ตอนที่แล้ว ตอนที่ 19
https://pantip.com/topic/40856121/comment2-8
ตอนที่ 20
หมอหนุ่มใหญ่เดินเข้ามาในห้องของลูกชายคนเดียว สายตามองไปรอบ ๆ บนฝาผนังเต็มไปด้วยรูปอดีตภรรยาของเขา เมื่อเดินมาหยุดที่หัวเตียงนอนของลูกชาย เอื้อมมือหยิบกรอบรูปที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมา ผู้หญิงในรูปนั้นกำลังยิ้มหวาน เธอสวยมาก
“ปาริชาติ...ผมปล่อยคุณทางกายไปแล้ว ผมจะพยายามปล่อยคุณทางใจ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาสิบเจ็ดปี ขอให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับคนที่คุณรักอย่างมีความสุขนะครับ” แม้ว่าก่อนแต่งงานใหม่ เขาตัดสินใจปลดรูปอดีตภรรยาทั้งหมดแล้ว เพื่อจะลืมเธอ เริ่มต้นชีวิตใหม่ และเพื่อรักษาน้ำใจของผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วย แต่ภาพของเธอ รอยยิ้มของเธอ ความทรงจำในอดีตที่อยู่ด้วยกันนั้น ยังไม่อาจลบเลือนไปจากใจของเขาได้ เขารู้สึกผิดที่ได้ตัวเธอมาจากคนรักเก่าอย่างไม่ถูกต้อง เคยคิดว่า จะทำให้เธอรักเขาได้ แต่เปล่าเลย ที่ปาริชาติยอมแต่งงานและอยู่กับเขาเพราะลูก เธอทุ่มเทความรักทั้งหมดไปที่ลูกคนเดียว เขาวางรูปลงที่เดิมแล้วเดินออกจากห้องไป
ตั้งแต่กลับจากการไปพักร้อน ลูกชายตัวดีก็ไม่ยอมกลับบ้าน แต่ไลน์มาบอกว่า ไปซ้อมดนตรีที่บ้านเพื่อน วันเสาร์นี้จะเข้าประกวดร้องเพลงรอบที่สอง
“คุณไปไหนมาคะ” ภรรยาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นสามีเดินเข้ามาในห้องรับแขก
“ผมไปห้องลูกชายมา” ปัณณวัตร์ย่อกายลงนั่งที่โซฟายาวข้างหญิงสาว
ปัถยาชะงักเล็กน้อย เพราะรู้ดีว่า เวลาที่เขาคิดถึงภรรยาเก่า จะต้องไปห้องของลูกชายเสมอ เพราะมีที่เดียวที่มีรูปของเธออยู่ แม้แต่ในมือถือของเขาก็ลบรูปอดีตภรรยาทิ้งหมดแล้ว
“คุณโกรธผมหรือเปล่าครับ ผมขอโทษนะ” เขาดึงมือภรรยามากุมไว้
“ฉันไม่เคยโกรธคุณเลย เคยบอกคุณแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเอารูปปาริชาติออกนี่คะ” เธอวางมืออีกข้างลงบนหลังมือของสามีแล้วส่งยิ้มให้เขา
“ผมคิดว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ” เขาแต่งงานกับเธอแล้ว หากมีรูปผู้หญิงคนอื่นอยู่ในบ้านมันไม่ยุติธรรมสำหรับเธอเลย
“ความรักของฉัน คืออยากให้คุณมีความสุข แค่ได้อยู่กับคุณ ดูแลคุณ ฉันก็มีความสุขมากที่สุดแล้วค่ะ”
“คุณเก่งจัง คุณทำได้ยังไงครับ” หมอหนุ่มใหญ่มองเธออย่างทึ่ง การเห็นคนที่คนรักอยู่กับคนอื่นมันเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากสำหรับเขา
“ตอนที่คุณแต่งงานกับปาริชาติ ฉันเสียใจมาก ทุกข์มากที่สุดในชีวิต แต่ฉันต้องยอมรับความจริงว่า คุณรักเธอ จะมีประโยชน์อะไรที่จะได้คนที่เขาไม่ได้รักเรา ฉันได้เรียนรู้ว่า ทุกครั้งที่เราเรียกร้องความรัก เราจะทุกข์ใจมาก เราไม่ได้รักเขาจริง ๆ เราแค่อยากให้ได้ดั่งใจเรา ให้ได้สมใจเราเท่านั้น ถ้าความรักของเราคือ การให้ เราจะทุกข์น้อยลง ยิ่งถ้าเรารักอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน เราจะไม่ทุกข์เลย เหมือนกับเวลา ฉันขึ้นรถเมล์แล้วช่วยคนถือของ ฉันมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเขา โดยไม่ต้องหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันชอบความรู้สึกแบบนั้น ฉันแค่อยากจะทำให้ได้แบบนั้นบ้าง”
