บทที่ 1
https://pantip.com/topic/40772858
บทที่ 2
https://pantip.com/topic/40778748
บทที่ 3
https://pantip.com/topic/40793425
........
ผมลางาน ไม่สนใจว่าจะมีผลอย่างไรกับชีวิตในอนาคต วันสองวันของไวโอลามีความหมายมากพอ ที่ผมจะต้องอยู่เคียงข้างเธอเสมอ รู้ในใจตัวเองเลยว่าเพื่อไวโอลา ผมขอยอมแลกทุกอย่าง กระทั่งชีวิต
อาวุธที่จะใช้คือค้อนตีตะปู ผมไปซื้อมาเพิ่มอีกสองคู่ วางตำแหน่งที่หยิบฉวยง่าย ๆ เพราะไม่รู้ว่า ‘เจ้ารูชั่ว’ ของปีเตอร์จะโผล่มาจุดใดของบ้าน แต่ที่แน่ ๆ มันจะปรากฎ ณ ตำแหน่งไม่ไกลออกไปอย่างแน่นอน คิดดูแล้วก็แปลกดี คงไม่มีใครคิดจะต่อกรกับพวกต่างมิติด้วยค้อนอย่างพวกเราแน่เลย จะว่าไปก็เท่ดีนะครับ
แน่นอนว่าวันจันทร์ผมไม่ได้ไปทำงาน ผมกับไวโอลานั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น คอยรับสัญญาณจากไวโอลา เพราะเธอจะสัมผัสด้วยความรู้สึกว่าโพรงประหลาดจะโผล่มาตำแหน่งใด ซึ่งความสามารถนี้ มีคนต่างมิติเท่านั้น จะรับรู้ได้
ถึงจะใจหาย กับการพลัดพรากจากไปของสาวต่างมิติปานใด ผมก็ต้องสะกดจิตใจเอาไว้ ไม่แสดงอะไรออกมา โลกแห่งนี้ไม่ใช่โลกของเธอ ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องกลับไป ผมเองถ้ารักเธอจริง ๆ ก็ต้องทำใจ ฝืนใจ ปล่อยไป ความรักบางอย่างคือการปล่อยมือ บางครั้งการเหนี่ยวรั้ง เป็นการสร้างปัญหาไม่สิ้นสุดเมื่อพบว่าไม่ลงตัว
ไวโอลาดูเธอไม่ค่อยมีท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจ นั่งจิบไวน์อย่างใจเย็น ดูทีวีไปบางครั้งก็นั่งหัวเราะคนเดียว เมื่อมีฉากขำ ๆ ตลก ๆ เวลานี้เธอใช้ภาษามนุษย์ได้ดีพอ ๆ กับชาวโลก ผมแอบมองเธอจากด้านข้าง ด้วยความรู้สึกว่าเธอน่ารักเสียจริง อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธออยู่ด้วยนาน ๆ จะดีขนาดไหน ต่อให้เธอไม่มีงานทำ ผมก็หาเลี้ยงเธอได้ ขอเพียงกลับบ้านมาเจอกันทุกเย็น มีเธอรออยู่เสมอ แต่...เป็นความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
เวลาประมาณเก้านาฬิกา หญิงสาวต่างดาวชะงักค้างครู่หนึ่ง ก่อนเทไวน์ลงเต็มแก้ว กระดกรวดเดียวหมด ลุกขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พยักหน้ามองหน้าผม บอกว่า
“มันมากันแล้ว อยู่กำแพงรั้วหน้าบ้าน ไปกันค่ะ”
ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำสอง ผมคว้าค้อนเหล็กบนโต๊ะด้านข้าง วิ่งลิ่วนำหน้าออกไปหน้าบ้านทันที
พอออกมายืนหน้าบ้าน มองดูประตูรั้ว ชัดเลย ภาพวงกลมสีเทาขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตร สีของมันเปลี่ยนไปคล้ายไหลวนไปวนมา ราวกลุ่มหมอกกำลังเคลื่อนที่ ไม่รอช้าผมเริ่มต้นทุบรอยประหลาดด้วยค้อนในมือทันที ไวโอลาที่วิ่งมาถึง ก็ช่วยระดมกระหน่ำกำลังทุบ ร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง พลังแห่งไวน์รุนแรงมากเป็นพิเศษ ทั้งที่เป็นสาวเอวบางร่างน้อยแท้ ๆ เสียงค้อนเหวี่ยงกระทบกำแพงคอนกรีตดังสนั่นไม่ขาดสาย
ครั้งนี้ไม่ง่าย ภาพประหลาดเหมือนมีพลังต่อต้านอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ผู้บุกรุกคงวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี กระนั้นพวกเราก็ไม่ย่อท้อ ออกแรงทุบกำแพงต่อไป ตอนนั้นเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยของชาวบ้าน คงพากันมารุมล้อมยืนดูอย่างไม่เข้าใจ ว่าคนบ้าอะไรอยู่ดี ๆ มาทุบกำแพงรั้วเล่น แต่ผมไม่สนใจ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ไม่รู้ไม่สน!
