- คือผมที่ขับรถไปกางเต็นท์ ก็หวังว่าจะได้ที่กางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติ มีความปลอดภัยสูง เหมาลานคือ กางเต็นท์นอนคนเดียว กรนดังแค่ไหนก็ไม่สร้างโทสะอกุศลให้กับเพื่อนร่วมกางเต็นท์ มีอยู่หลายที่ด้วยกันที่สมใจคือ กางเต็นท์นอนคนเดียวในค่ำคืน จริงๆก็อยากลองทำตามพระธุดงค์ดูว่าจะสามารถใช้ความสงบเงียบวังเวงทำให้สัปปายะต่อการปฏิบัติภาวนาได้หรือไม่ ก็เจอที่เงียบๆเช่น
- อ่าวกระทิง จันทบุรี ผมแบกของลงไปกางเต็นท์ก็อ๊วกนะครับ เมื่อกางเต็นท์เสร็จกางริมชายทะเลขอบเก่าน้ำทะเลเลย ลองดู เมื่อกางเสร็จก็ออกไปอาบน้ำ กลับมา เห็นรอยงูเล็กเลื้อยลงรูที่พื้นหน้าเต็นท์ ทีนี้ ที่นี่มีป้ายประกาศครับ ว่าให้ระวังงูพิษ และให้ระวังแมงกะพรุน เมื่อเห็นรอยงูเลื้อยตอนออกไปอาบน้ำยังไม่มี แต่ตอนอาบน้ำเสร็จแล้วมีรอยใหม่ๆเลย แต่งูน่าจะตัวเล็ก ก็เลยพิจารณาครับ จะทำยังไงดี จะย้ายเต็นท์หรือไม่ พิจารณาแล้วก็เลยไม่ย้าย ต้องอยู่กับงูให้ได้ครับ ก็ไม่มีอะไร คืนนั้นน้ำขึ้น น้ำทะเลซัดขอบหน้าเต็นท์เลย แต่ทว่าไม่มีปัญหาเรื่องการหลับนอน ตื่นมาถึงเห็นร่องรอยน้ำทะเลซัดชายขอบพื้นหน้าเต็นท์ ในคืนนั้น ได้เปิดเอ็มพี3 ฟังปฏิสัมภิทามรรค แล้วก็นั่งวิปัสสนาครั้งหนึ่งก่อนนอน และตื่นมาตอนดึกๆอีกหนึ่งรอบ และตอนตีห้าอีกหนึ่งรอบ ในตอนเช้าเจ็ดแปดโมง เจ้าหน้าที่อุทยานก็มาถามว่า เมื่อวานเจออะไรไหม ผมตอบว่า ไม่เจอครับ มีแต่กลิ่นปลาเน่าโชยคละคลุ้งมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เมื่อถามอย่างนี้ ก็เลยขอนอนต่ออีกคืนหนึ่ง คืนที่สองก็ปกติ ไม่ย้ายเพราะวันแรกเต็นท์ไม่พัง คืนที่สองก็ปฏิบัติตามปกติครับ
- ที่จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติ ภูลังกา พเยาว์ กางเต็นท์แบบกางง่ายเต็นท์โยน กางฟลายชีทกันน้ำฝนไว้ และก็นอนคนเดียว เหมือนเดิมครับ เปิดฟังปฏิสัมภิทามรรค แล้วก็นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในตอนหัวค่ำรู้สึกกลัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เลยพิจารณาตัวตนของผม ว่าจริงๆแล้วก็ไม่มีค่าอะไร ก็มีค่าแค่เพียงมดปลวดเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้อย่างนี้แล้ว ก็นอนหลับสบายครับ ตื่นตอนดึกก็มานั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานพิจารณาลมหายใจเข้าออก และตอนตีห้าอีกรอบครับ
- บางทีก็นอนโรงแรม ก็วิปัสสนาก่อนนอน ตอนดึก ตอนก่อนเช้า
