สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
“
โปรดดูสัญญาจ้างโดยละเอียด !
*คำพิพากษาฎีกาที่ 8307/2554
ข้อห้ามลูกจ้างที่ลาออกไปทำงานกับบริษัทคู่แข่งโดยมีกำหนดระยะเวลา ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ลาออกไม่ถึง 1 เดือน ก็ไปทำงานกับบริษัทอื่นซึ่งเป็นคู่แข่ง ในกำหนดระยะเวลาต้องห้าม ถือว่าผิดสัญญาจ้างแรงงาน ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย....!
ค่าเสียหายดังกล่าว (ตามฎีกาข้างต้น)เป็นค่าเสียหายล่วงหน้าอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ หากสูงเกินส่วน ศาลแรงงานกลางมีอำนาจลดลงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
จำเลยไปทำงานกับบริษัท ........ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ ขอให้มีคำสั่งห้ามจำเลย ทำงานกับบริษัท ........ จำกัด ห้ามทำธุรกิจหรือทำงานในธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของโจทก์ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย หากฝ่าฝืนคำสั่งห้ามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอีก 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย นับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้าม
โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเอาข้อมูลใดอันเป็นความลับทางการค้าใดของโจทก์ไปเปิดเผยแก่ลูกค้ารายใด ที่ไหน เมื่อใด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างไร ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ข้อกำหนดห้ามจำเลยไปประกอบธุรกิจหรือทำงานในธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ เป็นการตัดทางประกอบอาชีพทั้งหมดเด็ดขาดจนไม่อาจดำรงอยู่ได้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นโมฆะ
คำพิพากษาฎีกาที่2169/2557
ข้อตกลงในการห้ามจำเลย ทำงานให้คู่แข่ง หลังจากพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างของโจทก์นั้น เป็นข้อตกลงในการจำกัดสิทธิของจำเลย จึงต้องตีความในข้อตกลงดังกล่าวโดยเคร่งครัด
เมื่อเงื่อนไขในข้อตกลงนั้น เป็นการห้ามมิให้ประกอบกิจการ หรือเข้าร่วมในการประกอบกิจการใดๆเอง ดังนั้น การที่จำเลยเข้าไปเป็นเพียงลูกจ้างของบริษัท ซ. แม้บริษัทที่เป็นนายจ้างใหม่ของจำเลย จะเป็นบริษัทที่แข่งขันกับธุรกิจของโจทก์ก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการ หรือเข้าร่วมในการประกอบกิจการ อันเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของโจทก์ด้วยตนเอง จำเลยจึงไม่ได้ผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3598/2561
ข้อสัญญาห้ามลูกจ้างเข้าทำงานกับบริษัทที่มีลักษณะเป็นการค้าแข่งกับบริษัทเมื่อพ้นจากการเป็นพนักงานภายใน 2 ปี มิได้เป็นการห้ามประกอบอาชีพอันเป็นการปิดทางทำมาหาได้อย่างเด็ดขาด จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ลักษณะสิทธิประโยชน์ของคู่กรณีที่เป็นไปโดยชอบในเชิงของการประกอบธุรกิจ จึงมิใช่ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและไม่ขัดต่อกฎหมาย
พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐”
ซึ่งกำหนดให้ศาลมีอำนาจเข้ามาพิจารณาข้อสัญญาต่างๆที่ทำกันไว้
หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม
หรือเป็นการทำให้ฝ่ายที่ไม่ได้มีอำนาจในการร่างสัญญา
ต้องรับภาระหรือรับผิดชอบที่ไม่เป็นธรรม
หรือเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ศาลก็มีอำนาจที่จะกำหนดให้
“ได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี”
ซึ่งกำหนดให้ศาลมีอำนาจเข้ามาพิจารณาข้อสัญญาต่างๆที่ทำกันไว้
หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม
หรือเป็นการทำให้ฝ่ายที่ไม่ได้มีอำนาจในการร่างสัญญา
ต้องรับภาระหรือรับผิดชอบที่ไม่เป็นธรรม
หรือเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ศาลก็มีอำนาจที่จะกำหนดให้
“ได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี”
โปรดดูสัญญาจ้างโดยละเอียด !
