ใครๆ ก็คงรู้ว่า “การนอนสำคัญกับผิว”
ไม่เชื่อลองสังเกตดูว่า วันที่นอนน้อย ตาจะบวม – รูขุมขนเบิก – ผิวดูหมองไม่สดใส – ผิวอ่อนแอ อักเสบง่าย – ใช้สกินแคร์แค่ไหนก็ยังไม่ดี ฯลฯ ถึงขั้นมีวลี “ทาสกินแคร์ดีแค่ไหน แต่ถ้านอนไม่พอก็เท่านั้นนน” และนั่นแหละ คือปัญหาของเรา ไม่ใช่ว่า เป็นคนอยากนอนดึกนะ และก็ไม่ได้ติดซีรีย์ด้วยแง แต่ด้วยไลฟ์สไตล์เป็นคนรักงาน ของานคืนนี้หรอ ได้ค่ะ ได้เลย ได้จ้า ตี 2-3 คือเรื่องปกติเลย เคยถึงขั้นไม่นอน 2-3 วันจนร่างเกือบไม่ไหว แต่ใจสู้สุด ดีที่ตอนนี้ไม่ถึงขนาดนั้นแล้ว แต่ก็ยังต้องนอนดึกอยู่ดี ;w;
และสกินแคร์ที่จะมารีวิวในวันนี้ ก็คือ 5 ตัวเด็ดจาก KIEHL’S // ครบรูทีนกันเลยทีเดียว
ดูซิว่า จะมากู้ผิวนอนน้อย ให้ดูใส ห่างไกลผิวหมอง และรอยสิวได้มั้ย?
และตัวไหนดียังไงบ้าง มาดูกันนนน
ปล. ขอไล่เรียงตามรูทีนเลยน้า เผื่อจะดูง่ายขึ้น
เริ่มแรกขอเปิดที่การทำความสะอาดผิว กับ
KIEHL’S Calendula Deep Cleansing Foaming Face Wash
.
ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าคาเลนดูล่าที่เหมาะกับผิวธรรมดา-ผิวมัน เนื้อเป็นเจลใสไม่มีสี มีกลิ่นซิตรัสอ่อนๆ แบบเอสเซนเชียลออยล์ ไม่มีน้ำหอม ฟองไม่เยอะ ค่อนข้างอ่อนโยน ละมุนผิว
.
ส่วนประกอบ - หลักๆ ใช้ Sodium Cocoyl Glycinate มาทำความสะอาด อ่อนโยนและชุ่มชื้นกว่า SLS/SLES + มี Calendula Officinalis Flower + กลีเซอรีนจากพืช มาช่วยคงความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว ลดอักเสบและแบคทีเรีย
.
ส่วนตัวชอบนะคะ จริงๆ เคยใช้นานมาแล้วอันนี้วนกลับมาใช้คลีนซิ่งโฟมอีกรอบก็ชอบเหมือนเดิม โดยรวมค่อนข้างละมุนผิว ถึงจะทำความสะอาด ทั้งสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกิน ได้ค่อนข้างดีสมกับหน้าที่คลีนซิ่งโฟมของนาง แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ถือว่า เป็นโฟมล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายอีกตัวที่คงสมดุลผิวให้เราใช้ได้เลย + ทั้งกลิ่นและฟองโฟมให้ฟีลลิ่งที่ดี ผ่อนคลายสบายผิว เหมือนช่วยลดความล้าของผิวไปในตัวด้วย และก็อันนี้แพ็กเกจเป็นหัวปั๊มใช้ง่ายดีค่ะ / สำหรับใครผิวแห้งอาจจะต้องเช็คอีกทีน้าว่ารอดมั้ย แต่ส่วนตัวผิวผสม ระคายเคืองง่าย รอดเด้อออ ;w;
ต่อด้วย โทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่า ปลอบประโลมผิวและใจ กับ
KIEHL’S Calendula Herbal-Extract Toner
.
เขาว่า เป็นโทนเนอร์ยอดขายอันดับ 1 เราเองก็ใช้มาตลอด 3-4 ขวดแล้วเหมือนกัน เนื้อบางเบา ซึมไว แต่ไม่ใช้แอลกอฮอล์ กลิ่นแอบเหมือนเก๊กฮวย มีกลีบดอกคาเลนดูล่าจริงในขวด
.
ส่วนประกอบ : หลักๆ ใช้มีการใช้ ดอกคาเลนดูล่า แบบที่เป็นสารสกัดและกลีบดอกจริง มาช่วยปลอบประโลมและต้านการอักเสบ (เป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับในแพทย์แผนจีนและอายุรเวท) + มี Arctium Lappa Extract และ Allantoin ช่วยลดโอกาสผิวระคายเคือง ฯลฯ
.
โทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่าเป็นหนึ่งในตัวที่ชอบมากประจำแบรนด์(ถ้าไม่ติดใจคงไม่ใช้มานาน) ส่วนตัวชอบฟีลลิ่งตอนใช้มากกก ทั้งเนื้อและกลิ่นให้ความสดชื่นดี ชุ่มชื้นเบาๆ สบายผิว ปรับสมดุลผิวดีขึ้น ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับสกินแคร์ขั้นตอนถัดไป เรื่องปลอบประโลมและลดอุณหภูมิผิวถือว่าทำได้ดี วันไหนที่นอนน้อยหรือระคายเคืองมาจนผิวแดง จะเทโทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่าใส่สำลีแล้วก็โปะๆ ที่ผิวไปเลย ผิวจะสงบ ค่อยๆ หายแดงลง ส่วนรอยจากสิวใช้เสริมตัวอื่นๆ จะช่วยให้ผิวดีไวขึ้นนิดนึงค่ะ รู้สึกได้เลยว่าหน้ามันน้อยลงด้วย คนเป็นสิวน่าจะใช้ได้น้า ใครที่ผิวระคายเคืองง่ายแบบเราอยากแนะนำให้ลองไปดู มิตรรักในดวงใจเลยยย
KIEHL’S Clearly Corrective Dark Spot Solution
.
เขาว่าตัวนี้ เป็นเซรั่มผิวกระจ่างใส ติดอันดับ 1 จาก Beaute Research ในไทย 4 ปีซ้อน เนื้อเซรั่มใส ไม่มีสี มีกลิ่นเหมือนลาเวนเดอร์ ค่อนข้างเบาและซึมได้ดี ไม่เหนอะผิว ชาวผิวอุดตันง่ายน่าจะใช้ได้ ส่วนตัวทาได้ทั้งเช้า-เย็น
.
ส่วนประกอบ : หลักๆ มี Activated C หรือ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid มาลดผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ + ปกป้องผิวจากการสร้างเม็ดสีใหม่ ปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น รวมถึง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ร่วมกับ วิตามินอี + มีสารที่ช่วยเสริมการ Exfoliant จาก Salicylic Acid ฯลฯ ไม่มีซิลิโคน สารกันเสีย น้ำหอม สี
.
เรื่องที่เรารู้สึกคือ พวกรอยสิว รอยดำ รอยแดงจางลง (รอยใหม่จะค่อนข้างจางได้ไวหน่อย) อ่อนโยน แต่ต้องระวังการใช้ร่วมกับบางตัว + ช่วงใช้แรกๆ อาจจะมียิบๆ เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นระคายเคือง ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ลดความหมองให้ผิวดูสม่ำเสมอได้ในระดับหนึ่ง อาจจะไม่ถึงขั้นเปลี่ยนเฉด แต่ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ผิวเปล่งปลั่งขึ้นนะเนี่ยยย หลักๆ แล้ว เราว่า เด่นพวกรอยแดง + ผิวสดใส นอกนั้นต้องใช้เซรั่มลดจุดด่างดำระยะเวลาทาต่อเนื่องพอสมควร + เสริมด้วยตัวอื่นๆ จะชัดเจนมากขึ้นค่ะ
KIEHL’S Vital Skin-Strengthening Super Serum
.
ซุปเปอร์เซรั่มล็อกคผิวใส สูตรใหม่ของ KIEHL’S เนื้อขุ่นบางเบา ไม่ใช่น้ำซะทีเดียว ให้ความชุ่มชื้นในระดับหนึ่ง แต่ยังคงซึมไวไม่เหนอะหนะ กลิ่นเหมือนพวกสมุนไพรแบบบอกไม่ถูก ปล. เซรั่มบำรุงผิวตัวนี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวนะคะ
.
ส่วนประกอบ : หลักๆ ที่เขาชูคือ 11kDA Hyaluronic Acid ไฮยาขนาดโมเลกุลเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟู Skin Barrier แต่ตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Adaptogen ช่วยปรับให้ผิวพร้อมสู้กับปัญหาที่เกิดจากความเครียด (การพักผ่อนน้อยก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดความเครียดได้เหมือนกัน)
.