เขาโอบภรรยาเข้ามากอดไว้ ความดีของเธอทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน
“ได้เวลาทานยาแล้วนะคะ” ปัถยาขยับตัวออกจากอ้อมแขนของเขา หยิบถ้วยยาส่งให้
หนุ่มใหญ่รับถ้วยยามาไว้ในมือด้วยความกังวลใจ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน คนที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือ ลูกชายคนเดียว ที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย แล้วเทยาเข้าปากพร้อมกับดื่มน้ำตามลงไป
“ทำไมคุณถึงต้องโกรธลูกขนาดนี้ ดูคุณไม่ชอบให้ลูกเล่นดนตรีนะคะ” หญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ที่เห็นเขาโกรธมากเมื่อลูกชายพาเพื่อนมาซ้อมดนตรีที่บ้าน
ปัณณวัตร์มีสีหน้าขรึมขึ้นเล็กน้อย
“เพราะ...ผมไม่อยากให้เขาเหมือนปริวัฒน์ ผมไม่เข้าใจทำไมลูกชายของผม ต้องชอบร้องเพลง และเล่นดนตรี ไว้ผมยาวเหมือนมันด้วย” น้ำเสียงนั้นห้วนขึ้นเมื่อเขานึกถึงคนรักของอดีตภรรยาตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งของคณะแพทย์ศาสตร์ หมอนั่นเป็นนักร้องผมยาวคนดังของมหาลัย เขาจึงไม่ชอบให้ลูกชายร้องเพลง และจะอารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็นลูกเล่นดนตรี
“นักร้องไว้ผมยาว ไม่ได้มีแค่ปริวัฒน์คนเดียวซะหน่อย” ปัถยามองหน้าสามีพลางอมยิ้ม
“การ เริ่มหัดร้องเพลงตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ”
“ผมว่า เขาคงหัดร้องเพลงตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เขาแล้วล่ะ เพราะเห็นปาริชาติจะฟังเพลงตลอดตอนเธออุ้มท้อง”
“ตอนที่ปาริชาติท้อง เธอแพ้ท้องไหมคะ ทานอะไรลูกถึงออกมาร้องเพลง เสียงดีขนาดนี้คะ”
ปัณณวัตร์หัวเราะเบา ๆ
“ปาริชาติไม่แพ้ท้องเลยครับ ผมนี่สิ แพ้ท้องแทนเธอ คลื่นไส้อาเจียนบ่อยมาก อยากจะทานแต่อะไรเปรี้ยว ๆ”
“จริงเหรอคะ ทำไมคุณน่ารักขนาดนี้” เธอมองหน้าสามีอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย
“คุณดูนี่สิคะ ลูกชายคุณเขาเป็นคนมีความสามารถนะ” หญิงสาวยกมือถือขึ้นมาเปิดยูทูปให้สามีดู
“เขาแต่งเพลงได้ด้วย” เธอเปิดเพลงให้เขาฟัง เพลงนั้นบอกถึงวิชากายวิภาคที่คนเรียนแพทย์ทุกคนต้องจดจำอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายให้ได้
“มียอดวิวเป็นล้านเลยนะคะ เพลงนี้”
ปัณณวัตร์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เขาเคยดูใบผลการเรียนของลูกชาย วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาปฏิการเรียนได้เกรดดีมาก
“นอกจากเพลงนี้แล้ว ยังมีเพลงอื่น ๆ อีกนะคะ ที่เขาแต่งเกี่ยวกับวิชาที่เขาเรียน หรือไม่ก็เอามาแปลงเนื้อร้องใหม่ทำนองเดิม เพลงนี้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ” เธอเปิดเพลงให้สามีดูเพลงถัดไป เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน คนร้องทำหน้าตากวน ๆ อีกต่างหาก มีทั้งเพลงไทยและเพลงสากล
“ลูกชายคุณเขาน่ารักนะคะ มีความคิดสร้างสรรค์ มีพรสวรรค์ คุณอย่าโกรธลูกเรื่องนี้เลย”
