อย่างที่เรารู้กัน ว่า เวทย์มนต์ เกิดจาก การดึงพลังงานธาตุต่างๆในจักรวาลมาใช้ เช่น ธาตุ ดิน น้ำ ลืม ไฟ จนเกิดเป็น การใช้พลังในรูปแบบต่างๆมากมาย ถ้าเรียกในทางพุทธ ก็คือ สามารถ ทำฤทธิ์ให้เกิด อิทธิ ปาฏิหาริย์ ได้ หรือเรียกง่ายๆอีก คือ ใช้พลังได้นั้นเอง การจะใช้ พลังได้ ก็ต้องมา จิต ซึ่ง จิตปกติไม่สามารถใช้ควบคุมพลังจนเกิดเป็นพลังได้ ต้องเป็นจิตที่แกร่งกล้าเท่านั้น หรือ ถ้าในทางพุทธ ก็ คือ จิตจะต้องมี สมาธิ ซึ่งเราจะรู้ได้ไงว่าจิตเรามี สมาธิ แค่ไหน ก็ต้อง ใช่ ญาณ เป็นตัวชีวัด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 ญาณเลย ในทาง พุทธบอกว่าที่ จิตจะใช้พลังได้ ต้องมี สมาธิให้ถึง ญาณ 4 กันเลยที่เดียว จิตจึงสามารถ ใช้พลังได้ ส่วนจะได้พลังอะไรก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบ จิตที่ถูกฝึกมา ไม่ก็รูปแบบเฉพาะบุคคล อันนี้ก็ตอบยาก ส่วน ถ้า สมาธิไม่ถึง ญาน 4 จิตไม่สามารถใช้พลังโดยตรงได้ แบบอยู่ กึงกลาง 3 ถึง 4 หรือเรียกง่าย ญาน 3.2 3.3 3.5 ก็คงได้ ก็ต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า คาถา หรือ พิธีกรรม เป็นตัวกลางทำให้ เกิด พลัง ซึ่งเราเรียกสิงนี้ว่า เวทย์มนต์ ซึ่ง ไสยาศาสตร์ ก็คือหนึงในนั้น ผมมอง ญาณนี้ละ คือ กุญแจของการใช้พลัง จะ ญาน 3 หรือ 4 ผมมองว่าไม่ได้ต่างกันมาก ถ้าอธิบายง่ายๆ ให้เห็นภาพ สมมุติอยู่ไทย จะวารปเคลื่อนย้ายตัวไป เมกา ถ้า ญาน 4 ก็กำหนดจิตสังพลังให้เคลื่อนย้ายร่างกายได้เลย ตรงนี้พระพุทธเจ้าก็ทำบ่อยมาก เวลาไปภพภูมิอื่น ถ้าเป็น ญาน 3 จะยุ่งยากกว่า ตรงที่ ต้องร่าย คาถา พิธีกรรม จึงจะเคลื้อนย้ายมวลสารได้ คือ สังจิตโดยตรงไม่ได้ เพราะ สมาธิ ไม่ถึง ญาณ 4 แต่ก็ ญาณ 3 สูงพอที่จะ สวดคาถาให้เกิดพลังได้ เห็นถึงความคล้ายครึงกันแล้วใช้ไหมครับ พลังเดียวกัน แต่รูปแบบต่างกันเท่านั้นเอง ญานนี้ละ คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดพลัง ซึ่งไม่จำเป็น ต้องชาวพุทธเท่านั้นที่ จะทำสมาธิเข้าถึง ญาน 3 หรือ 4ได้ ศาสนาอื่นก็ทำได้ คนที่ไม่ใช้นักบวชก็ทำได้ อย่าว่าแต่ มนุษย์ที่ทำได้เลย พวกเทวดา สิงมีชีวิตเทพภพภมิอื่น ก็ยังทำได้ด้วยซ้ำในทางพุทธ นี้เผลอๆ เอเลี่ยนก็ทำได้อีก ขอแค่ เป็นสิงมีชีวิต ที่ไขความลับของ จิตได้ ก็ทำได้ แสดงว่า ศาสตร์เวทย์มนตร์ไม่ได้เหนือธรรมชาติเลย แค่ จิตอยู่ กลไลเบื่องหลังเท่านั้น