ต้องท้าวความก่อนว่าเราเป็นผ็หญิงที่ชอบแต่งตัวเหมือน ผช. นิสัยเหมือนผู้ชาย คือว่า
.
.
ตอนนี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความชอบของเรา เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองเป็นไบหรือเปล่า?
เพราะเราแอบหวั่นไหวกับเพื่อนสนิทผู้หญิงของเรา....
เรื่องเรื่มจากที่เราเริ่มสนิทกันตอน ม.3 เทอม 1 ช่ววงเปิดเทอมวันแรกๆ ตอนแรกเราก็รู้สึกเฉยๆกับนาง นางก็เป็นผ็หญิงที่น่ารัก สนุกสนาน เป็นคนเฮฮา คนหนึ่งเลย นางเป็นตัวตบมุขของกลุ่มแต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ แล้วพอเราอยู่กับนางไปเรื่อยๆนานๆเข้าเราก็เริ่มรู้สึกชอบนางมากขึ้นจนตอนนี้รู้สึกว่าจะเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิท
.
.
ระหว่างวันแรกถึงสอบกลางภาคเทอม 1 มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลากหลายมากทั้งดีทั้งร้าย เราได้คุยกันมากขึ้นเนื่องจากมีรสนิยมและนิสัยคล้ายๆกัน ที่ผ่านมาเคยมีเพื่อนในกลุ่มเรา มาสารภาพรักกับนางด้วยอาการเหมือนเราตอนนี้เลย นางบอกปฏิเสธทันควัน แบบบ้าป่าว แกอารมณืชั่ววูปหรือเปล่า ทำเอาเพื่อนเราคนนั้นไม่คุยกับนางไปพักนึงเลย เพราะมองหน้ากันไม่ติด นางมาบ่นให้เราฟังว่ารู้สึกอึดอัดกับเพื่อนคนนั้นมาก แบบไม่ค่อยอยากมองหน้า นางบอกคงต้องรอให้นางลืมเรื่องนั้นไปคงกลับมาเหมือนเดิมหรือนางทำใจได้ ตอนแรกเราก็อึ้งน่ะที่เพื่อนมันสารภาพรักกับนาง แต่หลังจากนั้นเราก็รู้สึกเฉยๆ
.
.
มีครั้งหนึ่งตอนปลายเทอม1 เราได้มีโอกาศแต่งคอสเพลย์เป็นผีญี่ปุ่น เราแต่งเป็นผู้ชายใส่วิก ชุดคอสตูม การแต่งหน้า คือมาเต็มมาก (มีผช. ชมว่าหล่อด้วย เขินเลย////) แล้ววันนั้นนางแต่งน่ารักมาก นางใส่เสื้อฮาโอริของกิยู และแต่งหน้าสายฝอ วันที่แต่งเป็นวันฮาโลวีน ทางสายห้องเรียนอังกฤษของเราจัดขึ้นขึ้นครั้งแรก เราไปให้กำลังใจนาง เพราะนางจะออดิชั่นไปแข่งภาษาอังกฤษเป็นตัวแทนไปแข่งระดับภาคของ รร. เรา พอออดิชั่นจบเพื่อนๆก็ชวนกันไปกินข้าวที่โรงอาหาร ตัดมาตอนที่เรากำลังต่อแถวซื้ออาหาร มีเพื่อนเราคนหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าถ่ายเรา แล้วนางก็เอาไปล่งสตอรี่ เพื่อนคนนั้นบอกว่าเราหล่อ ออกโพผัวมาก แล้วคนที่เราหวั่นไหวอ่ะนางต่อแถวอยู่ด้านหลัง นางก็เลยแซวเราต่อว่า "หล่อขนาดนี้ มาเป็นผัวกุเถอะ กูพร้อมมม" แล้วช็อตนั้นคือเรา อึ้งไปเลยอ่ะ แบบทั้งเขินทั้งอายทำตัวไม่ถูกเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าจัวหวะนั้นหรือเปล่าที่ทำให้เราใจแอบหวั่นไหวโดยที่ไม่รู้ตัว
.
.