“นี่คุณติดตามลูกผมในยูทูปด้วยเหรอ” เขารู้สึกแปลกใจที่หญิงสาวรู้เรื่องลูกชายของเขาดีกว่าคนเป็นพ่อเสียอีก
“ฉันต้องมาอยู่กับเขานี่คะ ต้องหาข้อมูลบ้างว่าลูกคุณเป็นคนยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เผอิญหลานสาวไปประกวดร้องเพลงด้วย เจอลูกชายคุณ โม้ให้ฟังบ่อยมากเลยค่ะ”
ปัถยามองหน้าสามีอย่างช่างใจ ว่าควรพูดหรือไม่ สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายไม่ได้เครียดที่เธอพูดถึงลูกชายของเขา
“คุณคิดดูสิ ลูกชายคุณไปประกวดร้องเพลง คนอื่นเขามีพ่อแม่มาเชียร์ทั้งนั้น แต่ลูกชายคุณไม่มีเลย คุณอยากไปเชียร์ลูกไหมคะ”
คนถูกถามนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ความคิดนั้นไม่เคยมีอยู่ในสมองของเขาเลย
“ผมต้องดูงานก่อนว่า จะว่างหรือเปล่า คุณอยากไปดูก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องอ้างผมหรอก” หนุ่มใหญ่รู้ดีว่าภรรยาเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ “ไปดูด้วยกันนะคะ” เธอกอดแขนเขาอ้อน เอนศีรษะมาซบที่ต้นแขนของชายหนุ่ม
“ผมขอคิดดูก่อน” เขาตอบเลี่ยงโดยไม่ได้ปฏิเสธตรง ๆ
“ฉันอยากให้คุณพูดกับลูกดี ๆ ใจเย็น ๆ นะคะ”
“เวลาผมเห็นหน้า การ ผมจะสติแตกทุกที มันชอบทำหน้ากวนประสาท คุณไม่เห็นเหรอ” เขารู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะให้พูดดีกับเจ้าลูกชายจอมกวน
“งั้น...ลองซ้อมก่อนนะคะ สมมมติว่า ลูกชายคุณเดินเข้ามา คุณจะพูดว่าไงคะ” ปัถยานึกสนุกรีบขยับตัวนั่งตัวตรงรอฟังหมอหนุ่มพูด
“แกยังจำทางกลับบ้านได้อยู่เหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ประโยคแรกที่ผุดขึ้นมาในสมอง
“คุณ!” เธอยกมือตีแขนสามีเบา ๆ พลางหัวเราะ
“คุณจะเปิดสงครามกับลูกมากกว่านะคะนั่น”
ศัลยแพทย์โรคหัวใจหัวเราะ แกล้งแหย่ภรรยา แต่มันนึกออกแค่นั้นจริง ๆ เขามองหน้าหญิงสาวเธอมักทำให้เรื่องที่เขาไม่ชอบเป็นเรื่องสนุก และทำให้เขาขำได้เสมอ
“เอาใหม่นะคะ”
หนุ่มใหญ่ทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก การวินิจฉัยวิธีรักษาคนไข้ยังไม่ยากเท่านี้เลย
“กลับบ้านได้แล้วเหรอ?” เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“ยังไม่ผ่านค่ะ เอาใหม่ เกือบใช้ได้แล้วค่ะ น้ำเสียงอ่อนลงอีกนิด.....” เธอพูดพลางอมยิ้ม
“กลับมาแล้วเหรอ...”
“ใช้ได้แล้วค่ะ” เธอตบมือให้กำลังใจสามี
“พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมปวดหัวแล้ว” เมื่อเห็นภรรยาทำท่าจะอ้าปากพูดอะไรต่อ
รอยยิ้มบนสีหน้าของเธอจางหายไปทันที มองหน้าชายหนุ่มข้างตัว
“ฉันบังคับคุณหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากมีคนคอยบังคับบ้างมานานแล้วครับ ไม่งั้นผมไม่แต่งงานกับคุณหรอก”
ประโยคนั้นทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่ชอบออกคำสั่งบังคับลูกอย่างเขา จะอยากโดนบังคับบ้างจริงหรือ?
หมอหนุ่มใหญ่โอบไหล่หญิงสาวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มภรรยาเป็นการขอบคุณ ทุกปัญหาที่เขาคุยกับผู้หญิงคนนี้ เธอจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น และสบายใจเสมอ
รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 20 อยากมีคนคอยบังคับนานแล้ว...