ผมสังเกตเห็นภาพในวงกลมสีเทาปรากฏเป็นภาพใบหน้าของผู้คนหลายคน เคลื่อนไหวไปมาราวภูตผีปีศาจ พอถูกทุบด้วยค้อนก็มีอาการสั่นสะท้านพร่าไหว ก่อนจะวูบวาบย้ายไปตำแหน่งอื่น ทำให้ต้องตามทุบอุตลุต เหมือนเกมตีหนูในรู ตีกันจนแขนเริ่มล้าเพราะอ่อนแรง
ทันใดมีเสียงแว่วเข้าหู เป็นเสียงที่ปกติไม่อยากได้ยินเอาเสียเลย แต่เวลานี้เหมือนเสียงวีรบุรุษมาโปรด
“หลบหน่อย หลบหน่อย ปีเตอร์จอมจุ้นค้อนปอนด์พิฆาตมาแล้ว”
ร่างผอมสูงของหนุ่มแว่นข้างบ้านนั่นเอง ในที่สุดเขาก็มาพร้อมกับค้อนปอนด์ในมือ ผมรีบถอยฉากออกทันที ไม่ใช่อู้งาน แต่เพราะกลัวค้อนในมือของปีเตอร์ จะเหวี่ยงพลาดมาโดนต่างหาก ไม่แน่ว่าเขาอาจรู้ว่า ผมไม่ค่อยชอบหน้าเขาอยู่ก็เป็นได้ หนุ่มแว่นพอมาถึง ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาควงค้อนปอนด์ฟาดกระหน่ำลงบนกำแพงรั้วทันที ผมถอยออกมาหอบหายใจ ส่วนไวโอลายังคงฟาดต่อไปแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
สถานการณ์เริ่มดีขึ้นทันทีเมื่อปีเตอร์มาช่วย ถึงเขาจะดูรูปร่างผอม แต่นั่นเป็นเพียงภายนอก ลีลาการควงค้อนปอนด์ฟากของเขาบอกได้เลยว่าสวยงามเต็มไปด้วยพลัง ผมนึกขอบคุณตัวเองในใจที่ไม่เคยไปหาเรื่องต่อยกับหนุ่มแว่น เพราะดูตามสายตาเวลานี้ ถ้าต่อยกันจริง ๆ ผมสู้เขาไม่ได้แน่นอน
รูปใบหน้าในวงกลมสีเทาเริ่มจางหายไป แต่ดูเหมือนจะมีใบหน้าหนึ่งที่เหมือนจงใจหลอก แรกก็ทำท่าจางหาย แต่แล้วมันกลับมีสีเข้มขึ้นกะทันหัน แล้วพุ่งพรวดออกมาจากวงกลม ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็วกลางถนน แบบนอกเหนือความคาดหมาย ในขณะที่ปีเตอร์และไวโอลากำลังช่วยกันฟาดใบหน้าปริศนาที่เหลือจางหายไป
ใช่แล้วครับคุณหมอ มีคนหนึ่งหลุดรอดออกมาได้
หมอนี่สวมชุดดำรูปร่างสูงพอ ๆ กับปีเตอร์สวมแว่นตาบิดบังใบหน้าค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นเต็มตัว ท่าทางคล้ายสายลับสมิทในหนัง เมทริกซ์
ปีเตอร์พอเห็นดังนั้น รีบโยนค้อนปอนด์ทิ้ง วิ่งหายเข้าไปในบ้านทันที อ้าว ! คุณปีเตอร์... ผมร้องถามหลังไปแบบงงงัน ทำไมมาทิ้งงานกลางคันแบบนี้ รู้สึกทั้งตกใจ ทั้งอยากจะขำ แต่เมื่อนึกว่าเขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเขา ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจทิ้งภารกิจกลางอากาศ ของเพื่อนบ้านจอมจุ้น ซึ่งหลัง ๆ มารู้สึกทำตัวดีเกินกว่าเหตุ
