Reggie Jackson โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบ postseason ปีนี้ ถึงทีม Clippers จะดีใจที่เขาช่วยได้เยอะเเต่เนื่องจากเขากําลังจะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ทําให้ทีมอาจจะเสียเขาไปฟรีๆ ในตลาด free agency
Reggie เป็นผู้เล่นที่ยิง 3 เเต้มลงมากที่สุดในช่วงที่ทีมขาดคาไวไปจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ยิ่ง Reggie เล่นได้ดีเเค่ไหน โอกาสที่ทีมจะเก็บเขาให้อยู่ต่อก็มีน้อยลงเรื่อยๆ เพราะค่าเหนื่อยในสัญญาใหม่ของเขาคงพุ่งตามฟอร์ม
Reggie ย้ายมากับอยู่กับทีม Clippers ตั้งเเต่ต้นปี 2020 หลังจากที่เขา buy out สัญญาออกจากทีม Pistons เนื่องจากปีก่อนลีกไปเเข่งที่ Bubble เเละมีการตัดฤดูกาลปกติให้สั้นลงทําให้ Reggie มีตัวเลือกไม่มากนักเเละต้องเซ็นกับทีม Clippers ที่เสนอค่าเหนื่อยให้เขาได้เเค่ขั้นตํ่า
Reggie ทําผลงานในปีเเรกไม่ค่อยดีด้วยสถิติ 9.5 PPG ทําให้เขาได้นาทีลงเล่นไม่สมํ่าเสมอ การที่เขามีประวัติได้รับบาดเจ็บบ่อย, สูงเเค่ 6’2” บวกกับมีปัญหาเรื่องเกมส์รับ หลังจบฤดูกาลก่อนเลยไม่มีทีมไหนมาสนใจเขา ทีม Clippers เองเอาค่าเหนื่อยเรท MLE $9.2 ล้านไปเซ็นจ้าง Serge Ibaka มาทีมเลย hard-capped เเละไม่สามารถขึ้นค่าเหนื่อย 20% ให้กับ Reggie ที่เป็นผู้เล่น non-bird ได้ทําให้เขาต้องยอมรับเรทค่าเหนื่อยขั้นตํ่า $2.1 ล้านต่ออีกปี
การอยู่กับทีม Clippers ในปีที่ 2 ก็ไม่ได้ถือว่าเเย่อะไรกับ Reggie เพราะมันทําให้ทีมถือสิทธิ์ bird ในตัวเขาหลังจากอยู่ที่นี่มาครบ 2 ฤดูกาลซึ่งจะทําให้ทีมสามารถเซ็นต่อสัญญากับเขาเเบบทะลุเเคปได้โดยเสนอค่าเหนื่อยให้เขาเพิ่มได้ไม่เกิน 175% ของเรทปัจจุบันหรือ 105% ของค่าเหนื่อยเฉลี่ยในลีก (ขึ้นอยู่กับว่าตัวเลขไหนสูงกว่า)
ค่าเหนื่อยเฉลี่ยของลีกคือค่าเหนื่อยระดับ non-taxpayer MLE $9.3 ล้านซึ่งในฤดูกาลหน้าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก cap space เพิ่มขึ้นทําให้เรทสูงสุดที่ทีม Clippers จะสามารถเสนอให้เขาได้คือราวๆ ปีละ $10 ล้านเเต่ตัว Reggie อาจจะอยากได้เงินมากกว่านั้น ดังนั้นถ้ามีทีมไหนเสนอมามากกว่า $10 ล้าน เขาก็คงไปเเน่
โอกาสที่ทีม Clippers จะเก็บเขาให้อยู่ต่อก็ยังมีอยู่เพราะตอนนี้มีเเค่ไม่กี่ทีมที่ยังมี cap space ระดับ MLE เหลืออยู่คือทีม OKC, Grizzlies, Spurs ซึ่งสามทีมนั้นมี point guard ตัวหลักอยู่เเล้ว ดังนั้นจะเหลือก็เเค่ทีม Raptors, Heats, Mavericks เเละ Knicks ที่มีโอกาสได้ตัวเขาไป