ตอนที่ 20
หมอหนุ่มใหญ่เดินเข้ามาในห้องของลูกชายคนเดียว สายตามองไปรอบ ๆ บนฝาผนังเต็มไปด้วยรูปอดีตภรรยาของเขา เมื่อเดินมาหยุดที่หัวเตียงนอนของลูกชาย เอื้อมมือหยิบกรอบรูปที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมา ผู้หญิงในรูปนั้นกำลังยิ้มหวาน เธอสวยมาก
“ปาริชาติ...ผมปล่อยคุณทางกายไปแล้ว ผมจะพยายามปล่อยคุณทางใจ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาสิบเจ็ดปี ขอให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับคนที่คุณรักอย่างมีความสุขนะครับ” แม้ว่าก่อนแต่งงานใหม่ เขาตัดสินใจปลดรูปอดีตภรรยาทั้งหมดแล้ว เพื่อจะลืมเธอ เริ่มต้นชีวิตใหม่ และเพื่อรักษาน้ำใจของผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วย แต่ภาพของเธอ รอยยิ้มของเธอ ความทรงจำในอดีตที่อยู่ด้วยกันนั้น ยังไม่อาจลบเลือนไปจากใจของเขาได้ เขารู้สึกผิดที่ได้ตัวเธอมาจากคนรักเก่าอย่างไม่ถูกต้อง เคยคิดว่า จะทำให้เธอรักเขาได้ แต่เปล่าเลย ที่ปาริชาติยอมแต่งงานและอยู่กับเขาเพราะลูก เธอทุ่มเทความรักทั้งหมดไปที่ลูกคนเดียว เขาวางรูปลงที่เดิมแล้วเดินออกจากห้องไป
ตั้งแต่กลับจากการไปพักร้อน ลูกชายตัวดีก็ไม่ยอมกลับบ้าน แต่ไลน์มาบอกว่า ไปซ้อมดนตรีที่บ้านเพื่อน วันเสาร์นี้จะเข้าประกวดร้องเพลงรอบที่สอง
“คุณไปไหนมาคะ” ภรรยาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นสามีเดินเข้ามาในห้องรับแขก
“ผมไปห้องลูกชายมา” ปัณณวัตร์ย่อกายลงนั่งที่โซฟายาวข้างหญิงสาว
ปัถยาชะงักเล็กน้อย เพราะรู้ดีว่า เวลาที่เขาคิดถึงภรรยาเก่า จะต้องไปห้องของลูกชายเสมอ เพราะมีที่เดียวที่มีรูปของเธออยู่ แม้แต่ในมือถือของเขาก็ลบรูปอดีตภรรยาทิ้งหมดแล้ว
“คุณโกรธผมหรือเปล่าครับ ผมขอโทษนะ” เขาดึงมือภรรยามากุมไว้
“ฉันไม่เคยโกรธคุณเลย เคยบอกคุณแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเอารูปปาริชาติออกนี่คะ” เธอวางมืออีกข้างลงบนหลังมือของสามีแล้วส่งยิ้มให้เขา
“ผมคิดว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ” เขาแต่งงานกับเธอแล้ว หากมีรูปผู้หญิงคนอื่นอยู่ในบ้านมันไม่ยุติธรรมสำหรับเธอเลย
“ความรักของฉัน คืออยากให้คุณมีความสุข แค่ได้อยู่กับคุณ ดูแลคุณ ฉันก็มีความสุขมากที่สุดแล้วค่ะ”
“คุณเก่งจัง คุณทำได้ยังไงครับ” หมอหนุ่มใหญ่มองเธออย่างทึ่ง การเห็นคนที่คนรักอยู่กับคนอื่นมันเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากสำหรับเขา
“ตอนที่คุณแต่งงานกับปาริชาติ ฉันเสียใจมาก ทุกข์มากที่สุดในชีวิต แต่ฉันต้องยอมรับความจริงว่า คุณรักเธอ จะมีประโยชน์อะไรที่จะได้คนที่เขาไม่ได้รักเรา ฉันได้เรียนรู้ว่า ทุกครั้งที่เราเรียกร้องความรัก เราจะทุกข์ใจมาก เราไม่ได้รักเขาจริง ๆ เราแค่อยากให้ได้ดั่งใจเรา ให้ได้สมใจเราเท่านั้น ถ้าความรักของเราคือ การให้ เราจะทุกข์น้อยลง ยิ่งถ้าเรารักอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน เราจะไม่ทุกข์เลย เหมือนกับเวลา ฉันขึ้นรถเมล์แล้วช่วยคนถือของ ฉันมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเขา โดยไม่ต้องหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันชอบความรู้สึกแบบนั้น ฉันแค่อยากจะทำให้ได้แบบนั้นบ้าง”