จริงๆ เป็นเซรั่มที่ตอบโจทย์เรามากกก ตั้งแต่คำเคลมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ พอใช้จริงก็ถือว่าโอเคเลย เรื่องเนื้อสัมผัสของเขาแทบทุกตัวทำได้ดีอยู่แล้ว ตัวนี้เองก็ด้วย เพราะงั้นเรื่องฟีลลิ่งผิวให้ผ่าน ผลลัพธ์เรื่องผิวนุ่มชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูเด้ง และเปล่งปลั่ง ทำได้ดี ผิวดูค่อยๆ เนียน ใส มากขึ้น แต่ริ้วรอยตื้นๆ ดูจางลงยังไม่ค่อยมั่นใจนะคะ อาจจะต้องใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้ ใครที่อยากหาตัวช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูดี ลดความโทรมจากการพักผ่อนน้อยได้พอสมควร เราว่าเซรั่มบำรุงผิวตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์นะคะ
KIEHL’S Ultra Facial Oil-Free Gel Cream
.
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ปิดท้าย เน้นความชุ่มชื้นล้วนๆ ปราศจากน้ำมัน เนื้อเจลขุ่น ซึมไว สบายผิวมาก ไม่มีสีและน้ำหอม
.
ส่วนประกอบ : มี Glycerin + Imperata Cylindrica Root Extract เติมความชุ่มชื้นให้ตลอด 24 ชั่วโมง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน + Caprylyl Glycol เป็นตัว Humectant และ Dimethicone + Isononyl Isononanoate + Dimethiconol เป็น Emollient
.
ตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นกำลังดี เหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน และเบาสบายผิว วันไหนที่ผิวแห้งโปะหนาๆ ตอนกลางคืนแทนสลีปปิ้งมาสก์ได้เลย วันไหนที่ผิวดีแล้วอยากได้ความชุ่มชื้นแบบเบาๆ ก็ทาบางๆ ตัวนี้เราใช้ก่อนแต่งหน้าได้ ไม่หนักผิว หน้าไม่เยิ้ม ไม่สังขยา ส่วนตัวใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้าแล้วไม่ระคายเคืองและไม่อุดตันค่ะ
-
ส่วนตัวที่เราใช้ทั้ง 5 ตัวพร้อมกัน รู้สึกช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี มีสมดุล ผิวดูใสมากขึ้น พวกรอยสิวค่อยๆ จางลง แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างน้อยเท่าที่ลองใช้มาก็ช่วยฟื้นฟูผิวช่วงยังปรับเวลาไม่ได้ เลี่ยงไลฟ์สไตล์นี้ยังไม่ได้ ถือว่า ดีขึ้นพอสมควร แต่คิดว่า ยังไงในอนาคตยังไงก็จะต้องปรับให้ดีกว่านี้แน่นอน เพราะการพักผ่อนก็เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพร่างกายด้วยเนอะ ;w;
.
ส่วนใครที่อยากลองตัวใดตัวหนึ่งก่อน ถ้าให้เราเลือก ขอเรียงตามนี้น้า Calendula Toner โทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่าปลอบประโลมดี เอาไปแทรกในรูทีนได้ง่าย > เซรั่มบำรุงผิว Vital Super Serum กู้ผิวโดยรวมดี ลดโทรมช่วงพักผ่อนน้อยได้ > อื่นๆ ปล. ไม่จำเป็นต้องตามนี้นะคะ แนะนำให้ดูตามความต้องการของผิวตัวเองเพิ่มเติมเป็นหลักเด้อออ
-
สุดท้ายนี้ ใครที่สนใจก็อยากให้ไปลองเทสต์หรือขอ Sampling ตามเคาท์เตอร์ Kiehl’s มาลองก่อนนะคะ ว่า ชอบมั้ย? ใช้แล้วแพ้หรือระคายเคืองรึเปล่า เพราะผิวคนเราไม่เหมือนกัน ลองด้วยตัวเองจะดีที่สุดค่ะ (บางตัวอาจจะมีน้ำมันหอมระเหย + แอลกอฮอล์ ใครที่ผิวไวต่อสารกลุ่มนี้อาจจะลองเช็คอีกครั้งนะคะ) ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3
-
[SR] รีวิว นอนน้อยจนร่างเกือบไม่ไหว แต่ผิวต้องใส ไร้รอยสิว ด้วย KIEHL’S ตัวไหนดียังไงบ้าง? มาดู!
ดูซิว่า จะมากู้ผิวนอนน้อย ให้ดูใส ห่างไกลผิวหมอง และรอยสิวได้มั้ย?