ผู้บุกรุกไม่มีอาวุธมาด้วย จะเป็นเพราะระบบการเคลื่อนย้ายทำไม่ได้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ไวโอลาทิ้งค้อนในมือ เหมือนไม่อยากเอาเปรียบคู่ต่อสู้ วิ่งปราดเข้าไปเตะตูมเข้าหน้าท้องของผู้บุกรุก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างสูงงองุ้มลงทันที โดนเตะอัดหนักหน่วงขนาดนี้ทนได้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา
และไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา นักฆ่าต่างมิติยืดตัวขึ้น ยืนมือขวาบีบใส่ลำคอของไวโอลาบีบแน่น หญิงสาวพยายามใช้สองมือแกะออกอย่างเต็มที่ ถอยหลังกรูดทีละก้าว ทีละก้าว... ร่างสูงเงื้อหมัดซ้ายขึ้น ทำท่าจะชกออก
ผมถือค้อนรอจังหวะอยู่วงนอก เห็นดังนั้นรีบวิ่งเข้าทางด้านหลังของผู้บุกรุก ค้อนฟาดลงหมายศีรษะของมัน คุณหมอไม่ต้องมาว่าผมไม่ยุติธรรมนะครับ นี่ไม่ใช่การต่อสู้บนสังเวียน ไม่มีกฏ กติกา มีแต่ความอยู่รอด นึกในใจอย่างเดียวว่าต้องช่วยไวโอลาให้ถึงที่สุด
หมอนั่นเหมือนจะรู้ตัว มือช้ายเปลี่ยนจากจะชกหมัด เป็นเหวี่ยงแขนปัดป้อง กระแทกค้อนที่กำลังเหวี่ยงลงมา ทำให้ผมตัวหมุนตามแรงเหวี่ยงลงไปนอนเค้เก้ ค้อนหลุดกระเด็นออกจากมือ
แต่โชคยังเข้าข้าง บนพื้นมีค้อนปอนด์ของปีเตอร์ วางอยู่ใกล้มือ ผมรวบรวมกำลังตะกายไปคว้าด้ามค้อนมาได้ เหวี่ยงใส่ข้อเท้าของเจ้าตัวใหญ่สุดแรง เก่งแค่ไหนก็คงไม่คาดคิดว่าผมจะมีก๊อกสอง เสียงของมันร้องออกมาเป็นภาษาต่างมิติ กระโดดตัวลอยด้วยความเจ็บปวด แต่มือขวายังคงบีบลำคอของไวโอลาไว้ไม่ยอมปล่อย ผมทำอะไรไม่ถูก ค้อนปอนด์หลุดมือไปแล้ว จึงรีบกลิ้งตัวออกมา เพราะแน่ใจว่าโดนจังแบบนี้มันต้องชะงักไปได้บ้าง และก็จริงดังคาด ขณะผู้บุกรุกกำลังทำท่าขาโขยกเขยก สาวต่างดาวดูเหมือนจะตั้งหลักได้ เธอหยุดถอยหลังตั้งหลักตวัดเท้าเตะผ่าหมากอัดเปรี้ยงขึ้นมาเต็มที่ จนแทบเห็นภาพอะไรบางอย่างแตกละเอียดกระจัดกระจาย คนชุดดำทำตัวงอเป็นกุ้งเผา ปล่อยมือที่บีบลำคอไวโอลาออกทันที หันไปกุมอย่างอื่นที่สำคัญกว่า
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอด มองดูอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้รีบซ้ำเติม รอจนคู่ต่อสู้ยืดตัวขึ้น เธอยกขาหมุนสะโพกพร้อมส่งแรงเตะแบบเตะกลับหลัง เข้ากลางอกของผู้บุกรุกอย่างจัง ภาพที่ผมเห็นเวลานั้นค่อนข้างผิดปกติ เพราะเห็นคนถูกเตะแบคคิกเซถอยหลังทีละก้าว จนแผ่นหลังไปปะทะกำแพงรั้วแบบดูไม่รุนแรงนัก ร่างสูงใหญ่หยุดกึก แต่หลังจากนั้นกำแพงรั้วด้านหลัง พังทลายล้มครืนลงทั้งแถบ ถึงรู้ว่าลูกเตะแบคคิกของหญิงสาวรุนแรงปานใด