*คำพิพากษาฎีกาที่ 8307/2554
ข้อห้ามลูกจ้างที่ลาออกไปทำงานกับบริษัทคู่แข่งโดยมีกำหนดระยะเวลา ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ลาออกไม่ถึง 1 เดือน ก็ไปทำงานกับบริษัทอื่นซึ่งเป็นคู่แข่ง ในกำหนดระยะเวลาต้องห้าม ถือว่าผิดสัญญาจ้างแรงงาน ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย....!
ค่าเสียหายดังกล่าว (ตามฎีกาข้างต้น)เป็นค่าเสียหายล่วงหน้าอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ หากสูงเกินส่วน ศาลแรงงานกลางมีอำนาจลดลงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
จำเลยไปทำงานกับบริษัท ........ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ ขอให้มีคำสั่งห้ามจำเลย ทำงานกับบริษัท ........ จำกัด ห้ามทำธุรกิจหรือทำงานในธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของโจทก์ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย หากฝ่าฝืนคำสั่งห้ามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอีก 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย นับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้าม
โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเอาข้อมูลใดอันเป็นความลับทางการค้าใดของโจทก์ไปเปิดเผยแก่ลูกค้ารายใด ที่ไหน เมื่อใด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างไร ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ข้อกำหนดห้ามจำเลยไปประกอบธุรกิจหรือทำงานในธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ เป็นการตัดทางประกอบอาชีพทั้งหมดเด็ดขาดจนไม่อาจดำรงอยู่ได้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นโมฆะ
คำพิพากษาฎีกาที่2169/2557
ข้อตกลงในการห้ามจำเลย ทำงานให้คู่แข่ง หลังจากพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างของโจทก์นั้น เป็นข้อตกลงในการจำกัดสิทธิของจำเลย จึงต้องตีความในข้อตกลงดังกล่าวโดยเคร่งครัด
เมื่อเงื่อนไขในข้อตกลงนั้น เป็นการห้ามมิให้ประกอบกิจการ หรือเข้าร่วมในการประกอบกิจการใดๆเอง ดังนั้น การที่จำเลยเข้าไปเป็นเพียงลูกจ้างของบริษัท ซ. แม้บริษัทที่เป็นนายจ้างใหม่ของจำเลย จะเป็นบริษัทที่แข่งขันกับธุรกิจของโจทก์ก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการ หรือเข้าร่วมในการประกอบกิจการ อันเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของโจทก์ด้วยตนเอง จำเลยจึงไม่ได้ผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3598/2561
ข้อสัญญาห้ามลูกจ้างเข้าทำงานกับบริษัทที่มีลักษณะเป็นการค้าแข่งกับบริษัทเมื่อพ้นจากการเป็นพนักงานภายใน 2 ปี มิได้เป็นการห้ามประกอบอาชีพอันเป็นการปิดทางทำมาหาได้อย่างเด็ดขาด จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ลักษณะสิทธิประโยชน์ของคู่กรณีที่เป็นไปโดยชอบในเชิงของการประกอบธุรกิจ จึงมิใช่ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและไม่ขัดต่อกฎหมาย
แสดงความคิดเห็น
หากมีบริษัทคู่แข่งมาชวนไปทำงาน แต่บริษัทปัจจุบันมีกฏว่าห้ามลาออกไปบ.คู่แข่ง ควรทำอย่างไรครับ
แต่ทีนี้ ที่บริษัทปัจจุบันมีเขียนไว้ในสัญญาว่า หลังจากลาออก ห้ามไปอยู่ในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจในไลน์เดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
แต่ทีนี้คุณก็ไม่มั่นใจ เพราะบริษัทใหม่ จะว่าไปก็มีบางส่วนที่ทำธุรกิจในไลน์เดียวกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เกี่ยว
แต่หาก HR บอกเราว่า ไม่ต้องห่วง คนละธุรกิจกัน คุณจะวางใจได้ไหม
และหากโดนฟ้องมา เราต้องรับผิดชอบคนเดียวใช่หรือไม่ บริษัทใหม่ไม่ต้องมีส่วนร่วมใดๆใช่หรือไม่ครับ
ในที่นี้เราไม่ควรเสี่ยงใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