และตัวไหนดียังไงบ้าง มาดูกันนนน
ปล. ขอไล่เรียงตามรูทีนเลยน้า เผื่อจะดูง่ายขึ้น
ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าคาเลนดูล่าที่เหมาะกับผิวธรรมดา-ผิวมัน เนื้อเป็นเจลใสไม่มีสี มีกลิ่นซิตรัสอ่อนๆ แบบเอสเซนเชียลออยล์ ไม่มีน้ำหอม ฟองไม่เยอะ ค่อนข้างอ่อนโยน ละมุนผิว
ส่วนประกอบ - หลักๆ ใช้ Sodium Cocoyl Glycinate มาทำความสะอาด อ่อนโยนและชุ่มชื้นกว่า SLS/SLES + มี Calendula Officinalis Flower + กลีเซอรีนจากพืช มาช่วยคงความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว ลดอักเสบและแบคทีเรีย
ส่วนตัวชอบนะคะ จริงๆ เคยใช้นานมาแล้วอันนี้วนกลับมาใช้คลีนซิ่งโฟมอีกรอบก็ชอบเหมือนเดิม โดยรวมค่อนข้างละมุนผิว ถึงจะทำความสะอาด ทั้งสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกิน ได้ค่อนข้างดีสมกับหน้าที่คลีนซิ่งโฟมของนาง แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ถือว่า เป็นโฟมล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายอีกตัวที่คงสมดุลผิวให้เราใช้ได้เลย + ทั้งกลิ่นและฟองโฟมให้ฟีลลิ่งที่ดี ผ่อนคลายสบายผิว เหมือนช่วยลดความล้าของผิวไปในตัวด้วย และก็อันนี้แพ็กเกจเป็นหัวปั๊มใช้ง่ายดีค่ะ / สำหรับใครผิวแห้งอาจจะต้องเช็คอีกทีน้าว่ารอดมั้ย แต่ส่วนตัวผิวผสม ระคายเคืองง่าย รอดเด้อออ ;w;
เขาว่า เป็นโทนเนอร์ยอดขายอันดับ 1 เราเองก็ใช้มาตลอด 3-4 ขวดแล้วเหมือนกัน เนื้อบางเบา ซึมไว แต่ไม่ใช้แอลกอฮอล์ กลิ่นแอบเหมือนเก๊กฮวย มีกลีบดอกคาเลนดูล่าจริงในขวด
ส่วนประกอบ : หลักๆ ใช้มีการใช้ ดอกคาเลนดูล่า แบบที่เป็นสารสกัดและกลีบดอกจริง มาช่วยปลอบประโลมและต้านการอักเสบ (เป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับในแพทย์แผนจีนและอายุรเวท) + มี Arctium Lappa Extract และ Allantoin ช่วยลดโอกาสผิวระคายเคือง ฯลฯ
โทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่าเป็นหนึ่งในตัวที่ชอบมากประจำแบรนด์(ถ้าไม่ติดใจคงไม่ใช้มานาน) ส่วนตัวชอบฟีลลิ่งตอนใช้มากกก ทั้งเนื้อและกลิ่นให้ความสดชื่นดี ชุ่มชื้นเบาๆ สบายผิว ปรับสมดุลผิวดีขึ้น ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับสกินแคร์ขั้นตอนถัดไป เรื่องปลอบประโลมและลดอุณหภูมิผิวถือว่าทำได้ดี วันไหนที่นอนน้อยหรือระคายเคืองมาจนผิวแดง จะเทโทนเนอร์ดอกคาเลนดูล่าใส่สำลีแล้วก็โปะๆ ที่ผิวไปเลย ผิวจะสงบ ค่อยๆ หายแดงลง ส่วนรอยจากสิวใช้เสริมตัวอื่นๆ จะช่วยให้ผิวดีไวขึ้นนิดนึงค่ะ รู้สึกได้เลยว่าหน้ามันน้อยลงด้วย คนเป็นสิวน่าจะใช้ได้น้า ใครที่ผิวระคายเคืองง่ายแบบเราอยากแนะนำให้ลองไปดู มิตรรักในดวงใจเลยยย
เขาว่าตัวนี้ เป็นเซรั่มผิวกระจ่างใส ติดอันดับ 1 จาก Beaute Research ในไทย 4 ปีซ้อน เนื้อเซรั่มใส ไม่มีสี มีกลิ่นเหมือนลาเวนเดอร์ ค่อนข้างเบาและซึมได้ดี ไม่เหนอะผิว ชาวผิวอุดตันง่ายน่าจะใช้ได้ ส่วนตัวทาได้ทั้งเช้า-เย็น
ส่วนประกอบ : หลักๆ มี Activated C หรือ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid มาลดผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ + ปกป้องผิวจากการสร้างเม็ดสีใหม่ ปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น รวมถึง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ร่วมกับ วิตามินอี + มีสารที่ช่วยเสริมการ Exfoliant จาก Salicylic Acid ฯลฯ ไม่มีซิลิโคน สารกันเสีย น้ำหอม สี