- บางทีไปที่วัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง ไปเจอโบสถ์ไม้บนเขา เห็นความสงบเงียบดี ก็นั่งวิปัสสนาต่อหน้าพระพุทธรูป ได้นิดหนึ่งหน่อยหนึ่งก็ยังดีครับ ก็เงียบสงบดี
- ไปวัดภูทอก บึงกาฬ ก็ไปเดินจงกลมบนชั้นที่ 5 ที่ 6 และนั่งวิปัสสนาที่ศาลาพระอรหันต์ ชั้น 5 ก็ได้รับความสงบรู้สึกพึงพอใจที่ได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ด้วยตนเองนะครับ
- หลายๆที่ เช่น อ.แม่สาย ตื่นมาเห็นพระมาบิณฑบาท 8 รูป มองเห็นหมูย่างข้าวเหนียว รีบไปสั่ง 8 ชุดจัดเต็ม เสร็จแล้วก็ตักบาตรถวายพระ และไม่รับพรใดๆ
- เช่นปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ขณะกำลังรอรถตู้กลับแม่ฮ่องสอน เห็นพระบิณฑบาท 4 รูป สั่งไก่ทอดข้าวเหนียว 4 ชุด เสร็จแล้ววิ่งไปตักบาตรพระ และไม่รับพรจากพระใดๆ
- ที่บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน แช่น้ำร้อนเสร็จเห็นพระเดินมาบิณฑบาทองค์เดียว ก็รีบวิ่งไปหาของทานในรถ ได้ขนมถุงขนมปังหลายอย่างอยู่ ก็รีบไปตักบาตรถวายพระ และไม่ขอรับพร
- ที่ อ.สวนผึ้ง พาเมียไปกางเต็นท์ แต่เมื่อตอนกลับ ก็ยังไม่ได้ถวายผ้าห่มพระจำไม่ได้กี่ผืน พอเจอวัดก็เข้าไปถวายกับหลวงพ่อซึ่งกำลังขึ้นจะสวดงานศพพอดี ก็ถวายเสร็จก็ออกมา แต่ได้ยินเสียงท่านให้พรอยู่ก็เลยพนมมือรับพร
- ที่ ทางขึ้นอ่างขาง ผมขับรถไป ตั้งใจว่า จะถวายมุ้งโครงลวด 4 มุ้งแบบกลมๆกางไว ให้พระในสำนักสงฆ์ เมื่อเจอก็เลี้ยวรถเข้าไป ถามลูกศิษย์ว่าพระท่านกำลังอาบน้ำอยู่ เลยมอบให้ลูกศิษย์ไปถวายพระ แล้วก็ขับไปอ่างขางต่อ
- ที่ เมืองกาญจนบุรี พาเมียและลูก ไปถวายผ้าไตรสีแบบพระราชนิยม จำนวน 4 ผืนใหญ่ ให้เจ้าอาวาสวัดไทรโยคริมน้ำ
- ที่วัดท่าตอน เดินแบบเป้ขึ้นไป เห็นพระเณรแปดรูปยืนถือบาตรเรียงรอตักบาตร ผมก็จัดเต็มถวายสิ่งของที่วัดจัดเตรียมไว้ ถวายให้พระกับเณร
- ที่อำเภอแม่สอด วันหนึ่งผมไปราชการ ไปเจอพระกับเณรองค์เล็กๆจิ๋วๆกำลังเรียนกันอยู่ด้วยความปิติ จึงถวายเงินทั้งหมดในกระเป๋าตังค์ ให้วัดเพื่ออุดหนุนการศึกษาพระธรรมของเณรน้อยมากมายเหล่านั้น
- ที่ชุมพร เดินเล่นไปเจอวัด วันพระ เออดีลองเข้าไปดูและร่วมกิจกรรม ก็ได้สวดมนต์ ฟังธรรม นั่งสมาธิ ในวันพระ ก็นั่งนึกว่าต่อไปก็คงทำกิจกรรมร่วมกับญาติโยมในวันพระมั่ง เหมือนกับได้นั่งอยู่กับพวกเทวดาฟังธรรมปฏิบัติธรรม ในการเทศน์ของหลวงพ่อก็นั่งฟังอย่างใจจดจ่อพิจารณาคำสอนไป แต่เมื่อมีปัญหาสงสัย รอจนท่านเทศน์จบและเดินออกมาแล้วก็เข้าไปถามเรื่อง โสดามัค ของท่านมาจากตำราไหน ท่านบอกว่าให้ไปเรียนใหม่