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ร่างสูงใหญ่ก้าวเขยกตรงเข้ามาไวโอลาอีกครั้ง ผมอยากจะด่ามันออกมาเป็นภาษาเยอรมัน ทำไมทนทานเหลือเกิน แบบนี้ต้องไปขอยืมรถถังหุ้มเกราะแห่งชาติ มาลุยกัน หรืออย่างไร
เสียงวิ้ง ๆ แปลก ๆ ดังขึ้น หันไปมอง พระเจ้า...คุณปีเตอร์เพื่อนบ้านยืนอยู่บนรถจี๊ปประจำตัวของเขา ยืนอย่างเท่ ไม่รู้ว่าขับรถออกจากบ้านมาตอนไหน ในมือถือสิ่งของบางอย่างคล้ายปืนฉีดน้ำแต่ไม่ใช่แน่นอน เพราะมีสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด เขาคงสร้างเครื่องมืออะไรสักอย่าง ที่กำลังส่งเสียงแหลมสูงออกมาจนบาดแก้วหู ร่างของผู้บุกรุกที่เดินมาถึงกลางถนนหยุดชะงักลงทันที ยกมือทั้งสองขึ้นปิดหูด้วยท่าทางทรมาน ความถี่เสียงจะต้องมีผลและความหมายอะไรสักอย่าง
หนุ่มแว่นทำเซอร์ไพรส์อีกแล้ว เขาไม่ได้วิ่งหนีเอาตัวรอด แต่วิ่งไปตั้งหลัก และกลับมาพร้อมด้วยอาวุธ เหมือนจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ ปีเตอร์ผลุบลงไปในรถจิ๊ป เร่งเครื่องจนล้อหมุนฟรีอยู่กับพื้น ก่อนพารถคู่ใจทะยานเข้าชนร่างของผู้บุกรุกเต็มแรง เสียงดังสนั่น ร่างคนถูกชนถึงกับลอยกระเด็นไปไกล
และซวยซ้ำซวยซ้อนของมัน เมื่อร่างกำลังลอยคว้างกระแทกโครมเข้ากับรถตำรวจที่วิ่งเข้ามาพอดี ไม่รู้ว่าใครซวยกว่ากัน เสียงเบรกรถดังเอี๊ยดรถตำรวจ วิ่งปัดไปมาเหมือนคนขับตกใจ โดยมีร่างของผู้บุกรุกยังนอนหงายบนอยู่ฝากระโปรงรถ จากนั้นค่อยไหลทำท่าจะหล่นลงมากองบนพื้น
รถจิ๊ปของปีเตอร์ที่หลังจากพุ่งชนเสร็จ ก็ถอยหลังออกไปตั้งหลัก เหมือนรอจังหวะ เขาเหยียบคันเร่งจนเสียงรถกระหึ่มควันตลบ รถจี๊ปพุ่งเข้าประสานงากระแทกอัดรถตำรวจโครมใหญ่ โดยมีร่างของผู้บุกรุกอยู่ระหว่างกลางพอดี ถูกอัดขนาดนี้รอดได้ก็ไม่ใช่คนแล้ว พวกตำรวจวิ่งกรูลงมาจากรถ เสียงร้องเสียงสั่งการ เอะอะวุ่นวายเต็มไปหมด
ผมมองหาไวโอลา เห็นเธอส่งยิ้มมาให้ ขณะที่ร่างของเธอลอยขึ้น สูงขึ้นไปในอากาศ เรือนผมพลิ้วไสวตามสายลม ผมใจหายวาบ เธอกำลังจากไป แต่มาคิดได้ว่า ถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้ว ความวุ่นวายยุ่งยากกำลังถามหา ใช่! ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเลย ที่รัก ขึ้นไป สูงไป ขึ้นไป ผมร้องตะโกน พลางโบกมือทำสัญญาณให้เธอลอยขึ้นไป น้ำตาไหลเป็นทางอย่างไม่อายใคร เหมือนหัวใจหลุดลอยตามไปด้วย การร่วมทุกข์ร่วมสุขต่อสู้ด้วยกันมาทำให้ความผูกพันมากมายลึกซึ้ง
ผมเข้าใจแล้วว่า ท้องฟ้าเป็นสองมิติได้ ในสายตาของคนเรา เข้าใจแล้วจริง ๆ ภาพของหญิงสาวต่างดาวหยุดยืนบนท้องฟ้า ท่ามกลางกลุ่มเมฆขาวราวปุยนุ่น ของภาพเขียนสวยงาม ก่อนจะจางหายไป
.
