UNESCO มีมติขึ้นทะเบียน "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งใหม่




กลุ่มป่าแก่งกระจานของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแหล่งใหม่ หลังใช้ความพยายามมาถึง 16 ปี
Cr. thainews.prd.go.th/


องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) มีมติเสียงส่วนใหญ่ขึ้นทะเบียนให้ "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ประจำปี 2564 ที่เมืองฝูโจว ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมผ่านระบบทางไกล ระหว่างวันที่ 16 -31 ก.ค. 2564 และเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้พิจารณาให้กลุ่มป่าแก่งกระจาน ของไทยได้รับการบรรจุเข้าเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงทันทีที่ทราบผล แสดงความยินดีต่อข่าวนี้ โดยกล่าวว่า
กว่า 6 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่นผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้งในปี พ.ศ. 2558, พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 นี้

นายวราวุธ ระบุว่า เป็นที่น่ายินดีว่าในปีนี้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก


 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกล่าวย้ำว่า จากนี้จะเดินหน้าส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ที่มีคุณค่าโดดเด่น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาวิจัยในระดับสากล ควบคู่กับยกระดับการอนุรักษ์พื้นที่ด้วยการบริหารจัดการเป็นมาตรฐานสากลให้คงคุณค่าของแหล่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมการสร้างรายได้ให้ประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชน สิ่งสำคัญคือสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกองทุนมรดกโลกได้

ขณะเดียวกันกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ขับเคลื่อนการสร้างสมดุลการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน และให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย มติ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าไทยจะรักษาแหล่งมรดกโลกกลุ่มป่าแก่งกระจานให้คงไว้ได้ดีที่สุด 

กลุ่มป่าแก่งกระจาน ถือเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของประเทศ นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และกลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548


อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่สำคัญคัญเพื่อการอนุรักษ์นกในระดับโลก(IBA)ในประเทศไทย
ลำดับที่ 29 (TH 029) สำรวจพบนกทั้งหมด 545 ชนิด จาก 290 สกุล ใน 63 วงศ์ 


โดยกลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่ประกอบด้วย
เขตสัตวภูมิศาสตร์ ได้แก่ Sundaic, Sino-Himalayan, Indochinese และ Indo-Burmese

พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน อยู่ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 4 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รวมเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกม.)
โดยมีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาตินั้น ประเทศไทยพยายามผลักดันมาตลอดหลายปี เพื่อให้เป็นกลไกหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ท่ามกลางปมความขัดแย้งเรื่องสิทธิมนุษยชนของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนมีการตีกลับให้ทบทวนอยู่หลายรอบ

เขาพะเนินทุ่ง
แก่งกระจาน หรือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี

สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คือ ยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
          
นอกจากจะเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยแล้ว สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์และเป็นป่าต้นน้ำ ทำให้มีลักษณะเด่นทางธรรมชาติ ได้แก่ ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ และสัตว์ป่านานาชนิด จึงมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ จึงมีกำหนดปิดการท่องเที่ยวและพักแรม เฉพาะบริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่ง ในระหว่างวันที่ 1 ส.ค. - 31 ต.ค. ของทุกปี เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และเปิดโอกาสให้ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว


 แคมป์บ้านกร่าง : อุทยานฯแก่งกระจาน จุดที่น่าสนใจสำหรับการดูผีเสื้ออยู่บนเส้นทางสายวังวน-พะเนินทุ่ง โดยเริ่มตั้งแต่กิโลเมตร ที่ 10 เป็นต้นไป
 ซึ่งจะพบผีเสื้อนานาชนิดตามสองข้างทาง และอาจพบผีเสื้อหางติ่งสะพายเขียวซึ่งเป็นผีเสื้อหายากชนิดหนึ่ง
 
Cr.ข้อมูลข่าวและที่มา (Cr.https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210726202055706)
ผู้สื่อข่าว : ปิยาพรรณ ยังเทียน / สวท.
ผู้เรียบเรียง : กัลยา คงยั่งยืน / สวท.
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
Cr.https://www.bbc.com/thai/thailand-57968385

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่