- เมื่อเรียนพระอภิธรรมจบ อยากลองดูว่า กลัวตายไหม เลย ลองบินไปโตเกียว 6.5 ชั่วโมงดู คำตอบคือ ไม่กลัวตายแล้ว
- วันหนึ่ง เมื่อลูกชายจะไปอยู่นอกบ้าน ก็เลยนึกว่า จะหาพระพุทธรูปสวยๆและปลุกเสกดีๆให้ แต่ระลึกได้ว่า ทำไมต้องปลุกเสกด้วย เลยเลิกคิดไป
- วันหนึ่งตอนเออรี่รีไทร์ใหม่ๆ เมื่อเดินขึ้นเขาหลวงสุโขทัย เห็น ศาล เห็นชุดไทยแขวนเต็มไปหมด หลายๆจุด ก็ไม่ได้ไหว้ เข้าเขาใหญ่ก็ไม่ได้ไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ไปที่ไหนๆก็ไม่ได้ไหว้เจ้าพ่อที่ไหนเลย จะฉี่ก็ไม่ไหว้ก่อนฉี่ในป่าแล้วเหมือนเมื่อก่อนที่ไหว้หมด
- คุยเล่นๆนะครับ ก่อนขึ้นบทที่ 8/17 ก่อนที่จะกู่ไม่กลับ
- แต่อย่างไรก็ตาม ตอนที่วิปัสสนาแล้วเกิดฟุ้งซ่านคิดขึ้นมา ก็คิดแต่เรื่องนี้แหละครับ นี่นาม นี่รูป นี่ปัจจัยอะไร อาจารย์สอนว่าเป็นปัจจุบันแท้จริงต้องเป็นอารมณ์อะไร จำได้ไม่ได้มั่งตอนนั้น ก็ค่อยมาตามรู้เอาทบทวนเอาในภายหลัง หยุดคิดหยุดฟุ้งซ่านได้แล้วก็ปฏิบัติกายานุปัสสนาสติปัฏฐานต่อไป บางคราวก็เป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน บางคราวก็เป็น จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน บางคราวก็เป็นธัมมานปัสสนาสติปัฏฐาน ครับ ถูกบ้างไม่ถูกบ้างก็มาทบทวนต่อไปในปริจเฉทที่ 9 ของ พระอภิธัมมัตตสังคหะต่อไป ได้แค่ไหนก็แค่นั้น สอบอารมณ์ตนเองหลังจากหยุดนั่งแล้วตามหลักวิชาในพระอภิธรรมที่พอจำได้บ้างก็ได้บ้างนิดหน่อยนะครับตามความรู้ความเข้าใจที่มีนิดนิดหน่อยหน่อย
-ชีวิตของคนแก่ ย่าง61ปี (มีสัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะเพราะเกษียณแล้วไม่ทำอะไรอีกแล้ว)ถ้าโชคดีรอดตายได้ในคราวนี้(โควิด) ก็จะเป็นอย่างที่คุยไว้ข้างต้นต่อไปต่อไป และพ่วงเมียไปด้วย ขับรถไปเที่ยวด้วย ทำบุญแบบไม่มีโลภะ โทสะ โมหะประกอบด้วยต่อไปนะครับ นั่งร่วมกับเทวดา(อุบาสก อุบาสิกาแต่งชุดขาวในโบสถ์ที่ได้สังฆกรรมร่วมกัน)ในวันพระในวัด จนกระทั่งถึงที่สุดของชีวิตนี้ในภพนี้ครับ
- กู่ไม่กลับแล้วครับ
- ปล.นึกได้ ตอนลงทัวส์ที่บึงกาฬ เจอพระแก่ๆรูปหนึ่งบิณฑบาท นึกได้ว่ามีข้าวเหนียวหมูปิ้งในเป้ จึงนำออกมาถวาย พอฝนตกเห็นพระตากฝนเดินบิณฑบาท ก็เลยซื้อกับข้าว 5 ชุดเข้าไปในวัดไปถวายพระ ออกมา ก็มาเหมารถสกายแล็บ1000บาทไปวัดภูทอกแต่แวะร้านข้าวมันไก่ก่อน สั่ง10กล่องแล้วรีบบึ่งไปถวายพระป่าวัดภูทอก คนขับดันหลงทาง เมื่อไปถึงวัดเอาไปให้แม่ครัววัด แม่ครัวบอกว่า พระท่านฉันตั้งแต่ 7 โมงแล้วพระป่าฉันมื๊อเดียวก็เลยยกให้แม่ครัวไปแจกจ่ายทานกัน จบ