เขาโอบภรรยาเข้ามากอดไว้ ความดีของเธอทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน
“ได้เวลาทานยาแล้วนะคะ” ปัถยาขยับตัวออกจากอ้อมแขนของเขา หยิบถ้วยยาส่งให้
หนุ่มใหญ่รับถ้วยยามาไว้ในมือด้วยความกังวลใจ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน คนที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือ ลูกชายคนเดียว ที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย แล้วเทยาเข้าปากพร้อมกับดื่มน้ำตามลงไป
“ทำไมคุณถึงต้องโกรธลูกขนาดนี้ ดูคุณไม่ชอบให้ลูกเล่นดนตรีนะคะ” หญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ที่เห็นเขาโกรธมากเมื่อลูกชายพาเพื่อนมาซ้อมดนตรีที่บ้าน
ปัณณวัตร์มีสีหน้าขรึมขึ้นเล็กน้อย
“เพราะ...ผมไม่อยากให้เขาเหมือนปริวัฒน์ ผมไม่เข้าใจทำไมลูกชายของผม ต้องชอบร้องเพลง และเล่นดนตรี ไว้ผมยาวเหมือนมันด้วย” น้ำเสียงนั้นห้วนขึ้นเมื่อเขานึกถึงคนรักของอดีตภรรยาตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งของคณะแพทย์ศาสตร์ หมอนั่นเป็นนักร้องผมยาวคนดังของมหาลัย เขาจึงไม่ชอบให้ลูกชายร้องเพลง และจะอารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็นลูกเล่นดนตรี
“นักร้องไว้ผมยาว ไม่ได้มีแค่ปริวัฒน์คนเดียวซะหน่อย” ปัถยามองหน้าสามีพลางอมยิ้ม
“การ เริ่มหัดร้องเพลงตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ”
“ผมว่า เขาคงหัดร้องเพลงตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เขาแล้วล่ะ เพราะเห็นปาริชาติจะฟังเพลงตลอดตอนเธออุ้มท้อง”
“ตอนที่ปาริชาติท้อง เธอแพ้ท้องไหมคะ ทานอะไรลูกถึงออกมาร้องเพลง เสียงดีขนาดนี้คะ”
ปัณณวัตร์หัวเราะเบา ๆ
“ปาริชาติไม่แพ้ท้องเลยครับ ผมนี่สิ แพ้ท้องแทนเธอ คลื่นไส้อาเจียนบ่อยมาก อยากจะทานแต่อะไรเปรี้ยว ๆ”
“จริงเหรอคะ ทำไมคุณน่ารักขนาดนี้” เธอมองหน้าสามีอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย
“คุณดูนี่สิคะ ลูกชายคุณเขาเป็นคนมีความสามารถนะ” หญิงสาวยกมือถือขึ้นมาเปิดยูทูปให้สามีดู
“เขาแต่งเพลงได้ด้วย” เธอเปิดเพลงให้เขาฟัง เพลงนั้นบอกถึงวิชากายวิภาคที่คนเรียนแพทย์ทุกคนต้องจดจำอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายให้ได้
“มียอดวิวเป็นล้านเลยนะคะ เพลงนี้”
ปัณณวัตร์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เขาเคยดูใบผลการเรียนของลูกชาย วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาปฏิการเรียนได้เกรดดีมาก
“นอกจากเพลงนี้แล้ว ยังมีเพลงอื่น ๆ อีกนะคะ ที่เขาแต่งเกี่ยวกับวิชาที่เขาเรียน หรือไม่ก็เอามาแปลงเนื้อร้องใหม่ทำนองเดิม เพลงนี้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ” เธอเปิดเพลงให้สามีดูเพลงถัดไป เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน คนร้องทำหน้าตากวน ๆ อีกต่างหาก มีทั้งเพลงไทยและเพลงสากล
“ลูกชายคุณเขาน่ารักนะคะ มีความคิดสร้างสรรค์ มีพรสวรรค์ คุณอย่าโกรธลูกเรื่องนี้เลย”
