อ.จุฬาฯ กางข้อกฎหมาย ชี้ ส.ส.รัฐบาล จงใจทำ สภาล่ม อาจมีโทษทางกม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6483960
อ.จุฬาฯ กางข้อกฎหมาย ชี้ ส.ส.รัฐบาล จงใจทำ สภาล่ม ละเมิดอำนาจรัฐสภา เข้าข่ายผิดจริยธรรมเผยอาจมีโทษทางกฎหมาย ยกตัวอย่างกรณีอังกฤษ
วันที่ 1 ก.ค.64 ผศ.ดร.
พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นกรณีสภาล่ม ความว่า
ว่าด้วยเรื่องสภาล่ม
คุณวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีสภาผู้แทนราษฎรล่มจนทำให้ไม่สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วัตถุอันตรายได้ เนื่องมาจาก ส.ส.ฟากรัฐบาลไม่เข้าประชุมว่า “เป็นเทคนิครอเวลา เพราะคุยกันยังไม่รู้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ไปคนละทางกันเลย” กรณีนี้มีประเด็นในทางกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐสภาที่ต้องอธิบายดังนี้ครับ
1. การกระทำของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่เข้าประชุม (ข้อเท็จจริงปรากฏด้วยว่าบางท่านไปที่สภาแต่ไม่แสดงตนรวมถึงคุณวิรัชเองด้วย) ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐสภา เรียกการกระทำนี้ว่า “การเตะถ่วงการตราตัวบทกฎหมาย” (Filibuster)
2. จากบทสัมภาษณ์ของคุณวิรัชชี้แจงว่าที่ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมนั้นก็เพราะยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วจะให้องค์ประชุมครับได้อย่างไร ลักษณะการกระทำและคำพูดมีความชัดเจนว่ามี “เจตนา” ที่จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายได้
3. เมื่อการที่ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลรวมถึงคุณวิรัชร่วมใจกันไม่เข้าประชุมโดยมี “เจตนา” ตามที่ให้สัมภาษณ์ว่าเป็น “เทคนิค” ที่ทำขึ้น ตามหลักกฎหมายรัฐสภาแล้วเป็น “การละเมิดอำนาจรัฐสภา” (Contempt of Parliament) ซึ่งหมายถึง เป็นการจงใจที่จะสร้างอุปสรรค หรือขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐสภา ณ ที่นี้ก็คือ ทำไม่ให้สามารถดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายได้ตามที่อธิบายไปตามข้อ 2
4. การเจตนาเตะถ่วงการพิจารณาร่างกฎหมายถือเป็นการกระทำผิดที่กระทบต่อ “หลักการปฏิบัติเพื่อประโยชน์สาธาณะของฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่เรียกร้องให้ต้องปฏิบัติหน้าที่ต้องกระทำโดยไม่ชักช้าด้วย
ดังนั้น จึงถือว่าเข้าข่ายขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ที่กำหนดให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือเพื่อประโยชน์ประเทศ อุทิศเวลาให้กับการประชุม และพิจารณากฎหมายโดยไม่ชักช้า ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นไปตามภารกิจของฝ่ายนิติบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในหมวดที่ 7 รัฐสภา
5. ประเด็นนี้อยู่ในขอบข่ายการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวมีลักษณะขัดต่อข้อบังคับหรือไม่อย่างไร และทำความเห็นต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อมีมติต่อไป หากเป็นกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็จะถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปครับ
ผมเห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนปวงชนพึงต้องทำหน้าที่ของตนเองตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพื่อประโยชน์ของประชาชนครับ
อนึ่ง กรณีการเตะถ่วงการพิจารณากฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรของประเทศอังกฤษ (House of Commons) เคยมีมติลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานละเมิดอำนาจรัฐสภา เนื่องจากเป็นการกระทำเพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ของสภาอันเป็นการกระทำต่อประโยชน์สาธารณะอย่างไร้เหตุผล
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10159703274495979
ธปท.ห่วงปัญหาว่างงาน ลากยาวกระทบเศรษฐกิจระยะยาว
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/84082/
ธปท. ห่วงสถานการณ์จ้างงาน หวั่นปัญหาระยะสั้นลากยาวกระทบเศรษฐกิจ พร้อมเกาะติดมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ 6 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มต่อเนื่อง
วันนี้( 1 กงค.64 ) นางสาว
ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากเดิมที่ ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ แต่สถานการณ์ล่าสุดยังเห็นความไม่แน่นอน และความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่ง ธปท.ได้มองเผื่อไว้บางส่วน แต่หากมีความรุนแรงมากขึ้นและยืดเยื้อก็จะต้องพิจารณาตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ธปท.ยังเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์การจ้างงาน ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 2 ครั้งที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับปัจจัยการจ้างงาน โดยเฉพาะแนวโน้มการว่างงานระยะสั้นจะกลายเป็นระยะยาวมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียทักษะแรงงาน รายได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้การจ้างงานเกิดแผลเป็น
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.64 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามอุปสงค์ในประเทศและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ลดลงจากการแพร่ระบาดระลอกสาม ส่งผลให้การลงทุนทั้งหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้างปรับลดลง