พูดคุยก่อนไปต่อ(กู่ไม่กลับ)
- อ่าวกระทิง จันทบุรี ผมแบกของลงไปกางเต็นท์ก็อ๊วกนะครับ เมื่อกางเต็นท์เสร็จกางริมชายทะเลขอบเก่าน้ำทะเลเลย ลองดู เมื่อกางเสร็จก็ออกไปอาบน้ำ กลับมา เห็นรอยงูเล็กเลื้อยลงรูที่พื้นหน้าเต็นท์ ทีนี้ ที่นี่มีป้ายประกาศครับ ว่าให้ระวังงูพิษ และให้ระวังแมงกะพรุน เมื่อเห็นรอยงูเลื้อยตอนออกไปอาบน้ำยังไม่มี แต่ตอนอาบน้ำเสร็จแล้วมีรอยใหม่ๆเลย แต่งูน่าจะตัวเล็ก ก็เลยพิจารณาครับ จะทำยังไงดี จะย้ายเต็นท์หรือไม่ พิจารณาแล้วก็เลยไม่ย้าย ต้องอยู่กับงูให้ได้ครับ ก็ไม่มีอะไร คืนนั้นน้ำขึ้น น้ำทะเลซัดขอบหน้าเต็นท์เลย แต่ทว่าไม่มีปัญหาเรื่องการหลับนอน ตื่นมาถึงเห็นร่องรอยน้ำทะเลซัดชายขอบพื้นหน้าเต็นท์ ในคืนนั้น ได้เปิดเอ็มพี3 ฟังปฏิสัมภิทามรรค แล้วก็นั่งวิปัสสนาครั้งหนึ่งก่อนนอน และตื่นมาตอนดึกๆอีกหนึ่งรอบ และตอนตีห้าอีกหนึ่งรอบ ในตอนเช้าเจ็ดแปดโมง เจ้าหน้าที่อุทยานก็มาถามว่า เมื่อวานเจออะไรไหม ผมตอบว่า ไม่เจอครับ มีแต่กลิ่นปลาเน่าโชยคละคลุ้งมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เมื่อถามอย่างนี้ ก็เลยขอนอนต่ออีกคืนหนึ่ง คืนที่สองก็ปกติ ไม่ย้ายเพราะวันแรกเต็นท์ไม่พัง คืนที่สองก็ปฏิบัติตามปกติครับ
- ที่จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติ ภูลังกา พเยาว์ กางเต็นท์แบบกางง่ายเต็นท์โยน กางฟลายชีทกันน้ำฝนไว้ และก็นอนคนเดียว เหมือนเดิมครับ เปิดฟังปฏิสัมภิทามรรค แล้วก็นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในตอนหัวค่ำรู้สึกกลัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เลยพิจารณาตัวตนของผม ว่าจริงๆแล้วก็ไม่มีค่าอะไร ก็มีค่าแค่เพียงมดปลวดเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้อย่างนี้แล้ว ก็นอนหลับสบายครับ ตื่นตอนดึกก็มานั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานพิจารณาลมหายใจเข้าออก และตอนตีห้าอีกรอบครับ
- บางทีก็นอนโรงแรม ก็วิปัสสนาก่อนนอน ตอนดึก ตอนก่อนเช้า
- บางทีไปที่วัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง ไปเจอโบสถ์ไม้บนเขา เห็นความสงบเงียบดี ก็นั่งวิปัสสนาต่อหน้าพระพุทธรูป ได้นิดหนึ่งหน่อยหนึ่งก็ยังดีครับ ก็เงียบสงบดี