หลังจากนั้นเราก็เริ่มรักและเอ็นดูนาง ความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวเลย บอกตามตรง เราเริ่มเข้าหานางมากขึ้น แตะเนื้อต้องตัวมากขึ้น อย่างที่รู้ๆนางเป็นคนเฟรนลี่ บางครั้งนางก็แกล้งตีนมหรือหน้าอกเรามั้ง แล้วก็ตีตูดเราแต่เราดุไปรอบเดียวนางกลัว นางเลยไม่ทำอีกเลย5555 นั้นแหละนางเป็นพวกให้เพื่อนสนิทผู้หญิงแตะเนื้อแตะตัวได้ง่าย จนพอมาปลายเดือนพฤศจิกายน เราก็เริ่มอยากกอดนาง โดยที่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม??? จากที่เราปฏิเสธการที่ให้นางกอด กลับกลายเป็นว่าเรากอดนางแทน กอดบ่อยด้วยน่ะ เห็นนางว่างๆก็กอดแบบไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีคือร่างกาย มือ มันกอดไปเรียนร้อยแล้ว งงหนักมากตอนนั้น55555
.
.
พอเทอม 2 เราก็ยุ่งมากยิ่งขึ้น เพราะกำลังจะขึ้น ม.4 ต้องหาที่เรียน เราหมกมุนกับหนังสือติวสอบมาก เพราะจะไปสอบที่กรุงเทพ เราทั้งต้องติวแล้วก็ส่งงานประคับประคองเกรดม.3 ให้เกรดสวย เราเลยไม่ได้กอดนางไปช่วงหนึ่ง แต่เราก็ไม่เคยละเลยนางเลยน่ะ ถึงจะไม่ได้คุยแบบเห็นหน้าหรือกอดนางบ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่เราก็ทักหานางเวลาที่ว่างเสมอ ถามว่าเป็นไงบ้าง เหนื่อยม่ะ โอเคป่ะ สู้ๆน่ะเป็นกำลังใจให้(พร้อมอิโมจิหน้ายิ้มแก้มแดงและหัวใจสีแดง) นางก็ดูดีใจน่ะ บางครั้งเราก็หาเรื่องชวนนางติวเหมือนกัน เพราะจะไปสอบ รร. เดียวกัน (ถึงจะสอบคนละสายก็เถอะ) เหตุผลที่นัดก็ไม่ได้มีแค่เรื่องติวหรอก เพราะเราอยากเห็นหน้านางมากกว่า เห็นหน้านางที่ไรล่ะชื่นใจทุกที เหมือนได้เติมพลังงาน ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง เห้ออออออ แสนดีหรือเกิน
.
.
ตอนที่เราไปสอบเราและนางเดินทางไปสอบ เราก็พยายามทำเต็มที่ แต่สุดท้ายเราก็สอบไม่ติด แต่ไม่เป็นไรหรอก (แต่นางสอบติด!!!! สายภาษาจ้า) ในวันที่สอบนั้นเราเจอนางแต่ไม่ได้คุยไรมาก เพราะสอบคนละโดมและพ่อ แม่ น้องๆ ก็มาด้วย แล้วนางก็รีบกลับบ้านเพราะมีธุระด่วน รู้สึกเซ้งมากที่เจอกันได้แค่แปปเดี๋ยว เราคิดไว้ว่าอยากจะพานางไปช็อปปิ้งซะหน่อย ไหนๆก็มีกรุงเทพฯ แต่ก็กลายเป็นว่าอดจร้าาา ทำได้แค่ซื้อหนังสือกาตูนถ่ายส่งไปให้นางดู ง่ายๆหาเรื่องคุยกับนาง 555555
.
.
พอกลับมาจากการสอบที่กรุงเทพฯ กลับมาก็ต้องเจอกับสอบปลายภาค บอกเลยโอ้ยยยยยยยยยยยจะบ้าตาย ช่วงนั้นเราเครียดหนักมากกกก เพราะเราก็ต้องหาที่เรียนต่อและต้องสอบปลายภาคพร้อมกันอีก สรุปเราก็ต่อ รร. เดิม แต่เปลี่ยนสายไปอยู่วิทย์-คณิต-อังกฤษ เราแถบไม่ได้คุยกับนางเลยจ้า แชทก็ไม่ได้คุยเพราะแม่อยากให้จริงจังมากขึ้น มาคุยอีกทีตอนสอบปลายภาควันสุดท้าย ตอนนางกลับบ้านไป เรากำลังรอแม่อยู่ เราตัดสินใจบอกนางว่าเราเป็นคอสเดรส เราตัดสินใจนานมากว่าจะบอกนางดีไหม กลัวนางรับไม่ได้ สรุปนางรับได้จ้า พีคเฉยๆ กลายเป็นว่าเราก็ไม่ต้องมาคิดหนักกับนาง เพราะนางมองหน้าเราไม่ติด ดีเฉยเลย ดีใจมากกก
.
