วันนี้จะมารีวิวการมาอยู่ Hospitel ได้ 6 วันค่ะ
ที่บ้านเราอยู่กัน 6 คน เรากะพ่อมีอาการหวัด ไปตรวจโควิดเป็น Positive เนื่องจากที่บ้านอยู่กันหลายคน และป้าเราเป็นผู้ป่วยติดเตียง เราเลยพยายามหา Hospitel อยู่ เพื่อจะให้คนที่บ้านได้อยู่แยกห้องเป็นสัดส่วน คนรู้จักเราส่ง ig ของโรงพยาบาล… แพคเกจ 120,000 บาท 14 วัน ต่อห้อง (Co กับโรงแรมดังใจกลางเมือง) ถ้าอยู่ห้องเดียวกันโรงพยาบาลคิดคนละ 100,000 บาท (14,285 บาทต่อคืน) รวมค่ายาตามอาการ ค่าแพทย์ (หมอโทรมาถามอาการวันละครั้ง) ค่าอาหาร เรามีประกัน ส่วนพ่อไม่มี แต่เรายินดีที่จะจ่ายเงินไปก่อน 200,000 บาท เพื่อจะได้แยกตัวออกมาจากคนที่ไม่ป่วย
ที่โรงแรม มีอาหารมาให้ 3 มื้อ แต่ละมื้อเหมือนอาหารจานเดียว อาหารมีแต่เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ แทบไม่มี บางมื้อเป็นข้าวต้มถ้วยนึง พร้อมกับข้าวเป็นไช้โป๊วผัดไข่กระจุกนึง ไข่เค็มครึ่งลูกถ้วน ส้ม 1 ลูก (ลืมถ่ายรูปไว้) วันนี้อาหารเช้ามาตอนเกือบสิบโมง โทรไปตาม โรงแรมบอกว่ามีคนเช็คอินมาใหม่ อาหารไม่พอ รอหน่อย ถถถ หิ้วท้องรอ ชีวิตอนาถ มื้อเย็นล่าสุดเป็นข้าวกะเพราะพร้อมกองทัพพริกย่อมๆ เผ็ด แสบท้อง กินไม่ได้ นี่หรืออาหารคนป่วย อยู่บ้านอาหารยังอุดมสมบูรณ์กว่านี้ (กฎของที่นี่สามารถสั่งซื้อของแห้งเข้ามาได้เท่านั้น ของสดห้าม เครื่องดื่มห้าม)
สเปรย์แอลกอฮอล์ก็มีมาให้แค่เศษหนึ่งส่วนยี่สิบของขวด foggy ในห้องอยู่กันสองคน ให้ที่วัดไข้มาอันเดียว ผลัดกันวัดที่ใต้รักแร้ อิหยังวะ!!! มีแก้วกระดาษให้ใช้แค่ 7 แก้ว สำหรับ 7 วัน สำหรับแค่คนเดียว เราต้องใช้ชงสมุนไพร ชงโอวัลติน เราขอแก้วไปเพิ่ม ทางโรงแรมบอกจะเช็คให้ แล้วก็เงียบไปวันนึง อีกวันเราโทรไปใหม่ พนักงานบอกเค้าลืม เดี๋ยวโอนไปให้ทางพยาบาลของร.พ. พอเราได้คุย พยาบาลก็บอกว่าเดี๋ยวเช็คให้ ติดต่อไปทางคนดูแลที่เราโอนเงินไปให้ เค้าบอกเดี๋ยวประสานงานให้ เงียบ อีกวันนึงบอกเดี๋ยวจะเข้ามาโรงแรมอยู่แล้ว จะซื้อมาให้ สรุปก็เงียบ ผ่านมา 3 วัน ไม่ได้สักแก้ว เราต้องใช้แบบจำกัดจำเขี่ย ใช้แล้วล้างๆๆๆ จนกระดาษมันเปื่อย ชีวิตรันทด!!!