บันทึกของคนบ้า.........ความรักสองมิติ (4..จบ)
บทที่ 1
https://pantip.com/topic/40772858
บทที่ 2
https://pantip.com/topic/40778748
บทที่ 3
https://pantip.com/topic/40793425
........
ผมลางาน ไม่สนใจว่าจะมีผลอย่างไรกับชีวิตในอนาคต วันสองวันของไวโอลามีความหมายมากพอ ที่ผมจะต้องอยู่เคียงข้างเธอเสมอ รู้ในใจตัวเองเลยว่าเพื่อไวโอลา ผมขอยอมแลกทุกอย่าง กระทั่งชีวิต
อาวุธที่จะใช้คือค้อนตีตะปู ผมไปซื้อมาเพิ่มอีกสองคู่ วางตำแหน่งที่หยิบฉวยง่าย ๆ เพราะไม่รู้ว่า ‘เจ้ารูชั่ว’ ของปีเตอร์จะโผล่มาจุดใดของบ้าน แต่ที่แน่ ๆ มันจะปรากฎ ณ ตำแหน่งไม่ไกลออกไปอย่างแน่นอน คิดดูแล้วก็แปลกดี คงไม่มีใครคิดจะต่อกรกับพวกต่างมิติด้วยค้อนอย่างพวกเราแน่เลย จะว่าไปก็เท่ดีนะครับ
แน่นอนว่าวันจันทร์ผมไม่ได้ไปทำงาน ผมกับไวโอลานั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น คอยรับสัญญาณจากไวโอลา เพราะเธอจะสัมผัสด้วยความรู้สึกว่าโพรงประหลาดจะโผล่มาตำแหน่งใด ซึ่งความสามารถนี้ มีคนต่างมิติเท่านั้น จะรับรู้ได้
ถึงจะใจหาย กับการพลัดพรากจากไปของสาวต่างมิติปานใด ผมก็ต้องสะกดจิตใจเอาไว้ ไม่แสดงอะไรออกมา โลกแห่งนี้ไม่ใช่โลกของเธอ ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องกลับไป ผมเองถ้ารักเธอจริง ๆ ก็ต้องทำใจ ฝืนใจ ปล่อยไป ความรักบางอย่างคือการปล่อยมือ บางครั้งการเหนี่ยวรั้ง เป็นการสร้างปัญหาไม่สิ้นสุดเมื่อพบว่าไม่ลงตัว
ไวโอลาดูเธอไม่ค่อยมีท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจ นั่งจิบไวน์อย่างใจเย็น ดูทีวีไปบางครั้งก็นั่งหัวเราะคนเดียว เมื่อมีฉากขำ ๆ ตลก ๆ เวลานี้เธอใช้ภาษามนุษย์ได้ดีพอ ๆ กับชาวโลก ผมแอบมองเธอจากด้านข้าง ด้วยความรู้สึกว่าเธอน่ารักเสียจริง อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธออยู่ด้วยนาน ๆ จะดีขนาดไหน ต่อให้เธอไม่มีงานทำ ผมก็หาเลี้ยงเธอได้ ขอเพียงกลับบ้านมาเจอกันทุกเย็น มีเธอรออยู่เสมอ แต่...เป็นความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
เวลาประมาณเก้านาฬิกา หญิงสาวต่างดาวชะงักค้างครู่หนึ่ง ก่อนเทไวน์ลงเต็มแก้ว กระดกรวดเดียวหมด ลุกขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พยักหน้ามองหน้าผม บอกว่า
“มันมากันแล้ว อยู่กำแพงรั้วหน้าบ้าน ไปกันค่ะ”
ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำสอง ผมคว้าค้อนเหล็กบนโต๊ะด้านข้าง วิ่งลิ่วนำหน้าออกไปหน้าบ้านทันที
พอออกมายืนหน้าบ้าน มองดูประตูรั้ว ชัดเลย ภาพวงกลมสีเทาขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตร สีของมันเปลี่ยนไปคล้ายไหลวนไปวนมา ราวกลุ่มหมอกกำลังเคลื่อนที่ ไม่รอช้าผมเริ่มต้นทุบรอยประหลาดด้วยค้อนในมือทันที ไวโอลาที่วิ่งมาถึง ก็ช่วยระดมกระหน่ำกำลังทุบ ร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง พลังแห่งไวน์รุนแรงมากเป็นพิเศษ ทั้งที่เป็นสาวเอวบางร่างน้อยแท้ ๆ เสียงค้อนเหวี่ยงกระทบกำแพงคอนกรีตดังสนั่นไม่ขาดสาย
ครั้งนี้ไม่ง่าย ภาพประหลาดเหมือนมีพลังต่อต้านอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ผู้บุกรุกคงวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี กระนั้นพวกเราก็ไม่ย่อท้อ ออกแรงทุบกำแพงต่อไป ตอนนั้นเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยของชาวบ้าน คงพากันมารุมล้อมยืนดูอย่างไม่เข้าใจ ว่าคนบ้าอะไรอยู่ดี ๆ มาทุบกำแพงรั้วเล่น แต่ผมไม่สนใจ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ไม่รู้ไม่สน!