.
พอหลังจากสอบปลายภาคเสร็จ ห้องของเราก็มีปาร์ตี้เล็กจัดฉลองเลี้ยงที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเรา วันนั้นเราแต่งตัวแมยมากจ้าาา จำได้แม่นเลย เสื้อเชื้ตสีดำ กางเกงยาวสีดำ ร้องเท้าผ้าใบสีดำ เสื้อกันหนาวคูลๆสีดำ หมัดผม มามาดเท่เลยจ้า เพื่อนในห้องแซวหล่อกว่า ผช. ในห้อง แล้วนางก็.....แต่งตัวเซ็กซี่มาก ใจเราแบบอ๊ากกดกหด่ฟห่วาด่ห่กดว แบบนี้อ่ะ ปากแดง แต่งหน้าสายฝอ กระโปรงเลยเข่าสีแดง ถุงหน่อยสีดำ ร้องเท้าส้นสูง เสื้อดำรัดรูป ผมล่อนๆหน่อย คือลือมากกก วันนั้นแบบอยากให้นางใส่ชุดนั้นบ่อยๆ พองานเริ่มนางดื่มเยอะมากจนเซ ด้วยความที่เราก็ศึกษาวิธีดื่มมาจึงไม่ค่อยเมาเพราะไม่ดื่มเยอะ ค่อยๆจิบ ชิมบรรยากาศ แม่นางมารับนางเร็วมากแบบงานเริ่ม 1 ทุ่ม แม่นางมารับ 2 ทุ่ม แบบอุตต๊ะ! เร็วมาก อดเห็นชุดสวยนานเลยๆ เส้า ;--;
.
.
ตอนระหว่างปิดเทอมรอเปิด ม.4 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราก็มานั้งทบทวนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของนาง เพราะเราก็ตะงิดใจกับเรื่องนี้มานานแล้วเหมือนกัน เราคิดไปคิดมา สรุปเราแอบหวั่นไหวกับนางจริงจ้า แบบเราลองสังเกตุแชทที่เราคุยกับนางมาลองเอามาเทียบกันดู ชัดเจนเลย เราแอบชอบนางแบบกึ่งๆไม่มั่นใจ พักหลังๆมานี้ เราแอบบอกรักนางแบบอ้อมๆ อ้อมๆแบบ เรารักเธอน่ะ ที่รัก แบบนี้อ่ะ 55555 แต่เวลาที่นางบอกว่าแอบชอบนางหรอ เรารู้สึกร้อนตัวชอบเผลอพิมพ์ตอบกลับไปว่า "ไม่อ่ะ กุคิดกับแค่เพื่อนจ้าา" แต่ในความเป็นจริงเราคิดเลยกับนางมานิดนึงแล้วอ่าาาาา เราคิดถึงนางตลอดเลย อยากคุยกับนางตลอด เห็นอะไรก็คิดถึงแต่นาง แบบในหัวมีแต่นางอะช่วงนี้ แต่ไม่ค่อยแชทไปหานางบ่อนน่ะ กลัวนางรำคาญ55555 ว่าง่ายๆคลั่งรักนางแล้วตอนนี้ แบบอาจจะกู่ไม่กลับก็ได้ ไม่รู้เหมือนกัน แล้วไอ้ความที่เราอ่ะ ก็มั่นใจมาตลอดว่าชอบ ผช. เท่านั้น พอมาเจอนางล่ะมันไขวเขวไปหมด ตอนนี้คิดไม่ออกแล้ว แต่เราอยากให้อยากตัดความรู้สึกนี้ออกไป ที่คิดเกินเพื่อนกับนาง เราไม่อยากเสียนางไปอ่ะ เราคิดกับนางเกินกว่าคนนั้นอีกแบบ เราเป็น ผญ. โพรุกอ่ะ เข้าใจใช่ไหม แล้วแบบเจอนางทีไรล่ะอยากจะเข้าไปอ้อนนาง เราอยากดูและและปกป้องนางมาก ชนิดที่ว่าเอ็นดูหนักมากกกกกก ตอนนี้ก็พยายามเพลาๆลงบางแล้วที่ใช่มุขหยอด จีบ บอกรักอย่างนี้อ่ะ แต่มันก็ยังเป็นบ้างพิมพ์ออกไปแบบไม่รู้ตัวอ่ะ
.
.
คำถาม
1. เราอยากตัดความสัมพันธ์ก่ำกึ่งอย่างนี้ และคิดกับนางแค่เพื่อนเหมือนเดิม มีวิธีหรือทริคไหมที่จะทำให้เราหยุดการกระมฃทำอย่างนี้ คือเราไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วน่ะ พ่อแม่ ปู่ย่า น้องๆ เพื่อนๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าเรามีอาการสับสนในตัวเองอย่างนี้
2.เรามีโอกาศเป็นไบไหม คือเราก็ไม่อยากกำหนดให้ตัวเองเป็นเพสอะไรหรอกน่ะ แต่เราแค่อยากรู้เฉยๆว่าเรามีเนวโน้มหรือเปล่า เพราะเราเป็น ผญ. ประเภทคลั่ง ผช. มากกกกกกกก แล้วก็เป็นสาววายด้วยน่ะ อิอิ
3.เราจะหาวิธีบอกเรื่องพวกนี้เกี่ยวกับการที่เรากำลังหวั่นไหวกับ ผญ. อยู่หรือ การที่เราชอบแต่งชาย เราควรจะบอกยังไงให้เซฟที่สุด เพราะเราไม่อยากให้หนักถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติดหรือตัดความสัมพันธ์ครอบครัวกันเลยอ่ะ
ใครที่เข้ามาตอบก็ขอบคุณนะคะ เราจะเอาทุกคอมเมนต์มาคิดแล้วก็อาจจะมีนำไปใช้งานจริง ต้องขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ มีอะไรสงสัยตรงไหนก็ถามได้ เดี๋ยวมาตอบน้าาาาาาาาา
ตอนนี้หวั่นไหวกับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง???
.
.
ตอนนี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความชอบของเรา เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองเป็นไบหรือเปล่า?
เพราะเราแอบหวั่นไหวกับเพื่อนสนิทผู้หญิงของเรา....
เรื่องเรื่มจากที่เราเริ่มสนิทกันตอน ม.3 เทอม 1 ช่ววงเปิดเทอมวันแรกๆ ตอนแรกเราก็รู้สึกเฉยๆกับนาง นางก็เป็นผ็หญิงที่น่ารัก สนุกสนาน เป็นคนเฮฮา คนหนึ่งเลย นางเป็นตัวตบมุขของกลุ่มแต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ แล้วพอเราอยู่กับนางไปเรื่อยๆนานๆเข้าเราก็เริ่มรู้สึกชอบนางมากขึ้นจนตอนนี้รู้สึกว่าจะเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิท
.
.
ระหว่างวันแรกถึงสอบกลางภาคเทอม 1 มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลากหลายมากทั้งดีทั้งร้าย เราได้คุยกันมากขึ้นเนื่องจากมีรสนิยมและนิสัยคล้ายๆกัน ที่ผ่านมาเคยมีเพื่อนในกลุ่มเรา มาสารภาพรักกับนางด้วยอาการเหมือนเราตอนนี้เลย นางบอกปฏิเสธทันควัน แบบบ้าป่าว แกอารมณืชั่ววูปหรือเปล่า ทำเอาเพื่อนเราคนนั้นไม่คุยกับนางไปพักนึงเลย เพราะมองหน้ากันไม่ติด นางมาบ่นให้เราฟังว่ารู้สึกอึดอัดกับเพื่อนคนนั้นมาก แบบไม่ค่อยอยากมองหน้า นางบอกคงต้องรอให้นางลืมเรื่องนั้นไปคงกลับมาเหมือนเดิมหรือนางทำใจได้ ตอนแรกเราก็อึ้งน่ะที่เพื่อนมันสารภาพรักกับนาง แต่หลังจากนั้นเราก็รู้สึกเฉยๆ
.
.
มีครั้งหนึ่งตอนปลายเทอม1 เราได้มีโอกาศแต่งคอสเพลย์เป็นผีญี่ปุ่น เราแต่งเป็นผู้ชายใส่วิก ชุดคอสตูม การแต่งหน้า คือมาเต็มมาก (มีผช. ชมว่าหล่อด้วย เขินเลย////) แล้ววันนั้นนางแต่งน่ารักมาก นางใส่เสื้อฮาโอริของกิยู และแต่งหน้าสายฝอ วันที่แต่งเป็นวันฮาโลวีน ทางสายห้องเรียนอังกฤษของเราจัดขึ้นขึ้นครั้งแรก เราไปให้กำลังใจนาง เพราะนางจะออดิชั่นไปแข่งภาษาอังกฤษเป็นตัวแทนไปแข่งระดับภาคของ รร. เรา พอออดิชั่นจบเพื่อนๆก็ชวนกันไปกินข้าวที่โรงอาหาร ตัดมาตอนที่เรากำลังต่อแถวซื้ออาหาร มีเพื่อนเราคนหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าถ่ายเรา แล้วนางก็เอาไปล่งสตอรี่ เพื่อนคนนั้นบอกว่าเราหล่อ ออกโพผัวมาก แล้วคนที่เราหวั่นไหวอ่ะนางต่อแถวอยู่ด้านหลัง นางก็เลยแซวเราต่อว่า "หล่อขนาดนี้ มาเป็นผัวกุเถอะ กูพร้อมมม" แล้วช็อตนั้นคือเรา อึ้งไปเลยอ่ะ แบบทั้งเขินทั้งอายทำตัวไม่ถูกเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าจัวหวะนั้นหรือเปล่าที่ทำให้เราใจแอบหวั่นไหวโดยที่ไม่รู้ตัว
.
.
หลังจากนั้นเราก็เริ่มรักและเอ็นดูนาง ความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวเลย บอกตามตรง เราเริ่มเข้าหานางมากขึ้น แตะเนื้อต้องตัวมากขึ้น อย่างที่รู้ๆนางเป็นคนเฟรนลี่ บางครั้งนางก็แกล้งตีนมหรือหน้าอกเรามั้ง แล้วก็ตีตูดเราแต่เราดุไปรอบเดียวนางกลัว นางเลยไม่ทำอีกเลย5555 นั้นแหละนางเป็นพวกให้เพื่อนสนิทผู้หญิงแตะเนื้อแตะตัวได้ง่าย จนพอมาปลายเดือนพฤศจิกายน เราก็เริ่มอยากกอดนาง โดยที่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม??? จากที่เราปฏิเสธการที่ให้นางกอด กลับกลายเป็นว่าเรากอดนางแทน กอดบ่อยด้วยน่ะ เห็นนางว่างๆก็กอดแบบไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีคือร่างกาย มือ มันกอดไปเรียนร้อยแล้ว งงหนักมากตอนนั้น55555
.
.
พอเทอม 2 เราก็ยุ่งมากยิ่งขึ้น เพราะกำลังจะขึ้น ม.4 ต้องหาที่เรียน เราหมกมุนกับหนังสือติวสอบมาก เพราะจะไปสอบที่กรุงเทพ เราทั้งต้องติวแล้วก็ส่งงานประคับประคองเกรดม.3 ให้เกรดสวย เราเลยไม่ได้กอดนางไปช่วงหนึ่ง แต่เราก็ไม่เคยละเลยนางเลยน่ะ ถึงจะไม่ได้คุยแบบเห็นหน้าหรือกอดนางบ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่เราก็ทักหานางเวลาที่ว่างเสมอ ถามว่าเป็นไงบ้าง เหนื่อยม่ะ โอเคป่ะ สู้ๆน่ะเป็นกำลังใจให้(พร้อมอิโมจิหน้ายิ้มแก้มแดงและหัวใจสีแดง) นางก็ดูดีใจน่ะ บางครั้งเราก็หาเรื่องชวนนางติวเหมือนกัน เพราะจะไปสอบ รร. เดียวกัน (ถึงจะสอบคนละสายก็เถอะ) เหตุผลที่นัดก็ไม่ได้มีแค่เรื่องติวหรอก เพราะเราอยากเห็นหน้านางมากกว่า เห็นหน้านางที่ไรล่ะชื่นใจทุกที เหมือนได้เติมพลังงาน ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง เห้ออออออ แสนดีหรือเกิน
.
