พอดีลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำตามความฝัน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่สามารถดำเนินความฝันต่อได้ ทำให้ตอนนี้ตกอยู่ในสถานะว่างงาน แต่ก็ยังพอมีรายได้จากการขายของบ้างนิดหน่อย และทางบ้านแฟนมีธุรกิจส่วนตัวซึ่งพ่อกับแม่เขาดำเนินธุรกิจเอง โดยลูกชายลูกสาวเขามีเงินประจำ ไม่ได้สนใจหรือศึกษาจะสานต่ออะไรเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวเลย พ่อกับแม่เขาพอทราบว่าช่วงนี้เราเครียดๆจากการที่รายได้หายไปเกือบ100% จึงได้เกริ่นมาว่าให้มาทำงานด้วยกันก่อนไหม เรื่องเงินเดือนเดี๋ยวค่อยว่ากัน ในรอบแรกเราได้ปฏิเสธไป เพราะกลัวอะไรหลายๆอย่าง
1.ยังไม่ได้แต่งงานกัน ถ้าไปทำงานที่โรงงานบ้านแฟน ต้องค้างบ้านแฟนเลย แต่ข้อนี้อดทนได้ถ้าขับรถไปกลับบ้านเราเอง แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย
2.กลัวว่าการที่เราต้องคลุกคลี่ไปอยู่กับครอบครัวเขาเจอหน้ากันทุกวันทุกคืน อาจจะทำให้มีบางจุดที่วันนึงเราอาจจะรู้สึกไม่โอเคหรือเขาไม่โอเคกับเรา และสุดท้ายจะเป็นฉนวนที่ทำให้เรา2 คนต้องเลิกกันจริงๆ
3.กลัวน้องสาวแฟนจะมองว่าเรามายุ่มยามกับธุรกิจครอบครัวของเขารึป่าว (แต่ตัวน้องสาวของแฟนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรในธุรกิจครอบครัวเลย รวมทั้งแฟนรับราชการอยู่แล้ว)
4.กลัวการผูกมัด ที่บางครั้งอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก
ความกลัวข้างต้นเราไม่ได้บอกแฟน ได้แต่ฝากบอกฏิเสธไปแบบอ่อนน้อมและกราบขอบพระคุณพ่อแม่แฟนที่เมตตาให้มีงานทำในช่วงนี้ แล้วแม่แฟนก็คุยกับแฟนมาว่า "พ่อกับแม่เขามองว่าอีกหน่อย เรากับลูกชายเขาต้องมารับช่วงต่อของธุรกิจนี้ ถ้าแฟนยังรับราชการ เราต้องรับช่วงต่อเพราะพ่อกับแม่อายุมากแล้ว" คือเราไม่เคยคิดเลยว่าบ้านเขาจะพูดแบบนี้ออกมา ใจนึงก็รู้สึกดีใจที่เขาไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเราที่อยากให้มาสานต่อในธุรกิจของพ่อแม่ แต่อีกใจนึงก็กลัวว่า ถ้าเราทำได้ไม่ดีอย่างที่พ่อแม่เขาคาดหวังไว้ มันจะกลายเป็นเหมือนบททดสอบที่เราไม่เหมาะสมพอที่จะเป็นลูกสะใภ้เขารึป่าว
เลยอยากมาปรึกษาค่ะว่าเราควรเข้าไปฝึกและเรียนรู้งานธุรกิจบ้านแฟนต่อดีไหม หรือเราควรจะรอให้โควิดดีขึ้นและสานฝันของเราต่อดี หรือจะไปเรียนรู้ไว้ พอโควิดดีขึ้นก็ขอตัวออกมาตามฝันก่อน แต่ก็ยังไม่ทิ้งงานธุรกิจของบ้านแฟน
ยังไม่ได้แต่ง แต่พ่อแม่แฟนชวนให้ไปทำงานกับบริษัทที่บ้าน ควรไปทำดีไหมคะ
1.ยังไม่ได้แต่งงานกัน ถ้าไปทำงานที่โรงงานบ้านแฟน ต้องค้างบ้านแฟนเลย แต่ข้อนี้อดทนได้ถ้าขับรถไปกลับบ้านเราเอง แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย
2.กลัวว่าการที่เราต้องคลุกคลี่ไปอยู่กับครอบครัวเขาเจอหน้ากันทุกวันทุกคืน อาจจะทำให้มีบางจุดที่วันนึงเราอาจจะรู้สึกไม่โอเคหรือเขาไม่โอเคกับเรา และสุดท้ายจะเป็นฉนวนที่ทำให้เรา2 คนต้องเลิกกันจริงๆ
3.กลัวน้องสาวแฟนจะมองว่าเรามายุ่มยามกับธุรกิจครอบครัวของเขารึป่าว (แต่ตัวน้องสาวของแฟนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรในธุรกิจครอบครัวเลย รวมทั้งแฟนรับราชการอยู่แล้ว)
4.กลัวการผูกมัด ที่บางครั้งอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก
ความกลัวข้างต้นเราไม่ได้บอกแฟน ได้แต่ฝากบอกฏิเสธไปแบบอ่อนน้อมและกราบขอบพระคุณพ่อแม่แฟนที่เมตตาให้มีงานทำในช่วงนี้ แล้วแม่แฟนก็คุยกับแฟนมาว่า "พ่อกับแม่เขามองว่าอีกหน่อย เรากับลูกชายเขาต้องมารับช่วงต่อของธุรกิจนี้ ถ้าแฟนยังรับราชการ เราต้องรับช่วงต่อเพราะพ่อกับแม่อายุมากแล้ว" คือเราไม่เคยคิดเลยว่าบ้านเขาจะพูดแบบนี้ออกมา ใจนึงก็รู้สึกดีใจที่เขาไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเราที่อยากให้มาสานต่อในธุรกิจของพ่อแม่ แต่อีกใจนึงก็กลัวว่า ถ้าเราทำได้ไม่ดีอย่างที่พ่อแม่เขาคาดหวังไว้ มันจะกลายเป็นเหมือนบททดสอบที่เราไม่เหมาะสมพอที่จะเป็นลูกสะใภ้เขารึป่าว
เลยอยากมาปรึกษาค่ะว่าเราควรเข้าไปฝึกและเรียนรู้งานธุรกิจบ้านแฟนต่อดีไหม หรือเราควรจะรอให้โควิดดีขึ้นและสานฝันของเราต่อดี หรือจะไปเรียนรู้ไว้ พอโควิดดีขึ้นก็ขอตัวออกมาตามฝันก่อน แต่ก็ยังไม่ทิ้งงานธุรกิจของบ้านแฟน