JJNY : คนส่วนใหญ่สับสนข้อมูลบริหารวัคซีน รบ.│‘เอกชนภูเก็ต’กุมขมับ│ยันปชช.วิจารณ์รัฐได้โดยสุจริต│อาลัย10ตำนานความอร่อย

สวนดุสิตโพล พบคนส่วนใหญ่สับสนข้อมูลการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลมากที่สุด
https://www.infoquest.co.th/2021/110011
 
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “ข่าวสารในช่วงวิกฤติโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,619 คน ระหว่างวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2564 พบว่า ประชาชนสนใจข่าวประสิทธิภาพของวัคซีนและอาการข้างเคียงมากที่สุด ร้อยละ 72.41 เลือกเชื่อถือข้อมูลจากแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ร้อยละ 65.30 ข้อมูลข่าวสารทำให้รู้สึกสับสนมาก ร้อยละ 43.99 โดยสับสนข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล การจองและเลื่อนฉีดวัคซีนมากที่สุด ร้อยละ 74.61 เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารจะดูแลตัวเองมากขึ้น ร้อยละ 90.78 และภาพรวมเมื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารแล้วรู้สึกวิตกกังวลมากจนเริ่มรบกวนชีวิตประจำวัน ร้อยละ 36.34
 
ในขณะที่พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กำหนดบทลงโทษที่ไม่น้อย หากมีการแชร์หรือโพสต์ข้อความผิดกฎหมาย แต่ประชาชนก็ยังมีความเชื่อถือข้อมูลจากแหล่งสื่อโซเชียลมากขึ้น ถึงแม้ว่าการรับรู้ข้อมูลจำนวนมากเหล่านั้นจะทำให้เกิดความสับสนหรือวิตกกังวลอย่างมากตามมาก็ตาม ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารจัดการข้อมูลของภาครัฐนั้นยังไม่ตรงใจประชาชน การสื่อสารที่ล่าช้าและเปลี่ยนแปลงข้อมูลไปมาจึงเป็นจุดอ่อนหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว
 
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายบริหารจัดการวัคซีนที่เป็นสูตรผสมระหว่าง Sinovac เข็มที่ 1 กับ AstraZeneca เข็มที่ 2 รวมถึงได้ออกมาตรการควบคุมสูงสุดในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง จากผลการสำรวจประชาชนจึงให้ความสนใจเกี่ยวกับวัคซีนและมาตรการของภาครัฐ โดยพบว่าประชาชนสับสนกับข้อมูลข่าวสารในช่วงนี้จนทำให้มีความรู้สึกวิตกกังวล เมื่อรัฐบาลบริหารงานแบบรวมอำนาจที่นายกรัฐมนตรี การให้ข่าวสารก็ควรมาจากคณะกรรมการ ชุดใหญ่เพียงเท่านั้น โดยมีกรมสุขภาพจิตเข้ามามีบทบาทช่วยในการรับมือภาวะความเครียดและการวิตกกังวลของประชาชน มิเช่นนั้นอาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตและส่งผลถึงการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นตามมา
 
เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารแล้วประชาชนต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ยิ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการบริหารจัดการของภาครัฐ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีมาตรฐานในการสื่อสารให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ามีระบบที่พร้อมดูแลช่วยเหลือในช่วงวิกฤติโรคระบาดในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์เองก็ต้องเข้ามามีบทบาทและเอาจริงเอาจังกับการควบคุมราคาสินค้า เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงสภาวะวิกฤติในปัจจุบัน
 
********

กระทู้ผลโพลอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
ข่าวสารในช่วงวิกฤติโควิด-19
https://pantip.com/topic/40863438


 
‘เอกชนภูเก็ต’ กุมขมับ หลังล็อกดาวน์-ยกระดับคุมเข้ม ทำนักท่องเที่ยวไทยเป็นศูนย์ แถมต่างชาติไม่เข้าเป้า
https://www.matichon.co.th/economy/news_2847868
 
‘เอกชนภูเก็ต’ กุมขมับ หลังล็อกดาวน์-ยกระดับคุมเข้ม ทำนักท่องเที่ยวไทยเป็นศูนย์ แถมต่างชาติไม่เข้าเป้า
 
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้หารือถึงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในจังหวัด หลังจากเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 20 คนภายใน 1 วัน แบ่งเป็นคนไทย 18 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คน จึงมีมติว่า ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2564 จังหวัดภูเก็ตจะยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการเดินทางเข้าภูเก็ตจาก 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร และคนภูเก็ตเองด้วย โดยผู้ที่จะเดินทางเข้ามา ต้องมีหลักฐานผลการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าพื้นที่ด้วย ในส่วนของเยาวชนที่อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 18 ปี ไม่ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีน เพราะยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ มาไม่เกิน 72 ชั่วโมงเช่นกัน เมื่อประเมินร่วมกับมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัดเสี่ยงสูงของรัฐบาล ส่งผลให้นักท่องเที่ยวคนไทยหายไปเป็นศูนย์ เนื่องจากการระบาดโควิดรุนแรงขึ้น จนคนไม่สามารถเดินทางได้ มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบิน รวมถึงรถโดยสารสาธารณะ ขณะนี้การท่องเที่ยวในภูเก็ต จึงมีเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาผ่านโครงการภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ เท่านั้น โดยทั้งเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา จำนวน 17,000 กว่าคน แต่เมื่อประเมินสถานการณ์ขณะนี้ คาดว่าคงไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่อาจใกล้เคียงกับจำนวนดังกล่าวได้
 
นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากเริ่มโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ มีผู้ประกอบการโรงแรมทั้งระดับ 4-5 ดาว และ 2-3 ดาว ที่เปิดให้บริการ จำนวน 30,000 ห้อง ซึ่งถือว่ากระจายตัวได้ดี เนื่องจากเห็นการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงแรมหลายระดับ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ถือว่าผู้ประกอบการก็พอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากกว่านี้ แต่เข้าใจว่ายังมีข้อจำกัดอยู่มาก โดยเฉพาะสถานการณ์การระบาดโควิดในประเทศไทย การล็อกดาวน์ในจังหวัดเสี่ยงสูง 13 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดถือว่ามีความสำคัญในการกระจายการเดินทาง รวมถึงการระบาดโควิดในต่างประเทศตอนนี้ก็ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้นักท่องเที่ยวจึงยังเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร เนื่องจากต้องมีการเตรียมเอกสาร ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น ทำให้การฟื้นท่องเที่ยวในตอนนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนในอดีต จึงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดต่อไป
 
“ยังคาดหวังว่า ไตรมาส 4/2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูหนาวที่จะมีนักท่องเที่ยวขาประจำจากยุโรป หนีหนาวมาเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าหลักอยู่แล้ว ทำให้เวลานับจากนี้ จนกว่าจะถึงไตรมาสสุดท้ายของปี หากรัฐบาลสามารถควบคุมการระบาดโควิด-19 ในภาพรวมทั่วประเทศได้ดี ยอดผู้ติดเชื้อลดลง ก็มีโอกาสที่ต่างชาติจะกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยเบื้องต้นประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 4 จะฟื้นตัวกลับมาได้ 30-40% หรือจำนวน 3-4 แสนคนต่อเดือนได้ จากเดิมที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภูเก็ตกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งคาดหวังว่าจะเห็นตัวเลขดังกล่าวทยอยกลับมา” นายก้องศักดิ์ กล่าว



'ทนายอนันต์ชัย' ยัน ปชช. วิจารณ์รัฐได้โดยสุจริต ฝาก ตร.ดูข้อเท็จจริง-กม.-จรรยาบรรณ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2848002
 
‘ทนายอนันต์ชัย’ ยัน ปชช. วิจารณ์รัฐได้โดยสุจริต ฝาก ตร.ดูข้อเท็จจริง-กม.-จรรยาบรรณ
 
หลังจากมีข่าวว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกมาติงเรื่องที่กลุ่มดารา นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล โดยมองว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล และสร้างเฟกนิวส์ในระบบโซเชียลนั้น
 
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในประเด็นการวิจารณ์รัฐบาล ระบุว่า
 
# ผม…ขอฝากถาม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย !
จริงหรือครับ ที่ท่านกล่าวว่า…
 
“ตำรวจเตือนห้ามวิจารณ์รัฐบาล”
สมัยนี้คนไทยเขารู้ทันกฎหมายกันหมดแล้ว…
 
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329
“ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต…(3) ติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทครับ”
 
นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะ มีสิทธิ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานได้ ไม่ผิดกฎหมาย ขออย่างเดียวอย่าด่าเรื่องส่วนตัวเป็นพอครับ(ติดคุก)
 
ผมเป็นทนายความมาเกือบทั้งชีวิต ตลอดเวลาที่ทำงานมากว่า 36 ปี จบนิติศาสตร์บัณฑิต นิติศาสตร์มหาบัณฑิต และเนติบัณฑิต เห็นโพสต์ “ตำรวจเตือนห้ามวิจารณ์ ! นายกฯ-รองนายกฯ” แล้วตกใจครับ ทำไมท่านถึงออกตัวแรงขนาดนี้ กล้าปกป้องการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ทั้ง ๆที่ท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่า การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลโดยสุจริตมันไม่ผิดกฎหมาย ท่านคิดว่าประชาชนเป็นอะไรหรือครับ จะโพสต์เตือน(ขู่) อย่างไรก็ได้
#คำแนะนำเพิ่มเติม#
 
ฝากให้ท่านไปช่วยดู “จรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน” ที่ต้องประพฤติปฏิบัติควบคู่ไป กับอุดมคติตำรวจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและสังคมส่วนรวม
(๑) พนักงานสอบสวนต้องเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
(๒) พนักงานสอบสวนต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดมั่นในศีลธรรม
(๓) พนักงานสอบสวนต้องอำนวยความยุติธรรม ด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง โปร่งใส และเป็นธรรมโดยปราศจากอคติ
(๔) พนักงานสอบสวนต้องกล้ายืนหยัดกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง
(๕) พนักงานสอบสวนพึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ และอดทน เพื่อประโยชน์แห่งการอำนวยความยุติธรรม
(๖) พนักงานสอบสวนพึงมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ด้วยความสุภาพอ่อนโยนมีไมตรีจิต และเต็มใจให้บริการประชาชน
(๗) พนักงานสอบสวนพึงหมั่นศึกษาหาความรู้และพัฒนานเองตลอดเวลา
(๘) พนักงานสอบสวนพึงสำนึก และยึดมั่นในวิชาชีพการสอบสวน มีความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีและวิชาชีพของตนเอง
(ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน พ.ศ. ๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๔)
 
ท่องให้ขึ้นใจปฏิบัติให้ได้รับรองไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นตำรวจของพระราชาครับ
ท่านอย่าทำตัวเป็นศาลยุติธรรม ออกมาตัดสินเสียเองว่า หากประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ด้วยประโยคที่ท่านว่าแล้วจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย…มันอยู่ที่เจตนาครับ
 
ผมขอยืนยันว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของเขาได้โดยสุจริต
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
( ทนายกระดูกเหล็ก )
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2928152320836581&id=1606814442970382
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่