ซึ่งสามารถอธิบายด้วยหลักการวิทย์ได้ ทำไมเราไม่ลองศึกษา และ วิจัยดี ดีไม่ดี อาจจะสามารถ เอาเทคโนโลยี มาผสานกับ เวทย์มนต์ เพื่อใช้เป็น อาวุธ ยังได้ด้วยซ้ำ รองคิดสภาพถ้าประเทศไหนมี Data Ai ที่เก็บชุดรูปแบบ คาถา วิชาเวทยต่างๆได้ละ แถมยังสามารถ คิดค้น วิชาใหม่ๆ นอกจาก คัมภีร์ เวทยดังเดิมได้อีก ผมมองว่า ใครที่ไขความลับของ ญาน 4 ได้ก็จะเป็นมหาอำนาจคนต่อไปบนโลกนี้ จริงๆไม่ต้องถึงขั้น ญาณ 4 ด้วยซ้ำ ขอแค่ ญาน 3 คือ ขอแค่ จิตมีอำนาจ แสดงฤทธิ์ก็พอ มันไม่เกียวว่าจะต้องเป็นคนดี หรือ มีกิเลสไหม ไม่เกียว ไม่งั้น เวทยมนต์ศาสตร์มืด หรือที่เรียก ว่า ไสยศาสตร์ จะมีได้หรอ คิดว่าคนที่ทำศาสตร์นี้เป็นคนดี ไม่ ไม่เลย เค้าแค่มี จิตที่ แกล่งกล้า พอจะทำ ฤทธิ์ เท่านั้นเอง การจะเข้าถึงพลังได้ ไม่จำเป็น จะต้องเป็นคนดี เสมอไป ศีล 5 ไม่ครบ แต่ถ้าจิตสมาธิถึงพอก็ทำได้ รองดู ไสยศาสตร์เป็นตัวอย่างดิ เสกตะปู เข้าท้องอีกฝ่าย เคลื้อนย้ายมวลสารตะปู เข้าท้องเป้าหมายอีฝ่าย โดยผ่านกระบวนการ คาถา พิธีกรรม ถ้าสมาธิถึง ญาน 3 ก็ทำได้เลย โดยไม่ต้องผ่าน พิธี คาถาด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็น ญาน 4 ก็ทำได้ แค่ สังผ่าน จิต ไม่ต้องมีคาถาพิธีกรรม ขั้นกลางในการทำให้ เกิดพลัง
นี้คือธรรมชาติของเวทย์มนต์ ผมอยากให้ ทุกคนมอง เวทย์มตร์ เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่า ที่มอง ต้องอ้างอิง พุทธหน่อย เพราะว่าทาง พุทธมีข้อมูลอ้างอิงเยอะ พระพุทธเจ้าบอกเอง ว่า ถ้าจิตเราสมาธิถึงพอ ก็แสดง อิทธิ ปาฏิหาริย์ ได้ ขอแค่ถึงพอ ตรงนี้ ถ้าเอา วิทยาศาสตร์วิจัยจนไขความลับได้ ผมว่า มันคือ มรดก ที่ พระพุทธเจ้า มอบให้เลย ขอแค่ วิจัยเท่านั้น ถือเป็นการ ยืนยันสิงที่ พระพุทธเจ้า ค้นพบไปในตัว
วิทยาศาสตร์สามารถคืนชีพ ศาสตร์เวทย์มนต์ไ้ด้ หากมีการวิจัยในทางวิทยาศาสตร์
นี้คือธรรมชาติของเวทย์มนต์ ผมอยากให้ ทุกคนมอง เวทย์มตร์ เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่า ที่มอง ต้องอ้างอิง พุทธหน่อย เพราะว่าทาง พุทธมีข้อมูลอ้างอิงเยอะ พระพุทธเจ้าบอกเอง ว่า ถ้าจิตเราสมาธิถึงพอ ก็แสดง อิทธิ ปาฏิหาริย์ ได้ ขอแค่ถึงพอ ตรงนี้ ถ้าเอา วิทยาศาสตร์วิจัยจนไขความลับได้ ผมว่า มันคือ มรดก ที่ พระพุทธเจ้า มอบให้เลย ขอแค่ วิจัยเท่านั้น ถือเป็นการ ยืนยันสิงที่ พระพุทธเจ้า ค้นพบไปในตัว