ศาลปกครองรับฟ้องคดีเพิกถอนมติ กสทช. กรณีควบรวมทรู – ดีแทค

กระทู้ข่าว
ศาลปกครองรับฟ้องคดีสภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ กสทช. กรณีควบรวมทรู – ดีแทค พร้อมสั่งทั้งสองบริษัท เข้าเป็นผู้ร้องสอด

จากกรณีที่ คณะกรรมการบริหารสภาองค์กรของผู้บริโภค กับพวกรวม 5 คนยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช) และสำนักงาน กสทช. กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติในการประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 รับทราบการควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะคุ้มครองผู้บริโภค โดยมิได้กำหนดมาตรการตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดโทรคมนาคม ขัดต่อกฎหมายและแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังยื่นฟ้อง ศาลพิจารณาตรวจร่างฟ้อง เเละมีคำสั่งรับคำฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 2421/2565
ตั้งเเต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยวันถัดมาที่ผ่านมามีการประชุมเเละมีคำสั่ง เเต่งตั้งตุลาการเจ้าของสำนวนเพื่อทำหน้าพิจารณาคดีต่อไป

สำหรับรายละเอียดที่ศาลปกครองมีคำสั่งรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา โดยศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติรับทราบการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่อาจถูกกระทบจากผลแห่งคำพิพากษาคดีนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกให้บริษัททั้งสองดังกล่าว เข้ามาเป็นคู่กรณีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตามข้อ 78 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ประกอบกับมาตรา 57 วรรคหนึ่ง (3) (ข) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลจึงมีคำสั่งเรียกบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นผู้ร้องสอดที่ 1 และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร้องสอดที่ 2
เเละมีคำสั่งแจ้ง ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ,ผู้ร้องสอดทั้งสอง ศาลมีคำสั่งให้ทำคำให้การแก้คำฟ้องพร้อมด้วยพยานหลักฐานและจัดส่งสำเนา รวม 4 ชุด ยื่นต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับคำสั่งนี้

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3674358
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่