น้ำเปล่ามีมาให้ 3 หรือ 4 แพ็ค ไม่แน่ใจ เราจำไม่ได้ แต่ว่าเราดื่มน้ำเยอะ มันก็จะหมดอย่างรวดเร็ว พอโทรลงไปที่ส่วนกลาง พนักงานโรงแรมบอกว่าปกติจะให้แค่คนละ 2 ขวด ต่อคน ต่อวัน ถ้าอยากได้เพิ่มต้องจ่ายเพิ่ม เราเลยบอกว่าเราจ่ายมาเป็นแสน อยากขอน้ำเพิ่มต้องจ่ายเงิน? พนักงานบอกว่าเดี๋ยวจะโอนไปให้ทางพยาบาลของร.พ. พอเราได้คุยกะทางร.พ. เค้าบอกจะเบิกเพิ่มได้แค่ครั้งเดียว หนึ่งแพ็ค นอกเหนือจากนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แพ็คละร้อย เฮ้ย! จ่ายเงินแสน อยู่เหมือนขอทาน?? Complain ไปที่คนดูแล ก็ได้แต่บอกว่าเดี๋ยวประสานงานให้ ประสานงานให้ ขอโทษด้วย แถไปเรื่อย สรุปสุดท้ายเราก็ยังไม่ได้อะไรสักอย่าง
กว่าจะได้เอ็กซ์เรย์ปอดก็วันที่ 3 รอแล้วรอเล่าทั้งวันเฝ้าแต่รอ ทำไมไม่มีใครมาเรียกให้ไป x-ray ซะที คนดูแลบอกว่ารถ x-ray มีปัญหากะลังแก้อยู่ มาถึงแล้วตั้งแต่ตอนเย็น สรุปตอน 3 ทุ่ม พยาบาลมาเอะอะเคาะประตูเรียกว่าให้ลงไป x-ray กับเจาะเลือด 3 ทุ่มนะจ๊ะ 3 ทุ่ม เราแกล้งถามไปว่าทำไมให้ x-ray ซะมืดเชียว พยาบาลตอบว่ารถ x-ray ไปที่อื่นมา เอ๊ะ! ใครโกหก ตอนเจาะเลือด เราทำสำลีที่ปิดตรงที่เจาะหล่นลงบนโต๊ะ พยาบาลเก็บขึ้นมาจะมาโปะให้ต่อ เรานี่แบบขออันใหม่ค่ะ โต๊ะมีทำความสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ อ่ะ ได้ x-ray แล้วก็สบายใจ แต่อยู่ดีๆเกือบเที่ยงคืน มีเสียงตามสายมา เราก็ตกใจใครโทรมาดึกๆดื่นๆ สรุปว่าพยาบาลโทรมาถามว่าไป x-ray รึยัง อิหยังวะ!!! รายชื่ออะไรไม่มีในมือ ไม่เคยเช็คว่าใครไป x-ray แล้ว?