ทั้งนี้ ธปท.ระบุประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาด ความต่อเนื่องในการจัดหาและความเร็วในการกระจายวัคซีน และ Supply shortages ที่อาจกระทบต่อภาคการส่งออก การผลิต และการก่อสร้าง
โควิดปัตตานีพุ่ง180 ส่อวิกฤติจ่อเลือกรักษาผู้ป่วยโอกาสรอด
https://www.dailynews.co.th/regional/853550
โควิดปัตตานี ส่อวิกฤต วันเดียวติดเชื้อพุ่ง 180 คลัสเตอร์โรงงานอาหารทะเล ชี้เตียงผู้ป่วยที่เพิ่มใกล้เต็มอีก อาจต้องเลือกรักษาคนไข้ที่มีโอกาสรอดก่อน ขณะรองพ่อเมือง นำทีมสวม PPE เยี่ยมหมู่บ้านล็อกดาวน์
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานียอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 180 คน ยอดสะสม 2,359 คน รักษาหาย 1,058 คน ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 คน ยอดรวมผู้เสียชีวิตสะสม 12 คน ทั้งนี้ยังมีกลุ่มเสียงรอผลตรวจอีกกว่า 2,000 คน โดยผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดปัตตานี ที่เพิ่มขึ้นสูง เนื่องจากพบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารทะเล พบพนักงานติดเชื้อหลายราย ต้องกักตัวพนักงานอีกกว่า 1,000 คน และรอตรวจหาเชื้อ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของพนักงานที่ติดเชื้อด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่บ้านของพนักงานแต่ละคนเพื่อคัดกรองเชิงรุกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยง และให้มีการกักตัวที่บ้านก่อน
ทั้งนี้สถานการณ์โควิดปัตตานี คาดว่ายังคงมีความรุนแรงมากขึ้น ทางจังหวัดหวั่นว่าอาจถึงจุดที่ต้องเลือกรักษาคนไข้ที่มีโอกาสรอดมากกว่า เพราะเตียงที่เพิ่มกำลังจะเต็ม ส่วนการรักษาผู้ติดเชื้อหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดจะรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ส่วนผู้ป่วยไม่มีอาการจะรักษาที่โรงพยาบาลสนาม มีบางรายที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน
ขณะเดียวกัน นาย
สมนึก พรมเขียว รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายแพทย์
อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง สวมชุด PPE ลงพื้นที่มอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และให้กำลังใจ ประชาชนในหมู่บ้านสะมาลา ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่พบผู้ติดเชื้อหลายรายถูกล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในหมู่บ้านพบว่าประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกคนมีการกักตัวจริง และอยู่ในบ้านไม่ออกข้างนอก เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
JJNY : อ.จุฬาฯ กางกม. จงใจทำสภาล่ม│ธปท.ห่วงว่างงานลากยาว│โควิดปัตตานีส่อวิกฤติ│เสรีพิศุทธ์จี้ส.ส.ต้องไม่ทำสภาล่ม แนะชวน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6483960
วันที่ 1 ก.ค.64 ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นกรณีสภาล่ม ความว่า
ว่าด้วยเรื่องสภาล่ม
คุณวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีสภาผู้แทนราษฎรล่มจนทำให้ไม่สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วัตถุอันตรายได้ เนื่องมาจาก ส.ส.ฟากรัฐบาลไม่เข้าประชุมว่า “เป็นเทคนิครอเวลา เพราะคุยกันยังไม่รู้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ไปคนละทางกันเลย” กรณีนี้มีประเด็นในทางกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐสภาที่ต้องอธิบายดังนี้ครับ
1. การกระทำของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่เข้าประชุม (ข้อเท็จจริงปรากฏด้วยว่าบางท่านไปที่สภาแต่ไม่แสดงตนรวมถึงคุณวิรัชเองด้วย) ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐสภา เรียกการกระทำนี้ว่า “การเตะถ่วงการตราตัวบทกฎหมาย” (Filibuster)
2. จากบทสัมภาษณ์ของคุณวิรัชชี้แจงว่าที่ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมนั้นก็เพราะยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วจะให้องค์ประชุมครับได้อย่างไร ลักษณะการกระทำและคำพูดมีความชัดเจนว่ามี “เจตนา” ที่จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายได้
3. เมื่อการที่ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลรวมถึงคุณวิรัชร่วมใจกันไม่เข้าประชุมโดยมี “เจตนา” ตามที่ให้สัมภาษณ์ว่าเป็น “เทคนิค” ที่ทำขึ้น ตามหลักกฎหมายรัฐสภาแล้วเป็น “การละเมิดอำนาจรัฐสภา” (Contempt of Parliament) ซึ่งหมายถึง เป็นการจงใจที่จะสร้างอุปสรรค หรือขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐสภา ณ ที่นี้ก็คือ ทำไม่ให้สามารถดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายได้ตามที่อธิบายไปตามข้อ 2
4. การเจตนาเตะถ่วงการพิจารณาร่างกฎหมายถือเป็นการกระทำผิดที่กระทบต่อ “หลักการปฏิบัติเพื่อประโยชน์สาธาณะของฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่เรียกร้องให้ต้องปฏิบัติหน้าที่ต้องกระทำโดยไม่ชักช้าด้วย
ดังนั้น จึงถือว่าเข้าข่ายขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ที่กำหนดให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือเพื่อประโยชน์ประเทศ อุทิศเวลาให้กับการประชุม และพิจารณากฎหมายโดยไม่ชักช้า ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นไปตามภารกิจของฝ่ายนิติบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในหมวดที่ 7 รัฐสภา