ผมสังเกตเห็นภาพในวงกลมสีเทาปรากฏเป็นภาพใบหน้าของผู้คนหลายคน เคลื่อนไหวไปมาราวภูตผีปีศาจ พอถูกทุบด้วยค้อนก็มีอาการสั่นสะท้านพร่าไหว ก่อนจะวูบวาบย้ายไปตำแหน่งอื่น ทำให้ต้องตามทุบอุตลุต เหมือนเกมตีหนูในรู ตีกันจนแขนเริ่มล้าเพราะอ่อนแรง
ทันใดมีเสียงแว่วเข้าหู เป็นเสียงที่ปกติไม่อยากได้ยินเอาเสียเลย แต่เวลานี้เหมือนเสียงวีรบุรุษมาโปรด
“หลบหน่อย หลบหน่อย ปีเตอร์จอมจุ้นค้อนปอนด์พิฆาตมาแล้ว”
ร่างผอมสูงของหนุ่มแว่นข้างบ้านนั่นเอง ในที่สุดเขาก็มาพร้อมกับค้อนปอนด์ในมือ ผมรีบถอยฉากออกทันที ไม่ใช่อู้งาน แต่เพราะกลัวค้อนในมือของปีเตอร์ จะเหวี่ยงพลาดมาโดนต่างหาก ไม่แน่ว่าเขาอาจรู้ว่า ผมไม่ค่อยชอบหน้าเขาอยู่ก็เป็นได้ หนุ่มแว่นพอมาถึง ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาควงค้อนปอนด์ฟาดกระหน่ำลงบนกำแพงรั้วทันที ผมถอยออกมาหอบหายใจ ส่วนไวโอลายังคงฟาดต่อไปแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
สถานการณ์เริ่มดีขึ้นทันทีเมื่อปีเตอร์มาช่วย ถึงเขาจะดูรูปร่างผอม แต่นั่นเป็นเพียงภายนอก ลีลาการควงค้อนปอนด์ฟากของเขาบอกได้เลยว่าสวยงามเต็มไปด้วยพลัง ผมนึกขอบคุณตัวเองในใจที่ไม่เคยไปหาเรื่องต่อยกับหนุ่มแว่น เพราะดูตามสายตาเวลานี้ ถ้าต่อยกันจริง ๆ ผมสู้เขาไม่ได้แน่นอน
รูปใบหน้าในวงกลมสีเทาเริ่มจางหายไป แต่ดูเหมือนจะมีใบหน้าหนึ่งที่เหมือนจงใจหลอก แรกก็ทำท่าจางหาย แต่แล้วมันกลับมีสีเข้มขึ้นกะทันหัน แล้วพุ่งพรวดออกมาจากวงกลม ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็วกลางถนน แบบนอกเหนือความคาดหมาย ในขณะที่ปีเตอร์และไวโอลากำลังช่วยกันฟาดใบหน้าปริศนาที่เหลือจางหายไป
ใช่แล้วครับคุณหมอ มีคนหนึ่งหลุดรอดออกมาได้
หมอนี่สวมชุดดำรูปร่างสูงพอ ๆ กับปีเตอร์สวมแว่นตาบิดบังใบหน้าค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นเต็มตัว ท่าทางคล้ายสายลับสมิทในหนัง เมทริกซ์
ปีเตอร์พอเห็นดังนั้น รีบโยนค้อนปอนด์ทิ้ง วิ่งหายเข้าไปในบ้านทันที อ้าว ! คุณปีเตอร์... ผมร้องถามหลังไปแบบงงงัน ทำไมมาทิ้งงานกลางคันแบบนี้ รู้สึกทั้งตกใจ ทั้งอยากจะขำ แต่เมื่อนึกว่าเขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเขา ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจทิ้งภารกิจกลางอากาศ ของเพื่อนบ้านจอมจุ้น ซึ่งหลัง ๆ มารู้สึกทำตัวดีเกินกว่าเหตุ