กว่าผลจะออกก็รอไปวันกว่าๆ หมอโทรมาบอกว่าปอดเราปกติ แต่ของพ่อปอดมีจุดๆอยู่ด้านขวาและซ้ายล่าง หมอบอกปอดอักเสบ จะจ่ายยาต้านไวรัสให้ เราก็นึกว่าจะได้ยาต้านมาให้พ่อกินเลย แต่นี่ก็รอมา 2 วันละ พอตามไปกะคนดูแล ก็แถไปว่าต้องรอเบิกจ่ายกับรัฐบาล ต้องรอหน่อย อิหยังวะ!!! โรงพยาบาลไม่มีเตรียมไว้ แล้วถ้าอาการคนไข้ทรุดลงเพราะไม่ได้ยาต้านทันท่วงทีนี่คือยังไง รับผิดชอบมั้ย ดีที่พ่อเรายังหายใจปกติ ออกซิเจนปกติ
จะถอดใจว่ากลับบ้านดีกว่ามั้ย เพราะนับจากวันแรกที่เรากับพ่อมีอาการคล้ายหวัดปกติตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. (เป็นหวัดอยู่ 4-5 วัน) บวกเริ่มมาอยู่ที่โรงแรมวันที่ 16 ก.ค. จนถึงวันที่ 22 ก.ค. รวมแล้วก็ 14 วัน (ไม่มีอาการอะไรแล้ว) แต่ตอนนี้คนที่บ้านอีกสองคนก็มีอาการป่วยอยู่ ก็กลัวๆว่าจะต้องกลับไปแออัดที่บ้าน จะทนอยู่ที่โรงแรมต่อก็ข้าวของขาดแคลน เสียสุขภาพจิต ตามแล้วตามเล่าเฝ้าแต่ตาม เราว่าจะร้องเรียนไปทางหน่วยงานรัฐ เพราะเห็นเค้ามาออกรายการทีวีบอกว่าร้องเรียนพวกที่เรียกเก็บเงินได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องมั้ย เพราะเราก็ตัดสินใจยอมจ่ายเพื่อจะได้มาอยู่ข้างนอกเอง มาหากินกับความเจ็บป่วยของประชาชนนี่ไม่โอเคมากๆ
เข้าใจนะคะใครๆก็อยากได้เตียง แต่ถ้าต้องจ่ายเงินแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้สุขภาพกาย สุขภาพจิตเสีย ถ้าไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่มาก เป็นกลุ่มสีเขียว ทำ home isolate ที่บ้านได้ ก็อยู่บ้านดีกว่าค่ะ พยายามเอาตัวเองเข้าระบบให้ได้ เผลอๆได้ยาเร็วกว่ามาอยู่ hospitel ค่ะ
ป.ล. คุยกะทางพนักงานโรงแรม นางบอกว่าผมได้ค่าห้องนิดเดียว ไม่รู้ว่าร.พ.เอามาขายแพคเกจแพงขนาดนี้
รีวิว Hospitel เรียกเก็บหลักแสน บริการหลักหน่วยถึงศูนย์
ที่บ้านเราอยู่กัน 6 คน เรากะพ่อมีอาการหวัด ไปตรวจโควิดเป็น Positive เนื่องจากที่บ้านอยู่กันหลายคน และป้าเราเป็นผู้ป่วยติดเตียง เราเลยพยายามหา Hospitel อยู่ เพื่อจะให้คนที่บ้านได้อยู่แยกห้องเป็นสัดส่วน คนรู้จักเราส่ง ig ของโรงพยาบาล… แพคเกจ 120,000 บาท 14 วัน ต่อห้อง (Co กับโรงแรมดังใจกลางเมือง) ถ้าอยู่ห้องเดียวกันโรงพยาบาลคิดคนละ 100,000 บาท (14,285 บาทต่อคืน) รวมค่ายาตามอาการ ค่าแพทย์ (หมอโทรมาถามอาการวันละครั้ง) ค่าอาหาร เรามีประกัน ส่วนพ่อไม่มี แต่เรายินดีที่จะจ่ายเงินไปก่อน 200,000 บาท เพื่อจะได้แยกตัวออกมาจากคนที่ไม่ป่วย