เรื่องที่เรารู้สึกคือ พวกรอยสิว รอยดำ รอยแดงจางลง (รอยใหม่จะค่อนข้างจางได้ไวหน่อย) อ่อนโยน แต่ต้องระวังการใช้ร่วมกับบางตัว + ช่วงใช้แรกๆ อาจจะมียิบๆ เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นระคายเคือง ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ลดความหมองให้ผิวดูสม่ำเสมอได้ในระดับหนึ่ง อาจจะไม่ถึงขั้นเปลี่ยนเฉด แต่ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ผิวเปล่งปลั่งขึ้นนะเนี่ยยย หลักๆ แล้ว เราว่า เด่นพวกรอยแดง + ผิวสดใส นอกนั้นต้องใช้เซรั่มลดจุดด่างดำระยะเวลาทาต่อเนื่องพอสมควร + เสริมด้วยตัวอื่นๆ จะชัดเจนมากขึ้นค่ะ
ซุปเปอร์เซรั่มล็อกคผิวใส สูตรใหม่ของ KIEHL’S เนื้อขุ่นบางเบา ไม่ใช่น้ำซะทีเดียว ให้ความชุ่มชื้นในระดับหนึ่ง แต่ยังคงซึมไวไม่เหนอะหนะ กลิ่นเหมือนพวกสมุนไพรแบบบอกไม่ถูก ปล. เซรั่มบำรุงผิวตัวนี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวนะคะ
ส่วนประกอบ : หลักๆ ที่เขาชูคือ 11kDA Hyaluronic Acid ไฮยาขนาดโมเลกุลเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟู Skin Barrier แต่ตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Adaptogen ช่วยปรับให้ผิวพร้อมสู้กับปัญหาที่เกิดจากความเครียด (การพักผ่อนน้อยก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดความเครียดได้เหมือนกัน)
จริงๆ เป็นเซรั่มที่ตอบโจทย์เรามากกก ตั้งแต่คำเคลมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ พอใช้จริงก็ถือว่าโอเคเลย เรื่องเนื้อสัมผัสของเขาแทบทุกตัวทำได้ดีอยู่แล้ว ตัวนี้เองก็ด้วย เพราะงั้นเรื่องฟีลลิ่งผิวให้ผ่าน ผลลัพธ์เรื่องผิวนุ่มชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูเด้ง และเปล่งปลั่ง ทำได้ดี ผิวดูค่อยๆ เนียน ใส มากขึ้น แต่ริ้วรอยตื้นๆ ดูจางลงยังไม่ค่อยมั่นใจนะคะ อาจจะต้องใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้ ใครที่อยากหาตัวช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูดี ลดความโทรมจากการพักผ่อนน้อยได้พอสมควร เราว่าเซรั่มบำรุงผิวตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์นะคะ
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ปิดท้าย เน้นความชุ่มชื้นล้วนๆ ปราศจากน้ำมัน เนื้อเจลขุ่น ซึมไว สบายผิวมาก ไม่มีสีและน้ำหอม
ส่วนประกอบ : มี Glycerin + Imperata Cylindrica Root Extract เติมความชุ่มชื้นให้ตลอด 24 ชั่วโมง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน + Caprylyl Glycol เป็นตัว Humectant และ Dimethicone + Isononyl Isononanoate + Dimethiconol เป็น Emollient
ตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นกำลังดี เหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน และเบาสบายผิว วันไหนที่ผิวแห้งโปะหนาๆ ตอนกลางคืนแทนสลีปปิ้งมาสก์ได้เลย วันไหนที่ผิวดีแล้วอยากได้ความชุ่มชื้นแบบเบาๆ ก็ทาบางๆ ตัวนี้เราใช้ก่อนแต่งหน้าได้ ไม่หนักผิว หน้าไม่เยิ้ม ไม่สังขยา ส่วนตัวใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้าแล้วไม่ระคายเคืองและไม่อุดตันค่ะ
ส่วนตัวที่เราใช้ทั้ง 5 ตัวพร้อมกัน รู้สึกช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี มีสมดุล ผิวดูใสมากขึ้น พวกรอยสิวค่อยๆ จางลง แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างน้อยเท่าที่ลองใช้มาก็ช่วยฟื้นฟูผิวช่วงยังปรับเวลาไม่ได้ เลี่ยงไลฟ์สไตล์นี้ยังไม่ได้ ถือว่า ดีขึ้นพอสมควร แต่คิดว่า ยังไงในอนาคตยังไงก็จะต้องปรับให้ดีกว่านี้แน่นอน เพราะการพักผ่อนก็เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพร่างกายด้วยเนอะ ;w;
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้