Diary ประสบการณ์กักตัวกับครอบครัวติดโควิด
เราเราเพิ่งจะเริ่มกักตัวยังไม่ครบ14วันนะคะ เขียนไว้เผื่อเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ หรือถ้าไม้เป็นก็ถือว่าราขอมาระบายให้ฟังแล้วกันนะคะ
ขอเล่าก่อนนะคะ ที่บ้านเราอยู่ด้วยกัน 7 คนจะแยกเป็น2ฝั่งคือครอบครัวเราพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันฝั่งนึงและที่เหลืออยู่ด้วยกันอีกฝั่งแต่เปิดประตูเชื่อมกันได้ และมีลูกจ้างที่ร้านอีก1คนที่มีความเสี่ยงสูงเหมือนกันแต่อยู่บ้านคนละหลัง
Day 0 รู้ว่าคุณแม่ติดโควิด( สติแตกค่ะ ร้องไห้ฟูมฟายเป็นห่วงลูกมากกลัวลูกจะติด) แต่พอเริ่มตั้งสติได้ก็พยามติดต่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเราอยู่ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่อนามัยชุมชน(แต่กว่าจะรู้ว่าต้องติดต่อที่ไหนก็ประสานงานไปหลายที่มากๆ)จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเลยภายใน1ชั่วโมงหลังจากที่เราประสานงานไป*(ที่ต้องประสานงานเองเพราะของคุณแม่ตรวจเชิงรุกค่ะมีคนตรวจหลายร้อยคนพอตรวจเสร็จรู้ผลว่าติดก็ให้กลับบ้านมาโดยไม่ได้แจ้งว่าต้องทำอย่างไรต่อไป) พอเจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลก็ได้คำตอบว่าทุกคนในบ้านอีก 6 คนมีความเสี่ยงสูงต้องเข้ากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐแยกห้องใครห้องมัน
Day 1 โชคดีที่เราทั้ง 6 คน ได้ที่กักตัวเลยแต่ลูกจ้างอีกคนไม่ได้ห้อง เรากับสามีก็เลยปรึกษากันว่าเราอยากให้เค้าได้ห้องมากกว่าเพราะที่บ้านเค้าต้องอยู่ร่วมกันหลายคนแล้วประกอบกับตัวเราเองก็มีปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้าเราไม่สามารถอยู่กับลูก2คนภายในห้องๆเดียวเป็นเวลา14วันแน่นอน ก็เลยปรึกษากับคุณหมอและก็ผอ.โรงพยาบาลที่ดูแลรับผิดชอบเคสเราว่าเราจะขอกักตัวเรา3คนพ่อแม่ลูกอยู่ที่บ้านเอง แต่เรากับสามีจะแยกกันกักตัวแยกห้องนอนกับห้องน้ำไม่ใช้ร่วมกัน ซึ่งทางทีมงานดูแลเราดีมากๆค่ะ เค้าเป็นห่วงว่าเราจะกินจะอยู่อย่างไร แต่เขาก็อนุญาตให้เรากักตัวอยู่บ้านได้ (ซึ่งการกักตัวอยู่บ้านของเราจะต้องทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานหนักขึ้นเพราะต้องคอยมีคนมาดูแลรับผิดชอบเรา แอบรู้สึกเสียใจ) แต่เราคิดว่าเรากักตัว14 วันเรายังมีกำลังทรัพย์พอที่จะคอยซัพพอร์ตครอบครัวเราได้ เราเอาห้องไว้ให้คนที่จำเป็นมากๆดีกว่า และอีก 3 คนในครอบครัวเรา เราให้ไปกักตัวในที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้เพราะเรามีคุณยายซึ่งเราคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าที่จะอยู่บ้านเพราะมีพยาบาลดูแลตลอดและก็น้องสาวให้ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณยายเค้าจะได้อุ่นใจขึ้น แต่ตอนนี้คุณแม่ที่ยังคงอยู่บ้านรอเตียงค่ะ
* ที่บ้านเราเตรียมพร้อมในระดับนึงนะคะ เราซื้อเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ที่วัดไข้ และก็ถังออกซิเจนติดบ้านไว้แล้ว