ที่โรงแรม มีอาหารมาให้ 3 มื้อ แต่ละมื้อเหมือนอาหารจานเดียว อาหารมีแต่เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ แทบไม่มี บางมื้อเป็นข้าวต้มถ้วยนึง พร้อมกับข้าวเป็นไช้โป๊วผัดไข่กระจุกนึง ไข่เค็มครึ่งลูกถ้วน ส้ม 1 ลูก (ลืมถ่ายรูปไว้) วันนี้อาหารเช้ามาตอนเกือบสิบโมง โทรไปตาม โรงแรมบอกว่ามีคนเช็คอินมาใหม่ อาหารไม่พอ รอหน่อย ถถถ หิ้วท้องรอ ชีวิตอนาถ มื้อเย็นล่าสุดเป็นข้าวกะเพราะพร้อมกองทัพพริกย่อมๆ เผ็ด แสบท้อง กินไม่ได้ นี่หรืออาหารคนป่วย อยู่บ้านอาหารยังอุดมสมบูรณ์กว่านี้ (กฎของที่นี่สามารถสั่งซื้อของแห้งเข้ามาได้เท่านั้น ของสดห้าม เครื่องดื่มห้าม)
สเปรย์แอลกอฮอล์ก็มีมาให้แค่เศษหนึ่งส่วนยี่สิบของขวด foggy ในห้องอยู่กันสองคน ให้ที่วัดไข้มาอันเดียว ผลัดกันวัดที่ใต้รักแร้ อิหยังวะ!!! มีแก้วกระดาษให้ใช้แค่ 7 แก้ว สำหรับ 7 วัน สำหรับแค่คนเดียว เราต้องใช้ชงสมุนไพร ชงโอวัลติน เราขอแก้วไปเพิ่ม ทางโรงแรมบอกจะเช็คให้ แล้วก็เงียบไปวันนึง อีกวันเราโทรไปใหม่ พนักงานบอกเค้าลืม เดี๋ยวโอนไปให้ทางพยาบาลของร.พ. พอเราได้คุย พยาบาลก็บอกว่าเดี๋ยวเช็คให้ ติดต่อไปทางคนดูแลที่เราโอนเงินไปให้ เค้าบอกเดี๋ยวประสานงานให้ เงียบ อีกวันนึงบอกเดี๋ยวจะเข้ามาโรงแรมอยู่แล้ว จะซื้อมาให้ สรุปก็เงียบ ผ่านมา 3 วัน ไม่ได้สักแก้ว เราต้องใช้แบบจำกัดจำเขี่ย ใช้แล้วล้างๆๆๆ จนกระดาษมันเปื่อย ชีวิตรันทด!!!
น้ำเปล่ามีมาให้ 3 หรือ 4 แพ็ค ไม่แน่ใจ เราจำไม่ได้ แต่ว่าเราดื่มน้ำเยอะ มันก็จะหมดอย่างรวดเร็ว พอโทรลงไปที่ส่วนกลาง พนักงานโรงแรมบอกว่าปกติจะให้แค่คนละ 2 ขวด ต่อคน ต่อวัน ถ้าอยากได้เพิ่มต้องจ่ายเพิ่ม เราเลยบอกว่าเราจ่ายมาเป็นแสน อยากขอน้ำเพิ่มต้องจ่ายเงิน? พนักงานบอกว่าเดี๋ยวจะโอนไปให้ทางพยาบาลของร.พ. พอเราได้คุยกะทางร.พ. เค้าบอกจะเบิกเพิ่มได้แค่ครั้งเดียว หนึ่งแพ็ค นอกเหนือจากนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แพ็คละร้อย เฮ้ย! จ่ายเงินแสน อยู่เหมือนขอทาน?? Complain ไปที่คนดูแล ก็ได้แต่บอกว่าเดี๋ยวประสานงานให้ ประสานงานให้ ขอโทษด้วย แถไปเรื่อย สรุปสุดท้ายเราก็ยังไม่ได้อะไรสักอย่าง
กว่าจะได้เอ็กซ์เรย์ปอดก็วันที่ 3 รอแล้วรอเล่าทั้งวันเฝ้าแต่รอ ทำไมไม่มีใครมาเรียกให้ไป x-ray ซะที คนดูแลบอกว่ารถ x-ray มีปัญหากะลังแก้อยู่ มาถึงแล้วตั้งแต่ตอนเย็น สรุปตอน 3 ทุ่ม พยาบาลมาเอะอะเคาะประตูเรียกว่าให้ลงไป x-ray กับเจาะเลือด 3 ทุ่มนะจ๊ะ 3 ทุ่ม เราแกล้งถามไปว่าทำไมให้ x-ray ซะมืดเชียว พยาบาลตอบว่ารถ x-ray ไปที่อื่นมา เอ๊ะ! ใครโกหก ตอนเจาะเลือด เราทำสำลีที่ปิดตรงที่เจาะหล่นลงบนโต๊ะ พยาบาลเก็บขึ้นมาจะมาโปะให้ต่อ เรานี่แบบขออันใหม่ค่ะ โต๊ะมีทำความสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ อ่ะ ได้ x-ray แล้วก็สบายใจ แต่อยู่ดีๆเกือบเที่ยงคืน มีเสียงตามสายมา เราก็ตกใจใครโทรมาดึกๆดื่นๆ สรุปว่าพยาบาลโทรมาถามว่าไป x-ray รึยัง อิหยังวะ!!! รายชื่ออะไรไม่มีในมือ ไม่เคยเช็คว่าใครไป x-ray แล้ว?
