🇦🇹 ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ เหรียญทองจักรยานโอลิมปิก แรงบัลดาลใจให้คนที่ยังมีความฝัน 🚵‍♀🥇


ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ เหรียญทองจักรยานโอลิมปิก แรงบัลดาลใจให้คนที่ยังมีความฝัน   
.
 เชื่อว่าทุกคนย่อมมีความฝัน ถ้าย้อนเวลาในวัยเด็กเรามักถูกถามจากผู้ใหญ่ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร และเราก็จะมีคำพูดที่พรั่งพรูออกจากปาก บ้างคนอยากเป็นหมอ บางคนอยากเป็นตำรวจ บ้างคนอยากเป็นนักฟุตบอล ที่มากมายด้วยชื่อเสียง เงินทอง ความคิดในช่วงเวลานั้น มันคือความฝัน ความสนุก ความตื้นเต้น ที่ไม่มีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับแอดมินที่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพเล่นในลีกยุโรป แต่ด้วยสภาพแวดล้อม สังคม ที่โตขึ้นมา แอดมินก็พบกับความจริงว่า โลกแห่งความเป็นจริงมันช่างต่างจากความฝันอย่างสิ้นเชิง
.
 เป็นเรื่องยากจริงๆ ที่เราจะไหลออกจากกระแส แนวคิด การปฎิบัติ ของสังคมที่ทุกคนต้องไหลไปตามลู่ เราต้องเรียนหนังสือ เราต้องจบออกมาหางานทำ เราซื้อรถ เราซื้อบ้าน จนในที่สุดเราก็พบว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือเงินเพื่อเอามาจ่ายหนี้ที่เราก่อ และในที่สุด เราต้องละทิ้ง จินตนาการอันแสนสุขไว้เป็นเพียงความฝัน ที่เป็นคู่ขนานกับความเป็นจริง
.
 จนกระทั้งเรื่องราวการของ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ม้านอกสายตา ชาวออสเตรีย ที่คว้าเหรียญทองการ แข่งขันจักรยานโอลิมปิก Road Race ประเภทหญิง
.
 เรื่องราวของ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ ผู้ใช้ชีวิตไม่ได้แตกต่างจากสังคมปกติ เธอจบปริญญาตรีที่เวียนนา ประเทศออสเตรีย ต่อปริญญาโทที่เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ จากนั้นไปจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคแห่งคาตาลุนย่า ประเทศสเปน ภาควิชาคณิตศาสตร์ คงไม่มีใครกล้าพูดว่าเธอเรียนไม่เก่ง แต่เราคงพูดได้เต็มปากว่า เธอคือมือสมัครเล่น ในเรื่องจักรยาน
.
 เพราะเธอแทบไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆ เลยในการปั่นจักรยาน เธอเรียนเพื่อใบปริญญา และการปั่นจักรยานคืองานอดิเรกที่เธอรัก
.
 เธอเคยก้าวสู่ความฝันหลังเรียนจบปริญญาเอก โดยการเข้าสู่การแข่งขันจักรยานระดับอาชีพในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในที่สุดเธอก็พบว่า รายได้จากการแข่งขันไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เธอจึงสมัครงานเข้าเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เพื่องานที่มั่นคงและสามารถเลี้ยงชีพ อย่างปกติสุข
.
 และเมื่อ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ สร้างหลักประกันในชีวิตได้แล้ว เธอจึงแบ่งเวลามาทำในสิ่งที่เธอรักอีกครั้ง ด้วยการกลับมาลงแข่งขันจักรยาน และครั้งนี้เธอทำสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ในประเทศบ้านเกิด ตีตั๋วไปโอลิมปิกที่โตเกียวได้สำเร็จ
.
 ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนักกีฬาระดับโอลิมปิก แต่ชื่อเสียงของเธอในระดับโลกนั้นช่างน้อยนิด เธอไม่เคยลงแข่งขันจักรยานทัวส์ใหญ่ๆเลย เพราะต้องเอาเวลาไปสอนหนังสือ และอันดับโลกที่ไกลลิบถึงอันดับที่ 88 ของโลก คงพูดได้เต็มปากว่า เธอคือลา ที่ไม่อาจเทียบกับม้าตัวเต็งคว้าเหรียญโอลิมปิก
.
 ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ เดินทางมาโอลิมปิกที่มหานครโตเกียว แบบเหงาๆ ด้วยความที่เธอโนเนม จึงมีเพียงเธอและจักรยานคู่ใจ ที่มากับเธอ เธอไม่มีทั้งทีมงาน และที่สำคัญเธอไม่มีโค้ชมาวางแผน และฝึกซ้อม แต่นี้ไม่ใช่อุปสรรคเธอ เพราะความฝันของเธอนั้นยิ่งใหญ่กว่านั้น จงเธอมองข้ามความไม่พร้อมต่างๆ
.
 สิ้นเสียงสัญญาณปล่อยตัวนักกีฬา เธอปั่นเร่งสปีด สุดแรงเกิดแซงทุกคน จนขึ้นมาเป็นผู้นำ ปล่อยให้นักกีฬาตัวเต็งจากชาติอื่น ที่วางแผนไว้ว่าจะออมแรง เพื่อมาเร่งสปีดในช่วงท้าย และด้วยระยะทางกว่า 137 กิโลเมตร ที่ต้องใช้เวลาปั่นกว่า 3-4 ชั่วโมง ทำให้การปั่นจักรยานทางไกลแบบนี้ มีระยะห่างจากกลุ่มผู้นำ และผู้ตามค่อนข้างมาก จนแทบจะมองไม่เห็นกัน และไม่สามารถรู้ว่า ใครคือผู้นำที่แท้จริง จนกลุ่มตัวเต็ง อย่างนักกีฬาจากประเทศเนเทอร์แลนด์ที่มาเร่งสปีด ในช่วง10 กิโลเมตรสุดท้าย จนคิดว่าเขาได้แซงนักกีฬาจากชาติอื่นๆ มาหมดแล้ว จึงปั่นประคองตัวเอง บล็อกไลน์ปั่นไม่ให้คนอื่นแซงขึ้นมาเพื่อเขาเส้นชัย และชูมืออย่างสะใจ โดยหลงคิดว่าเขาคือผู้คว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกครั้งนี้อย่างแน่นอนแล้ว
.
 แต่ทุกอย่างกับพลิกล็อก เมื่อสกอร์บอร์ด กลับขึ้นว่าผู้คว้าเหรียญทองในครั้งนี้คือ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ จากออสเตรีย ที่นำแบบม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยไปโดยทิ้งคู่แข่งอันดับสองไปถึง 1 นาที 15 วินาที
.
 กลับมาที่ ดร. คีเซนฮอฟเฟอร์ ไม่กี่วินาทีที่เธอปั่นจักรยานคู่ใจเข้าเส้นชัย เธอถึงกลับหลั่งน้ำตา แต่มันไม่ใช่น้ำตาจากความเสียใจ มันคือความดีใจที่อัดอั้นมาตลอดชีวิต ดร. คีเซนฮอฟเฟอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่เคยฝันถึงเหรียญรางวัลใดๆ แค่ขอให้ได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก และทำอันดับจนจบการแข่งขันก็เป็นเป้าหมายที่เหลือเชื่อมากๆ แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับในวันนี้ มันช่างมหัศจรรย์มากๆ มันคือรางวัลที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต และสาเหตุที่เธอปั่นจักรยานจนสุดแรงตั้งแต่วินาทีแรงนั้น เธอไม่ได้วางแผนใดๆ คิดแต่เพียงว่าขอให้ได้เต็มที่กับความฝัน ความฝันที่เธอเฝ้ารอมานาน เธอจึงปั่นแบบสุดชีวิต และผลตอบแทนของคนล่าฝันคือเหรียญทองประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรีย
.
 แอดมินหวังว่าเรื่องราวของดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ อาจารย์นักคณิตศาตร์ ผู้นี้ คือตัวอย่างของคนที่เคยมีความฝัน และได้เคยละทิ้งมันไว้ ให้เป็นเพียงความสุขเล็กๆในหัวใจ ได้ลุกขึ้นมาเติมเต็มความฝัน ใช้ชีวิตให้เป็นตำนานความสุขของตัวเอง และเป็นที่จดจำตราบวันสุดท้ายของชีวิต

Goalstorm
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่