- ไปวัดภูทอก บึงกาฬ ก็ไปเดินจงกลมบนชั้นที่ 5 ที่ 6 และนั่งวิปัสสนาที่ศาลาพระอรหันต์ ชั้น 5 ก็ได้รับความสงบรู้สึกพึงพอใจที่ได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ด้วยตนเองนะครับ
- หลายๆที่ เช่น อ.แม่สาย ตื่นมาเห็นพระมาบิณฑบาท 8 รูป มองเห็นหมูย่างข้าวเหนียว รีบไปสั่ง 8 ชุดจัดเต็ม เสร็จแล้วก็ตักบาตรถวายพระ และไม่รับพรใดๆ
- เช่นปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ขณะกำลังรอรถตู้กลับแม่ฮ่องสอน เห็นพระบิณฑบาท 4 รูป สั่งไก่ทอดข้าวเหนียว 4 ชุด เสร็จแล้ววิ่งไปตักบาตรพระ และไม่รับพรจากพระใดๆ
- ที่บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน แช่น้ำร้อนเสร็จเห็นพระเดินมาบิณฑบาทองค์เดียว ก็รีบวิ่งไปหาของทานในรถ ได้ขนมถุงขนมปังหลายอย่างอยู่ ก็รีบไปตักบาตรถวายพระ และไม่ขอรับพร
- ที่ อ.สวนผึ้ง พาเมียไปกางเต็นท์ แต่เมื่อตอนกลับ ก็ยังไม่ได้ถวายผ้าห่มพระจำไม่ได้กี่ผืน พอเจอวัดก็เข้าไปถวายกับหลวงพ่อซึ่งกำลังขึ้นจะสวดงานศพพอดี ก็ถวายเสร็จก็ออกมา แต่ได้ยินเสียงท่านให้พรอยู่ก็เลยพนมมือรับพร
- ที่ ทางขึ้นอ่างขาง ผมขับรถไป ตั้งใจว่า จะถวายมุ้งโครงลวด 4 มุ้งแบบกลมๆกางไว ให้พระในสำนักสงฆ์ เมื่อเจอก็เลี้ยวรถเข้าไป ถามลูกศิษย์ว่าพระท่านกำลังอาบน้ำอยู่ เลยมอบให้ลูกศิษย์ไปถวายพระ แล้วก็ขับไปอ่างขางต่อ
- ที่ เมืองกาญจนบุรี พาเมียและลูก ไปถวายผ้าไตรสีแบบพระราชนิยม จำนวน 4 ผืนใหญ่ ให้เจ้าอาวาสวัดไทรโยคริมน้ำ
- ที่วัดท่าตอน เดินแบบเป้ขึ้นไป เห็นพระเณรแปดรูปยืนถือบาตรเรียงรอตักบาตร ผมก็จัดเต็มถวายสิ่งของที่วัดจัดเตรียมไว้ ถวายให้พระกับเณร
- ที่อำเภอแม่สอด วันหนึ่งผมไปราชการ ไปเจอพระกับเณรองค์เล็กๆจิ๋วๆกำลังเรียนกันอยู่ด้วยความปิติ จึงถวายเงินทั้งหมดในกระเป๋าตังค์ ให้วัดเพื่ออุดหนุนการศึกษาพระธรรมของเณรน้อยมากมายเหล่านั้น
- ที่ชุมพร เดินเล่นไปเจอวัด วันพระ เออดีลองเข้าไปดูและร่วมกิจกรรม ก็ได้สวดมนต์ ฟังธรรม นั่งสมาธิ ในวันพระ ก็นั่งนึกว่าต่อไปก็คงทำกิจกรรมร่วมกับญาติโยมในวันพระมั่ง เหมือนกับได้นั่งอยู่กับพวกเทวดาฟังธรรมปฏิบัติธรรม ในการเทศน์ของหลวงพ่อก็นั่งฟังอย่างใจจดจ่อพิจารณาคำสอนไป แต่เมื่อมีปัญหาสงสัย รอจนท่านเทศน์จบและเดินออกมาแล้วก็เข้าไปถามเรื่อง โสดามัค ของท่านมาจากตำราไหน ท่านบอกว่าให้ไปเรียนใหม่
- เมื่อเรียนพระอภิธรรมจบ อยากลองดูว่า กลัวตายไหม เลย ลองบินไปโตเกียว 6.5 ชั่วโมงดู คำตอบคือ ไม่กลัวตายแล้ว