จะค่อยๆมาเล่านะคะ ว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง
Diary ประสบการณ์กักตัวกับครอบครัวติดโควิด
ขอเล่าก่อนนะคะ ที่บ้านเราอยู่ด้วยกัน 7 คนจะแยกเป็น2ฝั่งคือครอบครัวเราพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันฝั่งนึงและที่เหลืออยู่ด้วยกันอีกฝั่งแต่เปิดประตูเชื่อมกันได้ และมีลูกจ้างที่ร้านอีก1คนที่มีความเสี่ยงสูงเหมือนกันแต่อยู่บ้านคนละหลัง
Day 0 รู้ว่าคุณแม่ติดโควิด( สติแตกค่ะ ร้องไห้ฟูมฟายเป็นห่วงลูกมากกลัวลูกจะติด) แต่พอเริ่มตั้งสติได้ก็พยามติดต่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเราอยู่ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่อนามัยชุมชน(แต่กว่าจะรู้ว่าต้องติดต่อที่ไหนก็ประสานงานไปหลายที่มากๆ)จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเลยภายใน1ชั่วโมงหลังจากที่เราประสานงานไป*(ที่ต้องประสานงานเองเพราะของคุณแม่ตรวจเชิงรุกค่ะมีคนตรวจหลายร้อยคนพอตรวจเสร็จรู้ผลว่าติดก็ให้กลับบ้านมาโดยไม่ได้แจ้งว่าต้องทำอย่างไรต่อไป) พอเจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลก็ได้คำตอบว่าทุกคนในบ้านอีก 6 คนมีความเสี่ยงสูงต้องเข้ากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐแยกห้องใครห้องมัน
Day 1 โชคดีที่เราทั้ง 6 คน ได้ที่กักตัวเลยแต่ลูกจ้างอีกคนไม่ได้ห้อง เรากับสามีก็เลยปรึกษากันว่าเราอยากให้เค้าได้ห้องมากกว่าเพราะที่บ้านเค้าต้องอยู่ร่วมกันหลายคนแล้วประกอบกับตัวเราเองก็มีปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้าเราไม่สามารถอยู่กับลูก2คนภายในห้องๆเดียวเป็นเวลา14วันแน่นอน ก็เลยปรึกษากับคุณหมอและก็ผอ.โรงพยาบาลที่ดูแลรับผิดชอบเคสเราว่าเราจะขอกักตัวเรา3คนพ่อแม่ลูกอยู่ที่บ้านเอง แต่เรากับสามีจะแยกกันกักตัวแยกห้องนอนกับห้องน้ำไม่ใช้ร่วมกัน ซึ่งทางทีมงานดูแลเราดีมากๆค่ะ เค้าเป็นห่วงว่าเราจะกินจะอยู่อย่างไร แต่เขาก็อนุญาตให้เรากักตัวอยู่บ้านได้ (ซึ่งการกักตัวอยู่บ้านของเราจะต้องทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานหนักขึ้นเพราะต้องคอยมีคนมาดูแลรับผิดชอบเรา แอบรู้สึกเสียใจ) แต่เราคิดว่าเรากักตัว14 วันเรายังมีกำลังทรัพย์พอที่จะคอยซัพพอร์ตครอบครัวเราได้ เราเอาห้องไว้ให้คนที่จำเป็นมากๆดีกว่า และอีก 3 คนในครอบครัวเรา เราให้ไปกักตัวในที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้เพราะเรามีคุณยายซึ่งเราคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าที่จะอยู่บ้านเพราะมีพยาบาลดูแลตลอดและก็น้องสาวให้ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณยายเค้าจะได้อุ่นใจขึ้น แต่ตอนนี้คุณแม่ที่ยังคงอยู่บ้านรอเตียงค่ะ
* ที่บ้านเราเตรียมพร้อมในระดับนึงนะคะ เราซื้อเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ที่วัดไข้ และก็ถังออกซิเจนติดบ้านไว้แล้ว
จะค่อยๆมาเล่านะคะ ว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง