เหตุการณ์แรก
นายว่าทีฯ จอดรถขวางรถผม จอดรถเสร็จเดินปรี่เข้ามาจนผมต้องเดินหนี (อ่อนกว่าผม 10ปี มีศักย์เป็นหลาน) เขาโกรธเรื่องที่กระทบกระทั้งกันเรื่องทางเข้า-ออก จนมีปากเสียงกัน จบที่บ้านนายว่าที่ฯเดินเข้าบ้านไป แล้วผมก็ไปธุระนอกบ้าน (ตอนเกิดเหตุรถผมออก รถเขาเข้ามา)
พอผมออกไปประมาณไม่ถึง 10 นาที มีเสียคล้ายเสียงปืนดังมาจากบ้านนายว่าที่ฯ คนที่บ้านผมก็เลยเรียกสายตรวจเข้ามา สายตรวจบอกว่าเข้าไปค้นบ้านนายว่าที่ฯไม่ได้, และไม่มีพยานเห็นว่าเป็นการยิงปืน จะให้เข้าไปจับก็ไม่ได้เช่นกัน ก็เลยพากันไปโรงพักทั้ง 2 ฝ่าย แต่ฝ่ายนายว่าที่ฯ ไปโรงพักไม่ครบ พ่อของนายว่าที่ฯไม่ยอมไปโรงพัก ให้ลูกชาย 3 คนไป
ตำรวจมาไกล่เกลี่ยฝ่ายผมว่า "ไม่มีหลักฐานว่าเป็นการยิงปืน ผมอาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จได้"

ผมเคยเห็นปืนที่เป็นของตาของนายว่าที่ฯ สมัยที่ยังไม่ได้มีปากเสียงกัน ตอนนั้นเขาเอายิงขึ้นไล่ขโมยที่ลักตัดสายไฟ) ส่วนฝ่ายนายว่าที่ฯรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายผมอีก ต่างคนต่างอยู่
เอาเกียรติของ ว่าที่ร้อยตรี เป็นประกัน
(ทางเข้าออกที่เป็นกรณีพิพาทนั้น เขาชอบไปฟ้องคนอื่นว่ายังไม่มีการรังวัด ชอบเอาข้าวของมาตั้งเกินจากที่เขาออกมา แล้วขับรถรุกล้ำเข้าไปในที่ของผมแทน คือที่เขาอยู่ซ้าย ที่ผมอยู่ขวา ทางเข้าออกอยู่ตรงกลาง ทางผมก็รังวัดไปแล้ว แต่ก็เขาพูดไม่รู้เรื่อง ออกแนวก่อก่วน หัวหมอ)
หลังจาเหตุการณ์นั้น ทางผมลงทุนล้อมรั้วที่ของผมตามที่ได้รังวัดไว้เรียบร้อย ชัดเจน เหลือแต่ทางนายว่าที่ฯ ที่เอาราวตากผ้ามาวางให้ล้ำมาในทาง ก่อกวน เหมือนเดิม
เหตุการณ์ที่สอง
เขาก็ทำเหมือนเดิมคือก่อกวน เอารถเข็นไปขวางทางเข้าออกให้เลยมาจากที่ดินของเขา แล้วมันเป็นทางที่ไม่ได้ตั้งใจออกแบบให้เป็นถนนอย่างดี มุมแล้วมันต่ำกว่า 90 องศา แต่ถ้าต่างคนต่างอยู่ที่ของตัวเองก็มีทางกว้างพอให้เลี้ยวได้ (และถ้าเขาไม่มารุกล้ำที่ของผมๆก็ไม่ต้องกั้นรั้ว) นอกจากผมกั้นรั้วแล้วผมก็ขอความร่วมมือสายตรวจเข้ามาที่บ้านบ่อยขึ้น มีอยู่คืนหนึ่งผมก็ให้สายตรวจไปเลื่อนรถเข็นเจ้าปัญหานั้น นายว่าที่ฯก็ออกมาแสดงตัวบอกรถเขาไม่ได้กีดขวาง และก็พูดเหมือนเดิมคือไม่ได้รังวัดฯทาง
และก็แนะนำตัวว่า "ผมว่าที่ร้อยตรี....." ตำรวจก็เจรจาเก่ง งั้นเราต้องเข้าใจนะว่ามันไม่เหมาะสม เข็นรถนี้เข้าไปเถอะ เขาก็เข็นรถไปแอบ แต่พอตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปเท่านั้นแหละ เขาก็เอารถมาขวางเหมือนเดิม
นี่ยังไม่มียศใหญ่โตยังนิสัยแบบนี้ ผมว่าไม่น่าจะเรียกว่าชาติทหาร น่าจะหาคำขนานนามใหม่ดีกว่า
ว่าที่ร้อยตรี สุดกร่าง เอายศ(หลอกๆ)มารับรองตัวเอง ตั้งแต่โรงพัก จนตำรวจมาบ้านยังไม่เลิกนิสัย
นายว่าทีฯ จอดรถขวางรถผม จอดรถเสร็จเดินปรี่เข้ามาจนผมต้องเดินหนี (อ่อนกว่าผม 10ปี มีศักย์เป็นหลาน) เขาโกรธเรื่องที่กระทบกระทั้งกันเรื่องทางเข้า-ออก จนมีปากเสียงกัน จบที่บ้านนายว่าที่ฯเดินเข้าบ้านไป แล้วผมก็ไปธุระนอกบ้าน (ตอนเกิดเหตุรถผมออก รถเขาเข้ามา)
พอผมออกไปประมาณไม่ถึง 10 นาที มีเสียคล้ายเสียงปืนดังมาจากบ้านนายว่าที่ฯ คนที่บ้านผมก็เลยเรียกสายตรวจเข้ามา สายตรวจบอกว่าเข้าไปค้นบ้านนายว่าที่ฯไม่ได้, และไม่มีพยานเห็นว่าเป็นการยิงปืน จะให้เข้าไปจับก็ไม่ได้เช่นกัน ก็เลยพากันไปโรงพักทั้ง 2 ฝ่าย แต่ฝ่ายนายว่าที่ฯ ไปโรงพักไม่ครบ พ่อของนายว่าที่ฯไม่ยอมไปโรงพัก ให้ลูกชาย 3 คนไป
ตำรวจมาไกล่เกลี่ยฝ่ายผมว่า "ไม่มีหลักฐานว่าเป็นการยิงปืน ผมอาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จได้"
(ทางเข้าออกที่เป็นกรณีพิพาทนั้น เขาชอบไปฟ้องคนอื่นว่ายังไม่มีการรังวัด ชอบเอาข้าวของมาตั้งเกินจากที่เขาออกมา แล้วขับรถรุกล้ำเข้าไปในที่ของผมแทน คือที่เขาอยู่ซ้าย ที่ผมอยู่ขวา ทางเข้าออกอยู่ตรงกลาง ทางผมก็รังวัดไปแล้ว แต่ก็เขาพูดไม่รู้เรื่อง ออกแนวก่อก่วน หัวหมอ)
หลังจาเหตุการณ์นั้น ทางผมลงทุนล้อมรั้วที่ของผมตามที่ได้รังวัดไว้เรียบร้อย ชัดเจน เหลือแต่ทางนายว่าที่ฯ ที่เอาราวตากผ้ามาวางให้ล้ำมาในทาง ก่อกวน เหมือนเดิม
เหตุการณ์ที่สอง
เขาก็ทำเหมือนเดิมคือก่อกวน เอารถเข็นไปขวางทางเข้าออกให้เลยมาจากที่ดินของเขา แล้วมันเป็นทางที่ไม่ได้ตั้งใจออกแบบให้เป็นถนนอย่างดี มุมแล้วมันต่ำกว่า 90 องศา แต่ถ้าต่างคนต่างอยู่ที่ของตัวเองก็มีทางกว้างพอให้เลี้ยวได้ (และถ้าเขาไม่มารุกล้ำที่ของผมๆก็ไม่ต้องกั้นรั้ว) นอกจากผมกั้นรั้วแล้วผมก็ขอความร่วมมือสายตรวจเข้ามาที่บ้านบ่อยขึ้น มีอยู่คืนหนึ่งผมก็ให้สายตรวจไปเลื่อนรถเข็นเจ้าปัญหานั้น นายว่าที่ฯก็ออกมาแสดงตัวบอกรถเขาไม่ได้กีดขวาง และก็พูดเหมือนเดิมคือไม่ได้รังวัดฯทาง และก็แนะนำตัวว่า "ผมว่าที่ร้อยตรี....." ตำรวจก็เจรจาเก่ง งั้นเราต้องเข้าใจนะว่ามันไม่เหมาะสม เข็นรถนี้เข้าไปเถอะ เขาก็เข็นรถไปแอบ แต่พอตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปเท่านั้นแหละ เขาก็เอารถมาขวางเหมือนเดิม
นี่ยังไม่มียศใหญ่โตยังนิสัยแบบนี้ ผมว่าไม่น่าจะเรียกว่าชาติทหาร น่าจะหาคำขนานนามใหม่ดีกว่า