.
ตอนที่เราไปสอบเราและนางเดินทางไปสอบ เราก็พยายามทำเต็มที่ แต่สุดท้ายเราก็สอบไม่ติด แต่ไม่เป็นไรหรอก (แต่นางสอบติด!!!! สายภาษาจ้า) ในวันที่สอบนั้นเราเจอนางแต่ไม่ได้คุยไรมาก เพราะสอบคนละโดมและพ่อ แม่ น้องๆ ก็มาด้วย แล้วนางก็รีบกลับบ้านเพราะมีธุระด่วน รู้สึกเซ้งมากที่เจอกันได้แค่แปปเดี๋ยว เราคิดไว้ว่าอยากจะพานางไปช็อปปิ้งซะหน่อย ไหนๆก็มีกรุงเทพฯ แต่ก็กลายเป็นว่าอดจร้าาา ทำได้แค่ซื้อหนังสือกาตูนถ่ายส่งไปให้นางดู ง่ายๆหาเรื่องคุยกับนาง 555555
.
.
พอกลับมาจากการสอบที่กรุงเทพฯ กลับมาก็ต้องเจอกับสอบปลายภาค บอกเลยโอ้ยยยยยยยยยยยจะบ้าตาย ช่วงนั้นเราเครียดหนักมากกกก เพราะเราก็ต้องหาที่เรียนต่อและต้องสอบปลายภาคพร้อมกันอีก สรุปเราก็ต่อ รร. เดิม แต่เปลี่ยนสายไปอยู่วิทย์-คณิต-อังกฤษ เราแถบไม่ได้คุยกับนางเลยจ้า แชทก็ไม่ได้คุยเพราะแม่อยากให้จริงจังมากขึ้น มาคุยอีกทีตอนสอบปลายภาควันสุดท้าย ตอนนางกลับบ้านไป เรากำลังรอแม่อยู่ เราตัดสินใจบอกนางว่าเราเป็นคอสเดรส เราตัดสินใจนานมากว่าจะบอกนางดีไหม กลัวนางรับไม่ได้ สรุปนางรับได้จ้า พีคเฉยๆ กลายเป็นว่าเราก็ไม่ต้องมาคิดหนักกับนาง เพราะนางมองหน้าเราไม่ติด ดีเฉยเลย ดีใจมากกก
.
.
พอหลังจากสอบปลายภาคเสร็จ ห้องของเราก็มีปาร์ตี้เล็กจัดฉลองเลี้ยงที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเรา วันนั้นเราแต่งตัวแมยมากจ้าาา จำได้แม่นเลย เสื้อเชื้ตสีดำ กางเกงยาวสีดำ ร้องเท้าผ้าใบสีดำ เสื้อกันหนาวคูลๆสีดำ หมัดผม มามาดเท่เลยจ้า เพื่อนในห้องแซวหล่อกว่า ผช. ในห้อง แล้วนางก็.....แต่งตัวเซ็กซี่มาก ใจเราแบบอ๊ากกดกหด่ฟห่วาด่ห่กดว แบบนี้อ่ะ ปากแดง แต่งหน้าสายฝอ กระโปรงเลยเข่าสีแดง ถุงหน่อยสีดำ ร้องเท้าส้นสูง เสื้อดำรัดรูป ผมล่อนๆหน่อย คือลือมากกก วันนั้นแบบอยากให้นางใส่ชุดนั้นบ่อยๆ พองานเริ่มนางดื่มเยอะมากจนเซ ด้วยความที่เราก็ศึกษาวิธีดื่มมาจึงไม่ค่อยเมาเพราะไม่ดื่มเยอะ ค่อยๆจิบ ชิมบรรยากาศ แม่นางมารับนางเร็วมากแบบงานเริ่ม 1 ทุ่ม แม่นางมารับ 2 ทุ่ม แบบอุตต๊ะ! เร็วมาก อดเห็นชุดสวยนานเลยๆ เส้า ;--;
.
.