กว่าผลจะออกก็รอไปวันกว่าๆ หมอโทรมาบอกว่าปอดเราปกติ แต่ของพ่อปอดมีจุดๆอยู่ด้านขวาและซ้ายล่าง หมอบอกปอดอักเสบ จะจ่ายยาต้านไวรัสให้ เราก็นึกว่าจะได้ยาต้านมาให้พ่อกินเลย แต่นี่ก็รอมา 2 วันละ พอตามไปกะคนดูแล ก็แถไปว่าต้องรอเบิกจ่ายกับรัฐบาล ต้องรอหน่อย อิหยังวะ!!! โรงพยาบาลไม่มีเตรียมไว้ แล้วถ้าอาการคนไข้ทรุดลงเพราะไม่ได้ยาต้านทันท่วงทีนี่คือยังไง รับผิดชอบมั้ย ดีที่พ่อเรายังหายใจปกติ ออกซิเจนปกติ
จะถอดใจว่ากลับบ้านดีกว่ามั้ย เพราะนับจากวันแรกที่เรากับพ่อมีอาการคล้ายหวัดปกติตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. (เป็นหวัดอยู่ 4-5 วัน) บวกเริ่มมาอยู่ที่โรงแรมวันที่ 16 ก.ค. จนถึงวันที่ 22 ก.ค. รวมแล้วก็ 14 วัน (ไม่มีอาการอะไรแล้ว) แต่ตอนนี้คนที่บ้านอีกสองคนก็มีอาการป่วยอยู่ ก็กลัวๆว่าจะต้องกลับไปแออัดที่บ้าน จะทนอยู่ที่โรงแรมต่อก็ข้าวของขาดแคลน เสียสุขภาพจิต ตามแล้วตามเล่าเฝ้าแต่ตาม เราว่าจะร้องเรียนไปทางหน่วยงานรัฐ เพราะเห็นเค้ามาออกรายการทีวีบอกว่าร้องเรียนพวกที่เรียกเก็บเงินได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องมั้ย เพราะเราก็ตัดสินใจยอมจ่ายเพื่อจะได้มาอยู่ข้างนอกเอง มาหากินกับความเจ็บป่วยของประชาชนนี่ไม่โอเคมากๆ
เข้าใจนะคะใครๆก็อยากได้เตียง แต่ถ้าต้องจ่ายเงินแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้สุขภาพกาย สุขภาพจิตเสีย ถ้าไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่มาก เป็นกลุ่มสีเขียว ทำ home isolate ที่บ้านได้ ก็อยู่บ้านดีกว่าค่ะ พยายามเอาตัวเองเข้าระบบให้ได้ เผลอๆได้ยาเร็วกว่ามาอยู่ hospitel ค่ะ
ป.ล. คุยกะทางพนักงานโรงแรม นางบอกว่าผมได้ค่าห้องนิดเดียว ไม่รู้ว่าร.พ.เอามาขายแพคเกจแพงขนาดนี้