Credit: CBS Sports
🏀 ทีม Clippers อาจเสีย Reggie Jackson ไปในตลาด FA ปีนี้
Reggie เป็นผู้เล่นที่ยิง 3 เเต้มลงมากที่สุดในช่วงที่ทีมขาดคาไวไปจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ยิ่ง Reggie เล่นได้ดีเเค่ไหน โอกาสที่ทีมจะเก็บเขาให้อยู่ต่อก็มีน้อยลงเรื่อยๆ เพราะค่าเหนื่อยในสัญญาใหม่ของเขาคงพุ่งตามฟอร์ม
Reggie ย้ายมากับอยู่กับทีม Clippers ตั้งเเต่ต้นปี 2020 หลังจากที่เขา buy out สัญญาออกจากทีม Pistons เนื่องจากปีก่อนลีกไปเเข่งที่ Bubble เเละมีการตัดฤดูกาลปกติให้สั้นลงทําให้ Reggie มีตัวเลือกไม่มากนักเเละต้องเซ็นกับทีม Clippers ที่เสนอค่าเหนื่อยให้เขาได้เเค่ขั้นตํ่า
Reggie ทําผลงานในปีเเรกไม่ค่อยดีด้วยสถิติ 9.5 PPG ทําให้เขาได้นาทีลงเล่นไม่สมํ่าเสมอ การที่เขามีประวัติได้รับบาดเจ็บบ่อย, สูงเเค่ 6’2” บวกกับมีปัญหาเรื่องเกมส์รับ หลังจบฤดูกาลก่อนเลยไม่มีทีมไหนมาสนใจเขา ทีม Clippers เองเอาค่าเหนื่อยเรท MLE $9.2 ล้านไปเซ็นจ้าง Serge Ibaka มาทีมเลย hard-capped เเละไม่สามารถขึ้นค่าเหนื่อย 20% ให้กับ Reggie ที่เป็นผู้เล่น non-bird ได้ทําให้เขาต้องยอมรับเรทค่าเหนื่อยขั้นตํ่า $2.1 ล้านต่ออีกปี
การอยู่กับทีม Clippers ในปีที่ 2 ก็ไม่ได้ถือว่าเเย่อะไรกับ Reggie เพราะมันทําให้ทีมถือสิทธิ์ bird ในตัวเขาหลังจากอยู่ที่นี่มาครบ 2 ฤดูกาลซึ่งจะทําให้ทีมสามารถเซ็นต่อสัญญากับเขาเเบบทะลุเเคปได้โดยเสนอค่าเหนื่อยให้เขาเพิ่มได้ไม่เกิน 175% ของเรทปัจจุบันหรือ 105% ของค่าเหนื่อยเฉลี่ยในลีก (ขึ้นอยู่กับว่าตัวเลขไหนสูงกว่า)
ค่าเหนื่อยเฉลี่ยของลีกคือค่าเหนื่อยระดับ non-taxpayer MLE $9.3 ล้านซึ่งในฤดูกาลหน้าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก cap space เพิ่มขึ้นทําให้เรทสูงสุดที่ทีม Clippers จะสามารถเสนอให้เขาได้คือราวๆ ปีละ $10 ล้านเเต่ตัว Reggie อาจจะอยากได้เงินมากกว่านั้น ดังนั้นถ้ามีทีมไหนเสนอมามากกว่า $10 ล้าน เขาก็คงไปเเน่
โอกาสที่ทีม Clippers จะเก็บเขาให้อยู่ต่อก็ยังมีอยู่เพราะตอนนี้มีเเค่ไม่กี่ทีมที่ยังมี cap space ระดับ MLE เหลืออยู่คือทีม OKC, Grizzlies, Spurs ซึ่งสามทีมนั้นมี point guard ตัวหลักอยู่เเล้ว ดังนั้นจะเหลือก็เเค่ทีม Raptors, Heats, Mavericks เเละ Knicks ที่มีโอกาสได้ตัวเขาไป
Credit: CBS Sports