ตอนระหว่างปิดเทอมรอเปิด ม.4 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราก็มานั้งทบทวนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของนาง เพราะเราก็ตะงิดใจกับเรื่องนี้มานานแล้วเหมือนกัน เราคิดไปคิดมา สรุปเราแอบหวั่นไหวกับนางจริงจ้า แบบเราลองสังเกตุแชทที่เราคุยกับนางมาลองเอามาเทียบกันดู ชัดเจนเลย เราแอบชอบนางแบบกึ่งๆไม่มั่นใจ พักหลังๆมานี้ เราแอบบอกรักนางแบบอ้อมๆ อ้อมๆแบบ เรารักเธอน่ะ ที่รัก แบบนี้อ่ะ 55555 แต่เวลาที่นางบอกว่าแอบชอบนางหรอ เรารู้สึกร้อนตัวชอบเผลอพิมพ์ตอบกลับไปว่า "ไม่อ่ะ กุคิดกับแค่เพื่อนจ้าา" แต่ในความเป็นจริงเราคิดเลยกับนางมานิดนึงแล้วอ่าาาาา เราคิดถึงนางตลอดเลย อยากคุยกับนางตลอด เห็นอะไรก็คิดถึงแต่นาง แบบในหัวมีแต่นางอะช่วงนี้ แต่ไม่ค่อยแชทไปหานางบ่อนน่ะ กลัวนางรำคาญ55555 ว่าง่ายๆคลั่งรักนางแล้วตอนนี้ แบบอาจจะกู่ไม่กลับก็ได้ ไม่รู้เหมือนกัน แล้วไอ้ความที่เราอ่ะ ก็มั่นใจมาตลอดว่าชอบ ผช. เท่านั้น พอมาเจอนางล่ะมันไขวเขวไปหมด ตอนนี้คิดไม่ออกแล้ว แต่เราอยากให้อยากตัดความรู้สึกนี้ออกไป ที่คิดเกินเพื่อนกับนาง เราไม่อยากเสียนางไปอ่ะ เราคิดกับนางเกินกว่าคนนั้นอีกแบบ เราเป็น ผญ. โพรุกอ่ะ เข้าใจใช่ไหม แล้วแบบเจอนางทีไรล่ะอยากจะเข้าไปอ้อนนาง เราอยากดูและและปกป้องนางมาก ชนิดที่ว่าเอ็นดูหนักมากกกกกก ตอนนี้ก็พยายามเพลาๆลงบางแล้วที่ใช่มุขหยอด จีบ บอกรักอย่างนี้อ่ะ แต่มันก็ยังเป็นบ้างพิมพ์ออกไปแบบไม่รู้ตัวอ่ะ
.
.
คำถาม
1. เราอยากตัดความสัมพันธ์ก่ำกึ่งอย่างนี้ และคิดกับนางแค่เพื่อนเหมือนเดิม มีวิธีหรือทริคไหมที่จะทำให้เราหยุดการกระมฃทำอย่างนี้ คือเราไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วน่ะ พ่อแม่ ปู่ย่า น้องๆ เพื่อนๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าเรามีอาการสับสนในตัวเองอย่างนี้
2.เรามีโอกาศเป็นไบไหม คือเราก็ไม่อยากกำหนดให้ตัวเองเป็นเพสอะไรหรอกน่ะ แต่เราแค่อยากรู้เฉยๆว่าเรามีเนวโน้มหรือเปล่า เพราะเราเป็น ผญ. ประเภทคลั่ง ผช. มากกกกกกกก แล้วก็เป็นสาววายด้วยน่ะ อิอิ
3.เราจะหาวิธีบอกเรื่องพวกนี้เกี่ยวกับการที่เรากำลังหวั่นไหวกับ ผญ. อยู่หรือ การที่เราชอบแต่งชาย เราควรจะบอกยังไงให้เซฟที่สุด เพราะเราไม่อยากให้หนักถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติดหรือตัดความสัมพันธ์ครอบครัวกันเลยอ่ะ
ใครที่เข้ามาตอบก็ขอบคุณนะคะ เราจะเอาทุกคอมเมนต์มาคิดแล้วก็อาจจะมีนำไปใช้งานจริง ต้องขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ มีอะไรสงสัยตรงไหนก็ถามได้ เดี๋ยวมาตอบน้าาาาาาาาา