ผู้บุกรุกไม่มีอาวุธมาด้วย จะเป็นเพราะระบบการเคลื่อนย้ายทำไม่ได้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ไวโอลาทิ้งค้อนในมือ เหมือนไม่อยากเอาเปรียบคู่ต่อสู้ วิ่งปราดเข้าไปเตะตูมเข้าหน้าท้องของผู้บุกรุก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างสูงงองุ้มลงทันที โดนเตะอัดหนักหน่วงขนาดนี้ทนได้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา
และไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา นักฆ่าต่างมิติยืดตัวขึ้น ยืนมือขวาบีบใส่ลำคอของไวโอลาบีบแน่น หญิงสาวพยายามใช้สองมือแกะออกอย่างเต็มที่ ถอยหลังกรูดทีละก้าว ทีละก้าว... ร่างสูงเงื้อหมัดซ้ายขึ้น ทำท่าจะชกออก
ผมถือค้อนรอจังหวะอยู่วงนอก เห็นดังนั้นรีบวิ่งเข้าทางด้านหลังของผู้บุกรุก ค้อนฟาดลงหมายศีรษะของมัน คุณหมอไม่ต้องมาว่าผมไม่ยุติธรรมนะครับ นี่ไม่ใช่การต่อสู้บนสังเวียน ไม่มีกฏ กติกา มีแต่ความอยู่รอด นึกในใจอย่างเดียวว่าต้องช่วยไวโอลาให้ถึงที่สุด
หมอนั่นเหมือนจะรู้ตัว มือช้ายเปลี่ยนจากจะชกหมัด เป็นเหวี่ยงแขนปัดป้อง กระแทกค้อนที่กำลังเหวี่ยงลงมา ทำให้ผมตัวหมุนตามแรงเหวี่ยงลงไปนอนเค้เก้ ค้อนหลุดกระเด็นออกจากมือ
แต่โชคยังเข้าข้าง บนพื้นมีค้อนปอนด์ของปีเตอร์ วางอยู่ใกล้มือ ผมรวบรวมกำลังตะกายไปคว้าด้ามค้อนมาได้ เหวี่ยงใส่ข้อเท้าของเจ้าตัวใหญ่สุดแรง เก่งแค่ไหนก็คงไม่คาดคิดว่าผมจะมีก๊อกสอง เสียงของมันร้องออกมาเป็นภาษาต่างมิติ กระโดดตัวลอยด้วยความเจ็บปวด แต่มือขวายังคงบีบลำคอของไวโอลาไว้ไม่ยอมปล่อย ผมทำอะไรไม่ถูก ค้อนปอนด์หลุดมือไปแล้ว จึงรีบกลิ้งตัวออกมา เพราะแน่ใจว่าโดนจังแบบนี้มันต้องชะงักไปได้บ้าง และก็จริงดังคาด ขณะผู้บุกรุกกำลังทำท่าขาโขยกเขยก สาวต่างดาวดูเหมือนจะตั้งหลักได้ เธอหยุดถอยหลังตั้งหลักตวัดเท้าเตะผ่าหมากอัดเปรี้ยงขึ้นมาเต็มที่ จนแทบเห็นภาพอะไรบางอย่างแตกละเอียดกระจัดกระจาย คนชุดดำทำตัวงอเป็นกุ้งเผา ปล่อยมือที่บีบลำคอไวโอลาออกทันที หันไปกุมอย่างอื่นที่สำคัญกว่า
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอด มองดูอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้รีบซ้ำเติม รอจนคู่ต่อสู้ยืดตัวขึ้น เธอยกขาหมุนสะโพกพร้อมส่งแรงเตะแบบเตะกลับหลัง เข้ากลางอกของผู้บุกรุกอย่างจัง ภาพที่ผมเห็นเวลานั้นค่อนข้างผิดปกติ เพราะเห็นคนถูกเตะแบคคิกเซถอยหลังทีละก้าว จนแผ่นหลังไปปะทะกำแพงรั้วแบบดูไม่รุนแรงนัก ร่างสูงใหญ่หยุดกึก แต่หลังจากนั้นกำแพงรั้วด้านหลัง พังทลายล้มครืนลงทั้งแถบ ถึงรู้ว่าลูกเตะแบคคิกของหญิงสาวรุนแรงปานใด
