สวัสดีค่ะ
แนะนำตัวก่อนนะคะ หนูอายุ 26 พื้นฐานครอบครัวฐานะปานกลางพ่อ-แม่แยกทางกัน แต่หากเดือดร้อนซัพพอร์ตได้ตลอด
ปัจจุบันทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ มีภาระผ่อนคอนโดและบัตรเครดิตนิดหน่อย
รายได้หักรายจ่ายคงที่เหลือกินเหลือใช้เดือนนึงประมาณ 10,000 บาทค่ะ
โดยส่วนตัวไม่ใช่คนติดซื้อของ เน้นซื้อของชิ้นใหญ่ ของกิน ของใช้มากกว่า
เดือนนึงมีเงินเก็บสำรองสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉินประมาณ 1,000-2,000 บาทค่ะ
มีแฟนอายุ 25 เรียนไม่จบป.ตรี ไม่มีแผนเรียนต่อตอนนี้ มีรายได้จากการขอเงินที่บ้านครั้งละ 500-1,000 บาทค่ะ
เคยลงทุนเปิดงานพิเศษเล็กๆให้ทำ โดยการให้ทุนก้อนไป ให้เขาไปบริหารจัดการวัตถุดิบเอง (ทำขนมไปขายที่ตลาดแถวคอนโด)
ติดปัญหาคือคนทำขนมหลักๆเป็นหนู เนื่องจากเขาทำไม่อร่อยเท่า (อยู่ระหว่างฝึกฝน อนาคตคงทำได้)
สุดท้ายไปไม่รอด เพราะที่บริษัทหนูคนลาออก ทำให้งานเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว เวลาทำส่วนนี้น้อยลง
พร้อมกับเจอปิดตลาด ลูกค้าหาย ขายวันนึงหักค่าแผง ค่าวัตถุดิบไม่เหลือถึงค่าแรง+ค่าไฟ เลยเลิกขายไปก่อน
ปัญหาตอนนี้ที่เจอคือหนูไม่มีเงินเก็บ และเงินที่เก็บสำรองไว้ค่อยๆถูกทยอยเอาออกมาใช้
มีค่าของใช้ร่วมกัน สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอง ฯลฯ ค่าไฟ ค่าน้ำที่เพิ่มขึ้น ค่าอาหารส่วนใหญ่หนูเป็นคนออก
เคยเกริ่นๆกับแฟนว่าให้แฟนกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนดีไหม เขาน้อยใจบอกว่าหนูจะทิ้งเขา
เขาอยู่นี่เขามีรายได้บ้าง กลับบ้านไปไม่มี เลยตกลงกันว่าลดค่าใช้จ่าย ตัดบุฟเฟ่ ดูหนัง ฟังเพลงไปหมด
ทำให้พอหายใจสะดวกขึ้นมาได้บ้าง ตกลงกันว่าค่าไฟ ค่าน้ำหารครึ่งเขาทำได้ทุกเดือน อันนี้โอเค
แต่ตอนนี้หนูมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้าเลยค่ะ เกิดสมมุติเจ็บป่วยหนักๆกันขึ้นมาจะทำยังไง
เงินสำรองเผื่อตกงานก็มีไม่มากพอ ถ้าหนูยังเป็นคนหารายได้หลักคนเดียวแบบนี้ต่อไป
อายุ 26 โตพอจะพูดว่ารักอย่างเดียวมันไม่พอได้รึยังคะ
ใจนึงก็รักและผูกพัน ใจนึงก็มองอนาคตข้างหน้าไม่เห็น
ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้ดีคะ
อายุ 26 โตมากพอจะพูดว่ารักอย่างเดียวมันไม่พอได้รึยังคะ
แนะนำตัวก่อนนะคะ หนูอายุ 26 พื้นฐานครอบครัวฐานะปานกลางพ่อ-แม่แยกทางกัน แต่หากเดือดร้อนซัพพอร์ตได้ตลอด
ปัจจุบันทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ มีภาระผ่อนคอนโดและบัตรเครดิตนิดหน่อย
รายได้หักรายจ่ายคงที่เหลือกินเหลือใช้เดือนนึงประมาณ 10,000 บาทค่ะ
โดยส่วนตัวไม่ใช่คนติดซื้อของ เน้นซื้อของชิ้นใหญ่ ของกิน ของใช้มากกว่า
เดือนนึงมีเงินเก็บสำรองสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉินประมาณ 1,000-2,000 บาทค่ะ
มีแฟนอายุ 25 เรียนไม่จบป.ตรี ไม่มีแผนเรียนต่อตอนนี้ มีรายได้จากการขอเงินที่บ้านครั้งละ 500-1,000 บาทค่ะ
เคยลงทุนเปิดงานพิเศษเล็กๆให้ทำ โดยการให้ทุนก้อนไป ให้เขาไปบริหารจัดการวัตถุดิบเอง (ทำขนมไปขายที่ตลาดแถวคอนโด)
ติดปัญหาคือคนทำขนมหลักๆเป็นหนู เนื่องจากเขาทำไม่อร่อยเท่า (อยู่ระหว่างฝึกฝน อนาคตคงทำได้)
สุดท้ายไปไม่รอด เพราะที่บริษัทหนูคนลาออก ทำให้งานเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว เวลาทำส่วนนี้น้อยลง
พร้อมกับเจอปิดตลาด ลูกค้าหาย ขายวันนึงหักค่าแผง ค่าวัตถุดิบไม่เหลือถึงค่าแรง+ค่าไฟ เลยเลิกขายไปก่อน
ปัญหาตอนนี้ที่เจอคือหนูไม่มีเงินเก็บ และเงินที่เก็บสำรองไว้ค่อยๆถูกทยอยเอาออกมาใช้
มีค่าของใช้ร่วมกัน สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอง ฯลฯ ค่าไฟ ค่าน้ำที่เพิ่มขึ้น ค่าอาหารส่วนใหญ่หนูเป็นคนออก
เคยเกริ่นๆกับแฟนว่าให้แฟนกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนดีไหม เขาน้อยใจบอกว่าหนูจะทิ้งเขา
เขาอยู่นี่เขามีรายได้บ้าง กลับบ้านไปไม่มี เลยตกลงกันว่าลดค่าใช้จ่าย ตัดบุฟเฟ่ ดูหนัง ฟังเพลงไปหมด
ทำให้พอหายใจสะดวกขึ้นมาได้บ้าง ตกลงกันว่าค่าไฟ ค่าน้ำหารครึ่งเขาทำได้ทุกเดือน อันนี้โอเค
แต่ตอนนี้หนูมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้าเลยค่ะ เกิดสมมุติเจ็บป่วยหนักๆกันขึ้นมาจะทำยังไง
เงินสำรองเผื่อตกงานก็มีไม่มากพอ ถ้าหนูยังเป็นคนหารายได้หลักคนเดียวแบบนี้ต่อไป
อายุ 26 โตพอจะพูดว่ารักอย่างเดียวมันไม่พอได้รึยังคะ
ใจนึงก็รักและผูกพัน ใจนึงก็มองอนาคตข้างหน้าไม่เห็น
ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้ดีคะ