลง Choui Fong 1 ซอง
3.น้ำร้อน
4.น้ำแข็ง
2.เทผงธัญพืช Nua ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3.เทน้ำแข็งใส่ลงไปตามใจชอบ