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ร่างสูงใหญ่ก้าวเขยกตรงเข้ามาไวโอลาอีกครั้ง ผมอยากจะด่ามันออกมาเป็นภาษาเยอรมัน ทำไมทนทานเหลือเกิน แบบนี้ต้องไปขอยืมรถถังหุ้มเกราะแห่งชาติ มาลุยกัน หรืออย่างไร
เสียงวิ้ง ๆ แปลก ๆ ดังขึ้น หันไปมอง พระเจ้า...คุณปีเตอร์เพื่อนบ้านยืนอยู่บนรถจี๊ปประจำตัวของเขา ยืนอย่างเท่ ไม่รู้ว่าขับรถออกจากบ้านมาตอนไหน ในมือถือสิ่งของบางอย่างคล้ายปืนฉีดน้ำแต่ไม่ใช่แน่นอน เพราะมีสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด เขาคงสร้างเครื่องมืออะไรสักอย่าง ที่กำลังส่งเสียงแหลมสูงออกมาจนบาดแก้วหู ร่างของผู้บุกรุกที่เดินมาถึงกลางถนนหยุดชะงักลงทันที ยกมือทั้งสองขึ้นปิดหูด้วยท่าทางทรมาน ความถี่เสียงจะต้องมีผลและความหมายอะไรสักอย่าง
หนุ่มแว่นทำเซอร์ไพรส์อีกแล้ว เขาไม่ได้วิ่งหนีเอาตัวรอด แต่วิ่งไปตั้งหลัก และกลับมาพร้อมด้วยอาวุธ เหมือนจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ ปีเตอร์ผลุบลงไปในรถจิ๊ป เร่งเครื่องจนล้อหมุนฟรีอยู่กับพื้น ก่อนพารถคู่ใจทะยานเข้าชนร่างของผู้บุกรุกเต็มแรง เสียงดังสนั่น ร่างคนถูกชนถึงกับลอยกระเด็นไปไกล
และซวยซ้ำซวยซ้อนของมัน เมื่อร่างกำลังลอยคว้างกระแทกโครมเข้ากับรถตำรวจที่วิ่งเข้ามาพอดี ไม่รู้ว่าใครซวยกว่ากัน เสียงเบรกรถดังเอี๊ยดรถตำรวจ วิ่งปัดไปมาเหมือนคนขับตกใจ โดยมีร่างของผู้บุกรุกยังนอนหงายบนอยู่ฝากระโปรงรถ จากนั้นค่อยไหลทำท่าจะหล่นลงมากองบนพื้น
รถจิ๊ปของปีเตอร์ที่หลังจากพุ่งชนเสร็จ ก็ถอยหลังออกไปตั้งหลัก เหมือนรอจังหวะ เขาเหยียบคันเร่งจนเสียงรถกระหึ่มควันตลบ รถจี๊ปพุ่งเข้าประสานงากระแทกอัดรถตำรวจโครมใหญ่ โดยมีร่างของผู้บุกรุกอยู่ระหว่างกลางพอดี ถูกอัดขนาดนี้รอดได้ก็ไม่ใช่คนแล้ว พวกตำรวจวิ่งกรูลงมาจากรถ เสียงร้องเสียงสั่งการ เอะอะวุ่นวายเต็มไปหมด
ผมมองหาไวโอลา เห็นเธอส่งยิ้มมาให้ ขณะที่ร่างของเธอลอยขึ้น สูงขึ้นไปในอากาศ เรือนผมพลิ้วไสวตามสายลม ผมใจหายวาบ เธอกำลังจากไป แต่มาคิดได้ว่า ถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้ว ความวุ่นวายยุ่งยากกำลังถามหา ใช่! ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเลย ที่รัก ขึ้นไป สูงไป ขึ้นไป ผมร้องตะโกน พลางโบกมือทำสัญญาณให้เธอลอยขึ้นไป น้ำตาไหลเป็นทางอย่างไม่อายใคร เหมือนหัวใจหลุดลอยตามไปด้วย การร่วมทุกข์ร่วมสุขต่อสู้ด้วยกันมาทำให้ความผูกพันมากมายลึกซึ้ง
ผมเข้าใจแล้วว่า ท้องฟ้าเป็นสองมิติได้ ในสายตาของคนเรา เข้าใจแล้วจริง ๆ ภาพของหญิงสาวต่างดาวหยุดยืนบนท้องฟ้า ท่ามกลางกลุ่มเมฆขาวราวปุยนุ่น ของภาพเขียนสวยงาม ก่อนจะจางหายไป
.