“นี่คุณติดตามลูกผมในยูทูปด้วยเหรอ” เขารู้สึกแปลกใจที่หญิงสาวรู้เรื่องลูกชายของเขาดีกว่าคนเป็นพ่อเสียอีก
“ฉันต้องมาอยู่กับเขานี่คะ ต้องหาข้อมูลบ้างว่าลูกคุณเป็นคนยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เผอิญหลานสาวไปประกวดร้องเพลงด้วย เจอลูกชายคุณ โม้ให้ฟังบ่อยมากเลยค่ะ”
ปัถยามองหน้าสามีอย่างช่างใจ ว่าควรพูดหรือไม่ สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายไม่ได้เครียดที่เธอพูดถึงลูกชายของเขา
“คุณคิดดูสิ ลูกชายคุณไปประกวดร้องเพลง คนอื่นเขามีพ่อแม่มาเชียร์ทั้งนั้น แต่ลูกชายคุณไม่มีเลย คุณอยากไปเชียร์ลูกไหมคะ”
คนถูกถามนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ความคิดนั้นไม่เคยมีอยู่ในสมองของเขาเลย
“ผมต้องดูงานก่อนว่า จะว่างหรือเปล่า คุณอยากไปดูก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องอ้างผมหรอก” หนุ่มใหญ่รู้ดีว่าภรรยาเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ “ไปดูด้วยกันนะคะ” เธอกอดแขนเขาอ้อน เอนศีรษะมาซบที่ต้นแขนของชายหนุ่ม
“ผมขอคิดดูก่อน” เขาตอบเลี่ยงโดยไม่ได้ปฏิเสธตรง ๆ
“ฉันอยากให้คุณพูดกับลูกดี ๆ ใจเย็น ๆ นะคะ”
“เวลาผมเห็นหน้า การ ผมจะสติแตกทุกที มันชอบทำหน้ากวนประสาท คุณไม่เห็นเหรอ” เขารู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะให้พูดดีกับเจ้าลูกชายจอมกวน
“งั้น...ลองซ้อมก่อนนะคะ สมมมติว่า ลูกชายคุณเดินเข้ามา คุณจะพูดว่าไงคะ” ปัถยานึกสนุกรีบขยับตัวนั่งตัวตรงรอฟังหมอหนุ่มพูด
“แกยังจำทางกลับบ้านได้อยู่เหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ประโยคแรกที่ผุดขึ้นมาในสมอง
“คุณ!” เธอยกมือตีแขนสามีเบา ๆ พลางหัวเราะ
“คุณจะเปิดสงครามกับลูกมากกว่านะคะนั่น”
ศัลยแพทย์โรคหัวใจหัวเราะ แกล้งแหย่ภรรยา แต่มันนึกออกแค่นั้นจริง ๆ เขามองหน้าหญิงสาวเธอมักทำให้เรื่องที่เขาไม่ชอบเป็นเรื่องสนุก และทำให้เขาขำได้เสมอ
“เอาใหม่นะคะ”
หนุ่มใหญ่ทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก การวินิจฉัยวิธีรักษาคนไข้ยังไม่ยากเท่านี้เลย
“กลับบ้านได้แล้วเหรอ?” เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“ยังไม่ผ่านค่ะ เอาใหม่ เกือบใช้ได้แล้วค่ะ น้ำเสียงอ่อนลงอีกนิด.....” เธอพูดพลางอมยิ้ม
“กลับมาแล้วเหรอ...”
“ใช้ได้แล้วค่ะ” เธอตบมือให้กำลังใจสามี
“พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมปวดหัวแล้ว” เมื่อเห็นภรรยาทำท่าจะอ้าปากพูดอะไรต่อ
รอยยิ้มบนสีหน้าของเธอจางหายไปทันที มองหน้าชายหนุ่มข้างตัว
“ฉันบังคับคุณหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากมีคนคอยบังคับบ้างมานานแล้วครับ ไม่งั้นผมไม่แต่งงานกับคุณหรอก”
ประโยคนั้นทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่ชอบออกคำสั่งบังคับลูกอย่างเขา จะอยากโดนบังคับบ้างจริงหรือ?
หมอหนุ่มใหญ่โอบไหล่หญิงสาวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มภรรยาเป็นการขอบคุณ ทุกปัญหาที่เขาคุยกับผู้หญิงคนนี้ เธอจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น และสบายใจเสมอ