- วันหนึ่ง เมื่อลูกชายจะไปอยู่นอกบ้าน ก็เลยนึกว่า จะหาพระพุทธรูปสวยๆและปลุกเสกดีๆให้ แต่ระลึกได้ว่า ทำไมต้องปลุกเสกด้วย เลยเลิกคิดไป
- วันหนึ่งตอนเออรี่รีไทร์ใหม่ๆ เมื่อเดินขึ้นเขาหลวงสุโขทัย เห็น ศาล เห็นชุดไทยแขวนเต็มไปหมด หลายๆจุด ก็ไม่ได้ไหว้ เข้าเขาใหญ่ก็ไม่ได้ไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ไปที่ไหนๆก็ไม่ได้ไหว้เจ้าพ่อที่ไหนเลย จะฉี่ก็ไม่ไหว้ก่อนฉี่ในป่าแล้วเหมือนเมื่อก่อนที่ไหว้หมด
- คุยเล่นๆนะครับ ก่อนขึ้นบทที่ 8/17 ก่อนที่จะกู่ไม่กลับ
- แต่อย่างไรก็ตาม ตอนที่วิปัสสนาแล้วเกิดฟุ้งซ่านคิดขึ้นมา ก็คิดแต่เรื่องนี้แหละครับ นี่นาม นี่รูป นี่ปัจจัยอะไร อาจารย์สอนว่าเป็นปัจจุบันแท้จริงต้องเป็นอารมณ์อะไร จำได้ไม่ได้มั่งตอนนั้น ก็ค่อยมาตามรู้เอาทบทวนเอาในภายหลัง หยุดคิดหยุดฟุ้งซ่านได้แล้วก็ปฏิบัติกายานุปัสสนาสติปัฏฐานต่อไป บางคราวก็เป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน บางคราวก็เป็น จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน บางคราวก็เป็นธัมมานปัสสนาสติปัฏฐาน ครับ ถูกบ้างไม่ถูกบ้างก็มาทบทวนต่อไปในปริจเฉทที่ 9 ของ พระอภิธัมมัตตสังคหะต่อไป ได้แค่ไหนก็แค่นั้น สอบอารมณ์ตนเองหลังจากหยุดนั่งแล้วตามหลักวิชาในพระอภิธรรมที่พอจำได้บ้างก็ได้บ้างนิดหน่อยนะครับตามความรู้ความเข้าใจที่มีนิดนิดหน่อยหน่อย
-ชีวิตของคนแก่ ย่าง61ปี (มีสัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะเพราะเกษียณแล้วไม่ทำอะไรอีกแล้ว)ถ้าโชคดีรอดตายได้ในคราวนี้(โควิด) ก็จะเป็นอย่างที่คุยไว้ข้างต้นต่อไปต่อไป และพ่วงเมียไปด้วย ขับรถไปเที่ยวด้วย ทำบุญแบบไม่มีโลภะ โทสะ โมหะประกอบด้วยต่อไปนะครับ นั่งร่วมกับเทวดา(อุบาสก อุบาสิกาแต่งชุดขาวในโบสถ์ที่ได้สังฆกรรมร่วมกัน)ในวันพระในวัด จนกระทั่งถึงที่สุดของชีวิตนี้ในภพนี้ครับ
- กู่ไม่กลับแล้วครับ
- ปล.นึกได้ ตอนลงทัวส์ที่บึงกาฬ เจอพระแก่ๆรูปหนึ่งบิณฑบาท นึกได้ว่ามีข้าวเหนียวหมูปิ้งในเป้ จึงนำออกมาถวาย พอฝนตกเห็นพระตากฝนเดินบิณฑบาท ก็เลยซื้อกับข้าว 5 ชุดเข้าไปในวัดไปถวายพระ ออกมา ก็มาเหมารถสกายแล็บ1000บาทไปวัดภูทอกแต่แวะร้านข้าวมันไก่ก่อน สั่ง10กล่องแล้วรีบบึ่งไปถวายพระป่าวัดภูทอก คนขับดันหลงทาง เมื่อไปถึงวัดเอาไปให้แม่ครัววัด แม่ครัวบอกว่า พระท่านฉันตั้งแต่ 7 โมงแล้วพระป่าฉันมื๊อเดียวก็เลยยกให้แม่ครัวไปแจกจ่ายทานกัน จบ