37 องค์กรพ่าย ศาลปกครองไฟเขียวดีล ‘ซีพีซื้อโลตัส’

กระทู้คำถาม
37 องค์กรฮึดสู้ ร้องคัดค้านพร้อมยื่นเอกสารกรณีศึกษาต่างประเทศเพิ่ม หลังศาลปกครองไม่รับคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราว กรณี กขค. อนุญาต “ซีพี”ควบรวมกิจการ “เทสโก้ โลตัส”
                                                                                                                                                                                                                        หลังจากที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมกับ 36 องค์กรผู้บริโภค ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ที่อนุญาตให้บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ควบรวมกิจการกับ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายพร้อมขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์ชั่วคราวนั้น
ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม ทนายความในคดีนี้ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ไม่รับคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ 36 องค์กรผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีทั้งหมด และขณะนี้องค์กรอยู่ระหว่างเตรียมการยื่นคำคัดค้าน ภายใน 30 วันตามที่ศาลกำหนด ซึ่งหากไม่ทันภายในระยะเวลาดังกล่าว ก็ขอขยายเวลาได้
 
อย่างไรก็ดี ฝ่ายผู้ร้องสอบ (บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) และผู้ถูกฟ้องคดี (คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า) สามารถส่งคำให้การเพิ่มเติมได้เช่นกัน โดยทั้งสองฝ่ายมีสิทธิที่จะยื่นได้ฝ่ายละ 2 ครั้ง หลังจากนั้นศาลจะไต่สวนตามเอกสารที่ส่งเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากนี้พบว่า มีผู้ประกอบการรายหนึ่งได้ยื่นฟ้องบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เช่นกัน ศาลจึงมีคำสั่งให้รวมสำนวนคดีเข้ามาไว้รวมกันเพื่อความสะดวกในการพิจารณา
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ36 องค์กรผู้บริโภคในฐานะผู้ฟ้องคดี ได้เตรียมเอกสารที่จะนำเสนอเพิ่มเติม เป็นข้อมูลกรณีศึกษา คณะกรรมการของต่างประเทศที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้เกิดการควบรวมกิจการของซีพี ที่เข้าซื้อธุรกิจแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ศึกษาและพบว่า หากเกิดการควบรวมกิจการขึ้น จะทำให้ซีพีมีอำนาจเหนือตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 50%
“กรณีศึกษาในต่างประเทศพบว่า หากซีพีเข้าซื้อกิจการร้านค้าปลีกนี้แล้วจะทำให้มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 50% จะทำให้ซีพีมีอำนาจเหนือตลาด จึงไม่อนุญาตให้เกิดการควบรวมกิจการ แต่ในประเทศไทยแม้จะศึกษาพบว่า หลังเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัสแล้วซีพีจะมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% ก็ยังอนุญาตให้เกิดการควบรวมกิจการได้”
ทั้งนี้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ 36 องค์กรเพื่อผู้บริโภคได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ในฐานะผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ฯ และบริษัท เทสโก้ สโตร์สฯ ซึ่งมีผลให้ซี.พี. มีส่วนแบ่งตลาดธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งมากกว่า 83.97% ทำให้มีอำนาจเหนือตลาด ผูกขาดการค้าและมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความไม่มั่นคงด้านอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน สินค้าวิสาหกิจชุมชนและสินค้าท้องถิ่น รวมถึงกระทบต่อเสถียรภาพของผู้บริโภคที่ไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้อย่างอิสระและเป็นธรรม
จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง 3 ข้อ ได้แก่ 1. เพิกถอนคำสั่งของกขค. ที่อนุญาตให้รวมธุรกิจ 2. หากศาลไม่มีคำพิพากษาหรือคิดสั่ง ก็ขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขเชิงโครงสร้างและเงื่อนไขเชิงพฤติกรรมให้ผู้ขออนุญาตรวมธุรกิจปฏิบัติตาม ทั้งการขายกิจการหรือทรัพย์สินบางส่วนออกไปเพื่อลดการมีอำนาจเหนือตลาด และปรับสัดส่วนแบ่งการตลาดไม่เกิน 50%, ห้ามขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 10 ปีหลังการรวมธุรกิจ 3. ให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว โดยห้ามรวมธุรกิจค้าส่งค้าปลีก
สมัยใหม่ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
สำหรับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางระบุว่า การที่ กขค. อนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์กับเทสโก้ สโตร์สฯ นั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่พ.ร.บ. แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 กำหนด จึงยังไม่มีเหตุที่จะรับฟังได้ว่าไม่ชอบด้วยกฏหมาย จึงยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง    https://www.thansettakij.com/business/485830?as=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่