อย่าโยนบาปให้วัคซีน

"ต่อให้มีวัคซีนที่ดีที่สุด แต่ถ้าทุกคนยังไม่ดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด ก็ไร้ประโยชน์นะจ้ะ" น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์
 
แม้ดราม่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวัคซีนระหว่างเพื่อนสนิทอย่างน็อต วรฤทธิ์ กับ เพชร กรุณพล จะจบลงแล้ว แต่หากเอาอคติและการเมืองออกสักแป๊บ จะเห็นได้ว่า สิ่งที่คุณน็อตคิด เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และมีผลจริงในทางปฏิบัติ 


ขอบคุณรูปจากไทยรัฐ
 

ข้อมูลสนับสนุนจากผู้มีประสบการณ์ตรงในการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจีน จากเพจของครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ พิธีกรคนดัง และเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ Angkriz รวมถึงกรณีศึกษาจากเมืองจีน เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของ รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สอดคล้องต้องกัน ซึ่งไขข้อสงสัยว่า ทำไมจีน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ติดโควิด-19 ก่อนใคร แต่สามารถบริหารจัดการการแพร่ระบาดได้ดีที่สุด ฉีดวัคซีนให้กับประชากรของประเทศได้มากที่สุด และใช้วัคซีนที่ผลิตในจีนเองทั้งหมด หลัก ๆ คือวัคซีนซิโนฟาร์มและซิโนแวค ที่เป็นดราม่าโยงการเมืองอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ เป็นเพราะอะไร เราสรุปข้อมูลมาให้ตามนี้
 
1. ช่วงระหว่างวันที่ 21 พ.ค. ถึง 18 มิ.ย. 2564 พบว่ามีชาวต่างชาติติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าเข้ามาในประเทศจีน และมีการแพร่ระบาดในเมืองกวางโจว 
- เริ่มเรื่องจากร้าน McDonald’s ที่มีคนติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจามในร้าน ใช้เวลา 14 วินาที ในการกระจายเชื้อไปยังคนในร้าน ทันทีที่ทราบเรื่อง ทางการจีนทำการตรวจเชื้อโควิดเชิงรุก โดยปิดตึก ปิดชุมชนที่มีการระบาด และตรวจ QR code อย่างเข้มงวด 
2. รัฐบาลจีนสั่งห้ามการเดินทางหรือเคลื่อนย้ายผู้คนอย่างเข้มงวด และตรวจตราอย่างจริงจัง เพื่อสะกัดการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยบริหารจัดการผ่าน data platform หลักการคือ พิจารณาจาก QR code ของประชาชน ที่เก็บรวบรวมในฐานข้อมูลของรัฐอย่างเป็นระบบ และบริหารจัดการอย่างมีเอกภาพ 
3. การตรวจ
- หากผลออกมาเป็น สีเขียว จะได้รับอนุญาตให้เดินทางในท้องที่ได้
- หากเป็น สีเหลือง ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน ห้ามออกไปไหน
- หากเป็นสีแดง ต้องไปโรงพยาบาลสถานเดียว หากจะออกนอกเมือง ต้องมีผล test ภายใน 48 ช.ม. จึงจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ขึ้นรถไฟ หรือขับรถ ออกต่างเมืองได้
4. จีนระดมฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองกวางโจว จำนวนคนฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น จนครอบคลุมทั้งหมด 
5. จีนใช้หลากหลายรูปแบบในการเก็บ data เช่น ข้อมูล Health Code จากผู้มารับการฉีดวัคซีน 
6. จีนเชื่อว่า วัคซีนคืออาวุธสำคัญในการแก้วิกฤติใหญ่ในรอบนี้ 
- ข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.ค. 2564 บอกว่าจีนระดมฉีดวัคซีนไปแล้วมากที่สุดในโลก!! จำนวนกว่า 1,331 ล้านโดส ครอบคลุมสัดส่วน 47.6% ของประชากรจีนทั้งหมด
7. จีนใช้วัคซีนของจีนเองเท่านั้น เพราะเชื่อว่าวัคซีนของเขาจัดการสายพันธุ์เดลต้าได้ โดยใช้ 3 ยี่ห้อหลัก คือ 
- Sinopharm (ใช้เชื้อตาย)
- Sinovac (ใช้เชื้อตาย) 
- Can Sino (ใช้เวคเตอร์ แบบ AZ) 
8. วัคซีนที่จีนคิดค้นพัฒนาขึ้นเองมีไม่ต่ำกว่า 5 ยี่ห้อ (บางตัวกำลังทดลองผลให้แน่ใจก่อนนำมาใช้) 
9. จีนอาจเพิ่มการฉีดวัคซีนเชื้อตายที่ผ่านการรับรองจาก WHO แล้ว (คือ Sinopharm และ Sinovac) มากกว่า 2 โดส เพื่อรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างทดลองเพื่อวิเคราะห์ว่า ฉีดตัวไหน ฉีดอย่างไร และควรฉีดเพิ่มกี่โดส 
- ทางการจีนย้ำว่า ยิ่งเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มากเท่าไร การคิดค้นพัฒนาวัคซีนของจีนก็ยิ่งต้องพัฒนา ไม่ได้หยุดนิ่ง
10. จีนสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ ภายในเวลาประมาณเดือนกว่า ๆ โดยไม่ต้องล็อคดาวน์ทั้งเมือง 
- หลังจากจีนจัดการสกัดเชื้อเดลต้าในเมืองกวางโจวได้สำเร็จ ก็ประกาศผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดทั้งหลายในเมืองกวางโจวแล้ว
11. เคสสายพันธุ์เดลต้าในกวางโจวครั้งนี้ ไม่มีคนตาย
12. ทีมวิจัยจีนวิเคราะห์ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลต้า จากการระบาดครั้งแรกในจีน โดยใช้วิธีการตรวจวัดระดับเชื้อเดลต้า ในผู้ป่วย 62 คน และนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับระดับของเชื้อไวรัสในผู้ติดเชื้อ 63 คน ซึ่งติดเชื้อในปี 2020 ที่เป็นเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม และสรุปว่า “เนื่องจากผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่ติดเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้เร็วกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรีบแยกกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อกลายพันธุ์นี้ในทันทีเป็นเวลา 14 วัน” 
 
ความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ในเมืองกวางโจวครั้งนี้ มาจากการตรวจตราอย่างเข้มข้นขั้นสูงสุด ผ่านการบริหารจัดการอย่างมีระบบ มีเอกภาพ และมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ประชาชนคนจีนส่วนใหญ่มีวินัย เคารพกฎเกณฑ์ด้านสาธารณสุข จึงให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่มีดราม่าและการเมืองเข้าแทรก เพราะทุกคนเห็นความสำคัญพื้นฐานของชีวิตตนเองและคนรอบข้าง 
 
กรณีศึกษาจากการยับยั้งการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่เมืองกวางโจวครั้งนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า การจัดการการแพร่ระบาดจะได้ผลหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่องค์ประกอบโดยรอบทุกอย่างต้องพร้อมด้วย ไม่ว่าจะเป็นวินัยและความร่วมมือร่วมใจของคนในพื้นที่ การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น อย่าโยนบาปให้วัคซีนจีนหรือวัคซีนเชื้อตาย เพราะวัคซีนใด ๆ ก็ไม่ใช่แพะ และไม่ใช่หมากของเกมการเมือง (geopolitics) ทั้งในและต่างประเทศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่