5. ประเด็นนี้อยู่ในขอบข่ายการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวมีลักษณะขัดต่อข้อบังคับหรือไม่อย่างไร และทำความเห็นต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อมีมติต่อไป หากเป็นกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็จะถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปครับ
ผมเห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนปวงชนพึงต้องทำหน้าที่ของตนเองตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพื่อประโยชน์ของประชาชนครับ
อนึ่ง กรณีการเตะถ่วงการพิจารณากฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรของประเทศอังกฤษ (House of Commons) เคยมีมติลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานละเมิดอำนาจรัฐสภา เนื่องจากเป็นการกระทำเพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ของสภาอันเป็นการกระทำต่อประโยชน์สาธารณะอย่างไร้เหตุผล
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10159703274495979
ธปท.ห่วงปัญหาว่างงาน ลากยาวกระทบเศรษฐกิจระยะยาว
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/84082/
ธปท. ห่วงสถานการณ์จ้างงาน หวั่นปัญหาระยะสั้นลากยาวกระทบเศรษฐกิจ พร้อมเกาะติดมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ 6 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มต่อเนื่อง
วันนี้( 1 กงค.64 ) นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากเดิมที่ ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ แต่สถานการณ์ล่าสุดยังเห็นความไม่แน่นอน และความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่ง ธปท.ได้มองเผื่อไว้บางส่วน แต่หากมีความรุนแรงมากขึ้นและยืดเยื้อก็จะต้องพิจารณาตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ธปท.ยังเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์การจ้างงาน ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 2 ครั้งที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับปัจจัยการจ้างงาน โดยเฉพาะแนวโน้มการว่างงานระยะสั้นจะกลายเป็นระยะยาวมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียทักษะแรงงาน รายได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้การจ้างงานเกิดแผลเป็น
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.64 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามอุปสงค์ในประเทศและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ลดลงจากการแพร่ระบาดระลอกสาม ส่งผลให้การลงทุนทั้งหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้างปรับลดลง
ทั้งนี้ ธปท.ระบุประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาด ความต่อเนื่องในการจัดหาและความเร็วในการกระจายวัคซีน และ Supply shortages ที่อาจกระทบต่อภาคการส่งออก การผลิต และการก่อสร้าง
โควิดปัตตานีพุ่ง180 ส่อวิกฤติจ่อเลือกรักษาผู้ป่วยโอกาสรอด
https://www.dailynews.co.th/regional/853550
โควิดปัตตานี ส่อวิกฤต วันเดียวติดเชื้อพุ่ง 180 คลัสเตอร์โรงงานอาหารทะเล ชี้เตียงผู้ป่วยที่เพิ่มใกล้เต็มอีก อาจต้องเลือกรักษาคนไข้ที่มีโอกาสรอดก่อน ขณะรองพ่อเมือง นำทีมสวม PPE เยี่ยมหมู่บ้านล็อกดาวน์
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานียอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 180 คน ยอดสะสม 2,359 คน รักษาหาย 1,058 คน ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 คน ยอดรวมผู้เสียชีวิตสะสม 12 คน ทั้งนี้ยังมีกลุ่มเสียงรอผลตรวจอีกกว่า 2,000 คน โดยผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดปัตตานี ที่เพิ่มขึ้นสูง เนื่องจากพบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารทะเล พบพนักงานติดเชื้อหลายราย ต้องกักตัวพนักงานอีกกว่า 1,000 คน และรอตรวจหาเชื้อ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของพนักงานที่ติดเชื้อด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่บ้านของพนักงานแต่ละคนเพื่อคัดกรองเชิงรุกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยง และให้มีการกักตัวที่บ้านก่อน
ทั้งนี้สถานการณ์โควิดปัตตานี คาดว่ายังคงมีความรุนแรงมากขึ้น ทางจังหวัดหวั่นว่าอาจถึงจุดที่ต้องเลือกรักษาคนไข้ที่มีโอกาสรอดมากกว่า เพราะเตียงที่เพิ่มกำลังจะเต็ม ส่วนการรักษาผู้ติดเชื้อหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดจะรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ส่วนผู้ป่วยไม่มีอาการจะรักษาที่โรงพยาบาลสนาม มีบางรายที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน
ขณะเดียวกัน นายสมนึก พรมเขียว รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายแพทย์อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง สวมชุด PPE ลงพื้นที่มอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และให้กำลังใจ ประชาชนในหมู่บ้านสะมาลา ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่พบผู้ติดเชื้อหลายรายถูกล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในหมู่บ้านพบว่าประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกคนมีการกักตัวจริง และอยู่ในบ้านไม่ออกข้างนอก เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น